“เนทันยาฮู” เงิบ ศาลฯเบรกหัวทิ่ม สั่งระงับปลดหัวหน้าข่าวกรองชินเบต
ข่าวที่น่าสนใจ
หลังจากเมื่อช่วงเช้าวานนี้ คณะรัฐมนตรีของอิสราเอล มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นชอบ ปลด “โรเนน บาร์” ออกจากตำแหน่งหัวหน้าหน่วยข่าวกรอง”ชินเบต” ซึ่งเป็นหน่วยงานความมั่นคงภายในประเทศ โดยให้มีผล วันที่ 10 เมษายน หรือ อาจเร็วกว่านั้นหากหาใครมาแทนตำแหน่งได้ “บาร์” อยู่ในตำแหน่งหัวหน้าหน่วยชินเบต ตั้งแต่ ปี 2564 การปลดเขามีขึ้นหลังจากเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรี เคยประกาศว่า จะปลดเขาออกจากตำแหน่ง และได้แจ้งให้เจ้าตัวทราบแล้ว การปลดครั้งนี้ ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของอิสราเอล เนื่องจากไม่เคยมีการปลด หัวหน้าหน่วยข่าวกรองโดยรัฐบาลมาก่อน โดยการตัดสินใจดังกล่าว เกิดขึ้นหลังการประชุมยาวนานถึง 3 ชั่วโมงครึ่ง
ที่ผ่านมา สื่ออิสราเอล รายงานว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง เนทันยาฮู กับ บาร์ ตึงเครียดมาโดยตลอดในการทำสงครามในฉนวนกาซ่า เนทันยาฮู ระบุว่า เขาไม่ไว้วางใจบาร์ มานานแล้ว และว่าความไว้เนื้อเชื่อใจในตัวของหัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงภายในนั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ในภาวะสงคราม
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างบาร์กับเนทันยาฮู ตึงเครียดมาก่อนที่กลุ่มฮามาส เปิดฉากโจมตีอิสราเอล เมื่อเดือน ต.ค. 2566 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นเกี่ยวกับการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ซึ่งทำให้ประเทศเกิดความแตกแยก
ที่ผ่านมา เนทันยาฮู วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของบาร์ มาตลอด หลังจากเกิดเหตุโจมตีช็อกโลก เมื่อกลุ่มฮามาส บุกเข้ามาก่อเหตุโจมตีในดินแดนอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปี 2023 ได้สังหารผู้คนไปราว 1,200 คน และยังจับไปเป็นตัวประกันในฉนวนกาซาอีก 251 คน ซึ่งนับเป็นหนึ่งในเหตุการณ์รุนแรงครั้งใหญ่ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวด้านความมั่นคงครั้งเลวร้ายที่สุดของอิสราเอล
ยิ่งไปกว่านั้น ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ก็แย่ลงกว่าเดิม หลังมีการเปิดเผยรายงานภายในของหน่วยข่าวกรองชินเบต เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งหน่วยงาน ยอมรับว่า ไม่สามารถป้องกันการโจมตีของกลุ่มฮามาสได้ พร้อมกับเสริมว่า นโยบายแบบปิดเงียบ ทำให้กลุ่มฮามาส สามารถเสริมกำลังทหารได้อย่างมาก แม้บาร์ เคยกล่าวเป็นนัย ๆ ว่า จะลาออกก่อนครบวาระการดำรงตำแหน่ง เพื่อรับผิดชอบต่อความล้มเหลวที่หน่วยชินเบต ไม่สามารถป้องกันการโจมตีได้
แต่การตัดสินใจปลดบาร์ …. ทำให้ฝ่ายค้านไม่พอใจอย่างมาก และนำไปสู่การประท้วง ที่กล่าวหาว่า เนทันยาฮู คุกคามประชาธิปไตย… นักวิเคราะห์การเมือง แสดงความเห็นว่า เป็นการแย่งชิงอำนาจของนายกรัฐมนตรี จากข้าราชการพลเรือนที่มีแนวคิดเป็นอิสระ นอกจากนี้ ยังมี ชาวอิสราเอล หลายหมื่นคน ออกมาชุมนุม สนับสนุนบาร์ ด้วย
บาร์ ซึ่งไม่ได้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ได้แสดงจุดยืนคัดค้านผ่านจดหมายถึง คณะรัฐมนตรี โดยระบุว่า เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ การตัดสินใจต่อเขาในครั้งนี้ “เต็มไปด้วยผลประโยชน์ทับซ้อน” เป็นความพยายามที่ “ไม่ชอบด้วยกฎหมาย” และข้อกล่าวหาที่ว่า เขาทุจริตก็ไม่มีมูลความจริง ซึ่งนั่นเพื่อขัดขวางการสืบสวนเรื่องอิทธิพลของประเทศกาตาร์ ที่มีต่อสำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอล
ล่าสุด เนทันยาฮู ไม่ประสบความสำเร็จ ในการไล่ออก “บาร์” แม้คณะรัฐมนตรี จะมีมติเอกฉันท์ให้ไล่ออกก็ตาม เนื่องจาก ศาลฎีกา มีคำสั่งระงับการไล่ออกเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการพิจารณาอุทธรณ์ ก่อนวันที่ 8 เมษายน หรือ ก่อนที่มติของคณะรัฐมนตรี จะมีผลบังคับในวันที่ 10 เมษายน นี้ ตามที่ อัยการสูงสุดของอิสราเอล มีความเห็นว่า “คณะรัฐมนตรี ไม่มีอำนาจในทางกฎหมายที่จะปลด หัวหน้าหน่วยข่าวกรองชินเบต”
อีกด้านหนึ่ง “อิสราเอล แคทซ์” รัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอล ย้ำว่า เขาได้ออกคำสั่งให้ กองกำลังภาคพื้นดิน รุกคืบเข้าไปในฉนวนกาซาให้มากขึ้น และให้คำมั่นว่าจะยึดครองดินแดนเพิ่ม ทำการขับไล่ชาวปาเลสไตน์ และขยายเขตปลอดภัย เพื่อปกป้องชุมชนชาวอิสราเอลและทหารอิสราเอล จนกว่า ฮามาสจะปล่อยตัวตัวประกันที่เหลืออยู่ทั้งหมด ขณะนี้ กองทัพอิสราเอล ยึดครองส่วนหนึ่งของเส้นทางระเบียงเนตซาริม ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์แบ่งภาคเหนือกับภาคใต้ของฉนวนกาซาไว้แล้ว และเคลื่อนกำลังพลต่อไปยัง เมืองเบต ลาฮิยา ทางตอนเหนือ และ ราฟาห์ ทางชายแดนตอนใต้ เพื่อปิดล้อมพื้นที่ทางตอนเหนือของกาซาอีกครั้ง
รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล กล่าวด้วยว่า หากกลุ่มฮามาส ยังคงปฏิเสธที่จะปล่อยตัวประกันที่เหลือ ฮามาสก็จะยิ่งสูญเสียมากขึ้น จากการที่ถูก อิสราเอลผนวกดินแดน และอิสราเอลจะใช้ปฏิบัติการอย่างเข้มข้นมากขึ้น จนกว่าตัวประกันจะได้รับการปลดปล่อย”
ขณะที่ กลุ่มฮามาส ออกแถลงการณ์ ปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่า ฮามาส ได้ยุติการเจรจาเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนตัวประกันกับอิสราเอล
แถลงการณ์ ระบุว่า “เราขอปฏิเสธข่าว จากหนังสือพิมพ์ เยดิโอธ อาโฮรนอธ Yedioth Ahronoth ของอิสราเอล ที่รายงานว่า เราได้ตัดขาดการติดต่อ หรือ ได้ยุติการเจรจาเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนตัวประกันอิสราเอลกับนักโทษปาเลสไตน์” ฮามาส ยืนยันว่า ข้อตกลงดังกล่าว ยังคงเป็นแกนหลักของการเจรจา และฮามาส ทำการติดต่อกับตัวแทนจากชาติเป็นกลาง ด้วยความรับผิดชอบและด้วยความจริงจัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น