สำนักพระราชวัง UAE-ACT(ACET) จับมือ MOU ครั้งประวัติศาสตร์ ผลักดันเป็นเงินสำรองแห่งชาติ

สำนักพระราชวัง UAE-ACT(ACET) จับมือ MOU ครั้งประวัติศาสตร์ ผลักดันเป็นเงินสำรองแห่งชาติ

นายวรวัฒน์ นาคแนวดี ผู้เชี่ยวชาญด้านฟินเทคและคริปโทเคอร์เรนซี และเป็นผู้ก่อตั้ง ACT(ACET) สินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลกที่ขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13มีนาคม 2025 ที่ผ่านมา ได้มีการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) อย่างเป็นทางการ ระหว่าง ACT(ACET) และสำนักพระราชวังของH.H. Sheikh Ahmed Bin Faisal Al-Qassimi (ชีค อาเหม็ด บิน ไฟซาล อัล กอซิมี) สมาชิกราชวงศ์แห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) หลังบรรลุข้อตกลงการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีบล็อกเชน การบริการ หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินแบบโทเคน และระบบการชำระเงินแบบดิจิทัลของ ACT(ACET) มาใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรมของ UAE โดยมีสาระสำคัญดังนี้

 

• นวัตกรรมบล็อกเชน – ผลักดันการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน การเงินโทเคไนซ์และระบบชำระเงินดิจิทัลด้วยเหรียญ ACT(ACET)
• ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระดับโลก – ส่งเสริมการเป็นพันธมิตรระดับสูงเพื่อเสริมสร้างตำแหน่งของ ACT(ACET) ในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล
• เงินสำรองของประเทศ – ศึกษาความเป็นไปได้ในการให้ ACT(ACET) ได้รับการยอมรับเป็นเงินสำรองของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
• ความร่วมมือกับหนึ่งในโครงการคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในโลก – ทำงานเพื่อการยอมรับ ACT(ACET) ในโครงการรีสอร์ตคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อเพิ่มประโยชน์ใช้สอยในโลกแห่งความเป็นจริง
• การสนับสนุนและอุปถัมภ์จากราชวงศ์ –ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ โดยฯพณฯ Sheikh Ahmed Bin Faisal Al-Qassimi ให้การสนับสนุนและเข้าร่วมงานสำคัญของ ACT(ACET)
• สิทธิ์ในการใช้แบรนด์ราชวงศ์ –ACT(ACET) ได้รับสิทธิพิเศษในการใช้ชื่อและโลโก้ของสำนักงานราชวงศ์ บนแพลตฟอร์มสื่อ PR และเอกสารทางการ
• เครือข่ายนักลงทุนและธุรกิจ –ACT(ACET) จะได้รับสิทธิ์เข้าถึงนักลงทุนระดับสูง ผู้นำธุรกิจ และเจ้าหน้าที่รัฐบาล
• การสนับสนุนด้านกฎหมายและใบอนุญาต– อำนวยความสะดวกในการขอใบอนุญาตและการปฏิบัติตามข้อกำหนดในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
• โอกาสทางธุรกิจระดับสูงสุด –ACT(ACET) จะได้รับ ความสำคัญเป็นอันดับแรกในการลงทุนและโครงการที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชน ภายในเครือข่ายของสำนักงานราชวงศ์

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายวรวัฒน์ กล่าวต่อว่า วันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ ACT(ACET) ที่ได้รับการยอมรับในระดับสูงสุด ซึ่งการที่สำนักพระราชวังของ H.H. Sheikh Ahmed Bin Faisal Al-Qassimi ให้การสนับสนุน ACT(ACET) ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีบล็อกเชน และศักยภาพของสินทรัพย์ดิจิทัลที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อระบบเศรษฐกิจ และการเปิดโอกาสให้ ACT(ACET) เป็นตัวเลือกในการใช้เป็นเงินสำรองของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAE) และใช้เป็นระบบชำระเงินแบบดิจิทัลในโครงการรีสอร์ตคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือที่ยิ่งใหญ่ ที่จะขับเคลื่อนนวัตกรรมทางการเงินผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน และขยายขอบเขตของ ACT(ACET) ที่ปัจจุบันมีผู้ถือครองกว่า 158,000 คน มีมูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 447 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 15,198 ล้านบาท ให้กลายเป็นอนาคตของเศรษฐกิจดิจิทัลระดับโลกต่อไป”

 

H.H. Sheikh Ahmed Bin Faisal Al-Qassimiกล่าวว่า “เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของเศรษฐกิจดิจิทัล และการร่วมมือกับ ACT(ACET) ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างระบบการเงินที่ล้ำสมัย เชื่อถือได้ และเป็นที่ยอมรับระดับสากล ซึ่ง ACT(ACET) มีศักยภาพอย่างมหาศาลในการเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของระบบการชำระเงินดิจิทัล และเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเงินที่มั่นคงในอนาคตได้

 

สำหรับ H.H. Sheikh Ahmed Bin Faisal Al-Qassimi ถือเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของราชวงศ์แห่งชาร์จาร์และราสอัลไคมาห์ (Sharjah & Ras al-Khaimah) ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางเศรษฐกิจของประเทศ เป็นผู้นำในการขยายโอกาสทางธุรกิจระหว่าง UAE และนานาชาติ โดยมีเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนมากมาย และยังเป็นประธานและผู้บริหารระดับสูงในบริษัทและองค์กรระดับโลก รวมถึงเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง (Co-Founder) กลุ่มบริษัท Al Qassimi Group of Companies และ Investments Co. ที่ดำเนินธุรกิจหลากหลายสาขา ได้แก่ การผลิต การค้าอสังหาริมทรัพย์ พลังงาน อุตสาหกรรมและการก่อสร้าง บริการท่องเที่ยวและการเดินทางโรงแรม ร้านอาหาร ธุรกิจการบริการ การเงิน และกำลังขยายธุรกิจไปในหลายภาคส่วน ผ่านการร่วมมือกับนักลงทุนที่ต้องการเปิดธุรกิจในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีเป้าหมายในการผลักดัน UAE ให้เป็นศูนย์กลางการลงทุนระดับโลก

นอกจากนี้สำนักงานส่วนพระองค์ของ H.H. Sheikh Ahmed Bin Faisal Al-Qassimi ยังได้ร่วมมือกับ เครือรีสอร์ตและคาสิโนหรูระดับ 5 ดาว ที่ใหญ่ที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุดในอุตสาหกรรมคาสิโนระดับไฮเอนด์ของโลก ที่มีมูลค่าธุรกิจรวมกว่า 12.98 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อลงทุนเปิดรีสอร์ตคาสิโนแห่งแรกในตะวันออกกลาง ณ เกาะอัล มาร์จัน รัฐราสอัลไคมาห์ ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 3,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นคาสิโนที่มีการลงทุนมากที่สุดในตะวันออกกลาง ซึ่งใหญ่กว่าคาสิโนในลาสเวกัส และเป็นคาสิโนที่ถูกกฎหมาย แห่งแรกของ UAE มีการบริการระดับพรีเมียม ครอบคลุมโรงแรมหรู ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ สปา ศูนย์การค้า สปา โรงหนัง ศูนย์การประชุมและจัดงานอีเวนต์ที่ทันสมัย ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2027

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“สุดาวรรณ” เผย บอร์ดอนุฯ ไฟเขียวดัน “พระปรางค์ วัดอรุณฯ” ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนเตรียมจัดเทศกาลปล่อยน้ำตูเจียงเยี่ยนที่เฉิงตู
ตำรวจตุรกีบุกจับนายกเทศมนตรีอิสตันบูลคู่แข่งสำคัญแอร์โดอัน
"ภูมิธรรม" เยี่ยม "ชาวอุยกูร์" ถึงบ้าน ขอโทษที่กักตัวนาน 10 ปี ด้าน "อุยกูร์" ย้ำ ไม่เคยเขียนจม.ถึงประเทศที่ 3
สื่อจีนสะใจทรัมป์สั่งพักงาน Voice of America
"กรมที่ดิน" เข้มกำหนดมาตรการป้องกันการถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าว
สหรัฐฯเปิดช่องคู่ค้าเลี่ยงภาษีตอบโต้
ศาลสหรัฐฯสั่งระงับปิด USAID -ชี้ส่อขัดรธน.
สภาเยอรมนีผ่านงบทหารครั้งประวัติศาสตร์
ศาลสั่งจำคุก 3 เดือน หนุ่มตบหน้าพยาบาลรพ.ระยอง ไม่รอลงอาญา สารภาพเหลือ 1 เดือน 15 วัน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น