วันที่ 4 ต.ค. –นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำพรรคเส้นทางใหม่ ระบุว่าที่พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความไม่พอใจที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มอบให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแล 4 กรมของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าเป็นตลกคั่นเวลา ว่า ตนเห็นว่า นายณัฐวุฒิ กำลังจะกลับไปยึดอาชีพเก่า นั่นก็คือการเป็นตัวโจ๊กในรายการโทรทัศน์ เพราะสิ่งที่นายณัฐวุฒิ พูดจาหรือกระทำการต่างๆ ในเวลานี้ ไม่ได้เป็นบทบาทของนักการเมืองที่ตั้งใจจะทำพรรคการเมืองที่จะเป็นเส้นทางใหม่ให้กับประชาชน เนื่องจากกรณีนี้ไม่ใช่เป็นกรณีแรกที่เป็นเรื่อง ‘ผิดฝาผิดตัว’ เพราะก่อนหน้านี้พรรคประชาธิปัตย์และตนก็เคยท้วงติงรัฐบาลในเรื่อง การมอบหมายให้รัฐมนตรีบางคนที่ไม่มีความเหมาะสมดูแลพื้นที่ภาคใต้ ตามโครงการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับพื้นที่จังหวัด จนกระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องยกเลิกคำสั่งดังกล่าว
นายชัยชนะกล่าวอีกว่า การที่นายณัฐวุฒินำมากล่าวอ้างนั้น ถือเป็นเรื่องที่พรรคฯ มีความชอบธรรมในการคัดค้านและท้วงติง เพราะก่อนหน้านี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ดีตรมช.เกษตรฯ ได้ดูแล 4 กรมของกระทรวงเกษตรฯคือ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร กรมพัฒนาที่ดิน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) โดยภายหลังจากที่มีการปลด ร.อ.ธรรมนัส พ้นจากตำแหน่งแล้ว กรมที่ ร.อ.ธรรมนัส เคยดูแลก็ควรกลับไปอยู่ที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการฯ เป็นจัดสรรปันส่วนกันใหม่ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องของการติติงและเสนอแนะตามสิทธิในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งนายณัฐวุฒิ คงไม่เข้าใจ เนื่องจากคงเคยชินกับการทำงานแบบซ้ายหันขวาหัน จากพรรคการเมืองที่เคยสังกัดอยู่ด้วย
นายชัยชนะกล่าวต่อว่า ตนเห็นว่านายณัฐวุฒิก็อยู่ในสนามการเมืองมาถึง 20 กว่าปี นับตั้งแต่เป็นผู้สมัคร ส.ส. ในปี 2544 จนปัจจุบัน ซึ่งระยะเวลามากมายขนาดนี้ ถ้าคนทำการเมืองด้วยหัวใจที่ห่วงใยและต้องการให้ชาวบ้านดีขึ้นแล้วนั้น เชื่อว่าป่านนี้นายณัฐวุฒิ ก็คงจะเป็นนักการเมืองที่ชาวบ้านเอ่ยชื่อแล้วมีความสุข แต่นายณัฐวุฒิคงไม่รู้ว่าอะไรจริงอะไรเล่น จึงทำงานทางการเมืองแบบจริงจังในเรื่องเล่นๆ แต่กลับทำเรื่องเล่นๆ ในเวลาที่จริงจัง รู้สึกเห็นใจนายณัฐวุฒิเป็นอย่างมาก เพราะสถานะแกนนำพรรคเส้นทางใหม่ คงไม่ได้มีสปอตไลท์ฉายแสงเหมือนกับการโพสต์เล่นๆ ให้ตนต้องมาส่องไฟฉายเพื่อให้ประชาชนพิจารณาเห็นว่า คนที่สนุกกับการเป็นตลกคั่นเวลานั่นคือ นายณัฐวุฒิ นั่นเอง