เปิดเบื้องลึก ไวรัลคลิป “สลัมพม่า กลางภูเก็ต” แรงงานเปิดใจ อยู่ทำกินมานานกว่า 20 ปี ลูกหลาน เรียนฟรี
ภาพจากช่อง YOUTOBE : Ride with Gabi
ภาพจากช่อง YOUTOBE : Ride with Gabi
ข่าวที่น่าสนใจ
จากกรณีที่มียูทูบเบอร์ ชาวต่างชาติ ชื่อ “Ride with Gabi” ได้เผยแพร่คลิปคลิป “สลัมพม่ากลางภูเก็ต” เปิดโปงสลัมต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดในภูเก็ต การมีอยู่ของชุมชนแรงงานพม่า จ่ายค่าเช่าบ้านต่อเดือน ๆ ละ 3,600 บาท รวมค่าน้ำ-ค่าไฟแล้ว แถมมีโรงเรียนให้เด็กเรียนฟรี อาหารกลางวันฟรี เปิดแอร์เย็นฉ่ำ และผอ.โรงเรียนก็เป็นคนพม่า ซึ่งคลิปดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากนั้น
ล่าสุดทางผู้สื่อข่าว Top News ประจำจังหวัด จ.ภูเก็ต ลงพื้นที่ชุมชนปลากะตัก หมู่ 7 ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต พบกับลุงดำ ชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับ ชุมชนปลากกะตะ หรือ ชุมชนชาวพม่า-ชาวมอญ ลุงดำ เล่าว่า ชุมชนพม่า หรือ ชุมชนชาวมอญ มีคนใช้แรงงานกันอยู่เยอะซึ่งแทบจะไม่มีคนไทยอยู่ในนั้นเลย เมื่อก่อนเคยมีอนามัยชาวพม่าอยู่ด้านใน แต่ปัจจุบันไม่เห็นแล้ว เด็กส่วนใหญ่ก็จะออกไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนของพม่า ซึ่งอยู่ด้านหลังองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ส่วนใหญ่คนในชุมชนแห่งนี้ก็เรียบร้อยดี ไม่มีปัญหาอะไรกับใคร หรือ คนไทย อาจจะมีอยู่บ้างพวกกินเหล้าเมายาแต่น้อยมาก
ลุงดำ ยังบอกอีกว่า ส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนเรื่องของโรงเรียน จะมีมูลนิธิของชาวต่างชาติดูแลอยู่ ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้เด็กนักเรียน เรียนฟรี กินฟรี พักฟรี ส่วนเรื่องเจ็บไข้ไม่สบายถ้าเค้ามาถูกต้องตามกฎหมายก็สามารถไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลของรัฐของไทยได้
ด้านน.ส.พร ชาวบ้านใกล้โรงเรียน กล่าวว่า ตนมาอยู่ตรงนี้ก่อนโรงเรียนแห่งนี้จะเปิด ซึ่งตนอยู่มา 10 กว่าปีแล้ว ทุกวันนี้เสียงเด็กนักเรียนที่โรงเรียนนี้ดังมาก โดยเฉพาะช่วงจัดกิจกรรม และอีกอย่างซอยโรงเรียนแห่งนี้มันแคบอยู่ในชุมชนเด็กนักเรียนและผู้ปกครองซึ่งเป็นชาวเมียนมาขับรถกันอย่างเร็วเสียงดังรบกวนชาวบ้านในชุมชนมาก ขยะก็มาตั้งกองไว้กำแพงติดกันกับหลังบ้านชาวบ้านก็ส่งกลิ่นเหม็น แจ้งไปเทศบาลหลายครั้งแล้ว แต่รู้สึกวันนี้จะไม่ได้กลิ่นเหม็นน่าจะมีการจัดการขยะกันแล้ว
ด้าน โกเอ๋ ชาวบ้านในชุมชนรหัช ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เล่าว่า โรงเรียนพม่าแห่งนี้ขออนุญาตไม่ถูกต้อง คือ มีการขออนุญาตจัดตั้งเป็นโรงเรียนแต่ไม่ผ่าน จึงจัดตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้ ซึ่งก็ไม่ต่างจากโรงเรียน เมื่อก่อนมีเด็กนักเรียนไม่มาก ทางโรงเรียนก็มีนโยบายให้เด็กเรียนฟรี แต่ปัจจุบันมีเด็กนักเรียน ประมาณ 300 กว่าคน ตอนนี้ทางโรงเรียน เก็บเงินค่าเล่าเรียนหัวละ 1,000 กว่าบาท อันนี้ผู้ปกครองที่เป็นชาวพม่าเล่าให้ฟัง
ส่งที่ชาวบ้านในพื้นที่กังวลมากที่สุด คือ ชุมชนแห่งนี้มันเริ่มจะไม่สงบสุขแล้ว โรงเรียนเสียงมันดังมาก ยิ่งตอนจัดกิจกรรม ถนนก็แคบ เด็กนักเรียนซึ่งเป็นลูกหลานชาวพม่าก็ขับรถเร็วเสี่ยงอันตราย และยังมีปัญหาเรื่องขยะส่งกลิ่นเหม็น ชาวบ้านร้องเรียนกันประจำแต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขที่เป็นรูปธรรม เคยไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ตแล้ว แต่ทุกอย่างก็ยังเงียบ ต้องฝากไปถึงรัฐบาลไทยด้วยว่าจะให้เข้าหรือไม่หรืออย่างไร
น.ส.ฟ้า แรงงานชาวมอญในชุมชน เป็นคนงานต้มปลากะตะ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ตนมาอยู่ในชุมชนนี้ประมาณ 20 กว่าปีแล้ว จนมีลูกที่เกิดในเมืองไทยกับสามีชาวมอญด้วยกันหนึ่งคน แต่ส่งกลับไปอยู่กับแม่ที่เมียนมา เด็กในชุมชนนี้มีประมาณ 100 คน จะไปเรียนที่โรงเรียนพม่า ซึ่งอยู่ใกล้ใกล้กับโรงพยาบาลองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต โดยจะเรียนเฉพาะอนุบาล 1 2 และ 3 เท่านั้น หลังจากนั้นก็จะเรียนภาคปกติที่โรงเรียนของประเทศไทย เริ่มตั้งแต่ ป.1 เป็นต้นไป ซึ่งพวกตนที่ทำงานอยู่ในชุมชนปลาตะแห่งนี้ เข้ามาอย่างถูกต้องตามกฏหมาย มีบัตรพาสปอร์ต มีบัตรสีชมพู ซึ่งถ้าพวกตนมีงานทำมีรายได้ก็ไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนไทยเพราะพวกตนต้องการมีงานทำเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูล : Ride with Gabi
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น