ก่อนหน้านี้ กันจอมพลัง ได้ออกมา เคลื่อนไหวตอบโต้ เรื่องนี้ผ่าน เพจเฟซบุ๊กช่วยสู้ โดยระบุว่า “เงินดอลลาร์จำนวนมากในโรงแรมหรูที่ ด อ ส ร เปิดให้พวกหลายคน 1 ในนั้นอ้างปล่อยอาวุธสงคราม ปล่อยดอลลาร์ เอาชื่อผมไปอ้างกับคนไปทั่วทั้งที่ไม่รู้จัก ถ้าขยายผลไปน่าเจอขบวนการแบงก์ปลอม”
ล่าสุดกัน จอมพลัง โพสต์อีกหนึ่งโพสต์ ระบุว่า มี 2 คนติดต่อมาหาผม 1 การ์ดที่ถูกแจ้งความว่าถูก ขังและทำร้าย คนในห้องที่มีแบงค์ดอลลาร์ปลอมกับ 2 คนที่อ้างชื่อผมและจะขอมาอธิบายผมพร้อมรับฟัง
ล่าสุด วันนี้ ( 21 มี.ค.) เวลา 10:30 น. นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” พา เท็ดดี้ หนึ่งในคนที่อ้างว่าถูกทำร้าย และเป็นคนที่แอบอ้างชื่อ กัน จอมพลัง พร้อมเจ้าหน้าที่การ์ด ที่ถูกกล่าวหาว่า มีพฤติกรรมข่มขู่คุกคามกรรโชกทรัพย์มาให้สัมภาษณ์สื่อ
โดย กัน จอมพลัง บอกว่า ตัวเองไม่สนใจเรื่องการกักขังทำร้ายร่างกาย แต่สิ่งที่ยอมไม่ได้คือมีการแอบอ้างชื่อตัวเองว่า เกี่ยวข้องกับ ขบวนการดอลลาร์ปลอม และ เรื่องอาวุธสงคราม ทั้งที่ที่ผ่านมา ตัวเองไม่เคยรู้จักหรือเกี่ยวข้องกับคนกลุ่มนี้เลย
ส่วนภรรยา ยอมรับว่า เคยมีการพูดคุยกับดิว อริสรา และเป็นเพื่อนเท็ดดี้ หนึ่งในผู้ที่ไปเกี่ยวข้องกับการแลกเงินดอลลาร์ แต่ตัวเองไม่รู้จัก หรือสนิทสนมเป็นการส่วนตัวเลย จึงไม่เข้าใจว่า เหตุใดจึงต้องนำชื่อไปแอบอ้างให้เสียหาย ส่วนตัวของดิวอริสรา ก่อนหน้านี้ ก็เคยฝากคนรู้จักไปเตือน เรื่องของการใช้ชีวิตว่าอย่าเกินตัวมากนัก
ด้าน “เท็ดดี้” หรือ ”จ๋อม“ ที่อยู่ในเหตุการณ์วันแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์ปลอม เปิดใจกับสื่อว่า สาเหตุที่อ้างชื่อกัน และภรรยาเนื่องจากตอนนั้นถูกดิว กดดันให้หาเงินมาชดใช้คืน ตัวเองไม่รู้จะทำยังไง จึงพยายามติดต่อไปหา หมิว ภรรยาของกัน จอมพลัง เพราะเคยรู้จักกันมาก่อน เพื่อขอความช่วยเหลือให้ช่วยคุยกับดิว ส่วนที่พูดถึงเรื่องค้าอาวุธเถื่อนนั้น ตัวเองเพียงแต่ได้ยินมาอีกทีว่า กัน จอมพลังและภรรยา สามารถเคลียร์ปัญหาเรื่องค้าอาวุธเถื่อนได้ และเป็นการพูดคุยสนุกๆไม่ได้จริงจัง
สำหรับเรื่องแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์ ยอมรับว่า รู้จักกับลูกค้าชายชาวจีน ที่ต้องการนำเงิน 3 ล้านดอลลาร์มาแลกเปลี่ยนเป็นเงินไทย ตัวเองเห็นว่ามีโปรเจคงานนี้มานานเป็นปีแล้วแต่ไม่มีใครรับทำ จนกระทั่งได้พูดคุยกับ“เกด” หนึ่งในกลุ่มผู้ที่นำเงินมาลงขันร่วมลงทุน บอกว่ามีช่องทางและสามารถทำงานนี้ได้จึงตอบตกลงกับชาวจีนไป และนำไปสู่วันแลกเปลี่ยน ซึ่งตัวเองยอมรับว่า รับรู้ได้ถึงความไม่ชอบมาพากล เพราะเงินดอลลาร์ มูลค่า 99 ล้านบาท แต่ชายชาวจีนคนดังกล่าวกลับ นำมาแลกกับเงินไทยเพียง 3,200,000 บาท พร้อมยอมรับว่า รู้อยู่ลึกๆว่าน่าจะเป็นเงินดอลลาร์เทาจากการทำผิดกฎหมาย แต่ “เกด”อ้างว่า สามารถทำได้ จึงตอบตกลงกับชายชาวจีนไป แต่ปรากฎว่า ได้แบงค์ดอลลาร์ปลอมกลับมาแทน
ขณะที่ นายโอ๊ต การ์ด ที่นักแสดงสาว ดิวอริสรา ว่าจ้างให้รักษาความปลอดภัยบุคคล 5 คน คือ เท็ดดี้ เกด/บอส/ชิน/แมน ในการนำเงิน 3.2ล้านบาท ไปแลกรับเงิน 3 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 99 ล้านบาท เล่าว่า ในวันที่ไปรับเงิน มีการ์ดไปเกี่ยวข้องกับการดูแลบุคคลรวมถึงเงิน4-5คน แบ่งเป็นตัวเองที่ได้รับการว่าจ้างเป็นรายเดือนจากดิวอริสรา ส่วนการ์ดที่เหลือได้รับเงินรายวัน 2000บาท แต่ท้ายที่สุดเมื่อการทำธุรกรรมล้มเหลว การ์ดที่เหลือก็แยกย้ายกลับ เหลือเพียงตัวเองที่ได้รับมอบหมายให้เคลียร์เรื่องเงินกับทั้ง 5คน
สำหรับการเคลียร์เงิน ดิวอริสรา มีการเปิดห้องโรงแรมให้ทั้ง 5คนอยู่ จำนวน 5 วัน ตกวันละกว่า 20,000บาท ซึ่ง ยืนยันว่า เป็นลักษณะของการอยู่ร่วมกันเพื่อพูดคุยหาทางออกเรื่องการเคลียร์เงิน ไม่ได้มีการกักขังข่มขู่ ทุกคนมีอิสระใช้ชีวิตส่วนตัว สามารถออกจากห้องและกลับบ้านได้ตามปกติ อีกทั้งในระหว่างที่อยู่ด้วยกันก็มีลักษณะสังสรรค์ปาร์ตี้ บางครั้งตัวเองก็เหมือนต้องรับบทเด็กเอนเตอร์เทนให้คนกลุ่มนี้ด้วย ซึ่งตัวเองมีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอขณะที่มีการชนแก้วแชมเปญ และมีเสียงเชียร์ให้ชนแก้วด้วย
ส่วนกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่า ตัวเองทำร้ายร่างกายหนึ่งในบุคคลที่อยู่ในห้อง ยอมรับว่า ในระหว่างที่อยู่ด้วยกัน ตัวเองทะเลาะกับคนชื่อชิน เนื่องจากไม่พอใจเรื่องคำพูดจนชกต่อยกันบนรถ แต่ยืนยันไม่ได้เกี่ยวกับการเคลียร์เงินหรือทวงหนี้ใดใด ซึ่งหลังจากที่ทะเลาะกันก็ได้เคลียร์ใจกันแล้วเสร็จ ยังกลับมากินข้าวพูดคุยกันปกติ
