วันนี้ (4 ตุลาคม 2564) สถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังน่าเป็นห่วงหลังจากการระบายน้ำของเขื่อนต่างๆ มีการระบายน้ำเพิ่มขึ้นสูง เช่น เขื่อนเจ้าพระยา ระบายน้ำอยู่ที่ 2,771 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที, เขื่อนพระราม 6 ระบายน้ำอยู่ที่ 762.19 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พบว่าแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย แม่น้ำป่าสักและแม่น้ำลพบุรี ที่ไหลผ่านพื้นที่นั้น ได้เกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนริมน้ำ ที่อยู่นอกเขตชลประทาน รวม 9 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอบางบาล อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางปะอิน อำเภอบางไทร อำเภอบางปะหัน อำเภอนครหลวง และอำเภอท่าเรือ รวม 107 ตำบล 579 หมู่บ้าน มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมกว่า 20,000 หลังคาเรือน และมีวัดริมแม่น้ำลำคลอง ถูกน้ำท่วมไปแล้วประมาณ 20 วัด
ทั้งนี้ จ.พระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่ 16 อำเภอ โดยตัวเลขจำนวนบ้านเรือน ที่รับผลกระทบ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกทุกวัน เพราะเขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนพระรามหก ยังปล่อยน้ำในระดับสูง อย่างไรก็ตามถนนสายหลักของจังหวัด ของประเทศที่พาดผ่านพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ยังใช้งานได้ตามปกติ และเขตเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัด เช่น เกาะเมืองอยุธยา ถนนโรจนะ ถนนสายเอเชีย ถนนพลโยธิน ยังไม่ได้รับกระทบ ทุกอย่างยังดำเนินธุรกิจได้เป็นปกติ รวมถึง เขตชุมชนเมืองใหม่ เขตอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว ยังไม่ได้รับผลกระทบ เพราะอยู่ในเขตป้องกันน้ำท่วม
รวมถึงยังคงให้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หลังจากมีการรายงานว่าจะมีพายุลูกใหม่เข้ามาในวันที่ 8 – 10 ตุลาคมนี้