“หมอเหรียญฯ” คลายสงสัยถูกมองเป็นคนใจร้อน เล่าไทม์ไลน์ชีวิต ผ่านสารพัดปัญหา ยึดหลักทรงงาน ร.9 สร้าง “รพ.มงกุฏวัฒนะ” มั่นคง

"หมอเหรียญฯ" คลายสงสัยถูกมองเป็นคนใจร้อน เล่าไทม์ไลน์ชีวิต ผ่านสารพัดปัญหา ยึดหลักทรงงาน ร.9 สร้าง "รพ.มงกุฏวัฒนะ" มั่นคง

“หมอเหรียญฯ” คลายสงสัยถูกมองเป็นคนใจร้อน เล่าไทม์ไลน์ชีวิต ผ่านสารพัดปัญหา ยึดหลักทรงงาน ร.9 สร้าง “รพ.มงกุฏวัฒนะ” มั่นคง

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

22 มี.ค. 2568 พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่าผมเป็นคนบุ่มบ่าม ใจร้อน แต่ไม่รู้หรอกครับว่าผมเป็นคนที่คิดรอบคอบ ผมจะประเมินสถานการณ์ก่อนตัดสินใจทำ ผมเป็นคนขยันหมั่นเพียร ผมยึดหลักการทรงงานของพระเจ้าอยู่หัวฯรัชกาลที่ ๙ เป็นมงคลชีวิต
เมื่อ พ.ศ.2533 ผมอายุ 30 …ยังเป็นทหารยศแค่ ร.อ. เพิ่งจบบอร์ดแพทย์เฉพาะทาง ผมประเมินสถานการณ์ว่าย่านถนนแจ้งวัฒนะซึ่งเป็นชานเมืองกรุงเทพฯ ยังมีรถประจำทางแค่ สาย 52 กับ 1129 เท่านั้น …แต่ผมประเมินว่าย่านนี้จะต้องมี รพ. แล้วผมก็ศึกษาความเป็นไปได้และวางแผนลงทุน ‘รพ.เอกชนในย่านแจ้งวัฒนะ’ จนเป็นที่มาของ รพ.มงกุฎวัฒนะ ที่ก่อตั้งในปี พ.ศ.2534 ตราบจนครบ 34 ปีในเดือน พ.ค.68 นี้

เมื่อ พ.ศ.2539 ผมอายุ 36 …เป็นนายทหารยุทธการแล้ว ก่อนวิกฤตเศรษฐกิจฟองสบู่แตก ผมในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เข้าหาธนาคากรุงไทย เพื่อหาทางเจรจาหนี้ให้แก่ บริษัท มงกุฎวัฒนะ จำกัด(มหาชน) สมัยนั้นยังไม่มีคำว่า “Debt Restructuring’ ผมเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่เคยเบี้ยวหนี้ใคร ไม่มีก็พยายามหาหนทางแก้ไข
จนเมื่อเศรษฐกิจฟองสบู่แตกใน มี.ค.40 ธุรกิจต่างๆล้มครืนในชั่วข้ามคืน ผมเป็นคนทำงานทุกคืน ทุกวันหยุดทั้งวันทั้งคืน ไม่ใช้เวลาราชการมาทำธุรกิจส่วนตัว ผมทำหน้าที่วางแผนให้พี่สาวของผมซึ่งเป็นผู้บริหาร เพื่อหาหนทางแก้ไขหนี้สินจำนวนมากกว่า 1 พันล้านบาท

 

 

ผมทำแผน “ตีโอนทรัพย์ รพ.มงกุฎวัฒนะ หรือ บริษัท มงกุฎวัฒนะ จำกัด(มหาชน) ชำระหนี้ให้แก่ธนาคารกรุงไทย แล้ว บริษัท มงกุฎวัฒนะ จำกัด(มหาชน) ก็ขอเช่าจากธนาคารกรุงไทย ระยะเวลา 10 ปี ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงไทยก็จะสามารถลดหนี้เสียของมงกุฎวัฒนะได้ ขณะเดียวกันก็มีรายได้จากการที่มงกุฎวัฒนะขอเช่า ในทุกๆเดือน ระยะเวลา 10 ปี หากมงกุฎวัฒนะมีความสามารถในการชำระหนี้ [Debt Coverage] โดยมงกุฎวัฒนะเพิ่มทุนส่วนหนึ่งแล้วขอสินเชื่อจากธนาคารกรุงไทยอีกส่วนหนึ่ง เพื่อซื้อทรัพย์ รพ.มงกุฎวัฒนะ หรือ บริษัท มงกุฎวัฒนะ จำกัด(มหาชน) จากธนาคารกรุงไทย กลับคืน บริษัท มงกุฎวัฒนะ จำกัด(มหาชน)”

 

นี่คือแผนการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ที่ผมเสนอต่อ ‘คณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ คณะที่ 10 ธนาคารแห่งประเทศไทย’ ใน ธ.ค.2542 จึงเป็นที่มาของการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ระหว่างธนาคารกรุงไทย กับ บริษัท มงกุฎวัฒนะ จำกัด(มหาชน) …แต่ธนาคารกรุงไทยไม่เอาด้วยกับแผนของผมนะครับ แต่ก็สามารถเริ่มต้นแผนการปรับโครงสร้างหนี้ในลักษณะการขยายเวลาชำระหนี้ ปรับแล้ว ปรับอีก จนกิจการ รพ.มงกุฎวัฒนะมีความสามารถชำระหนี้ในที่สุด

เมื่อ พ.ศ.2554 ผมอายุ 51 …ขณะที่เกิดมหาอุทกภัย มวลน้ำจำนวนมากโถมเข้ามายังภาคกลาง ท่วมเข้าสู่ รพ.พระนครศรีอยุธยา – รพ.ปทุมธานี จนต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจำนวนมาก ผมสั่งการให้รับผู้ป่วยจำนวนมากจาก รพ.พระนครศรีอยุธยา – รพ.ปทุมธานี จนแน่น รพ.มงกุฎวัฒนะ

แล้วมวลน้ำก็ท่วมเข้าสู่เขตหลักสี่ กระทรวงสาธารณสุขขณะนั้นขอให้ผมเคลื่อนย้ายผู้ป่วยอาการหนักทั้งหมดไปยัง รพ.อื่นๆ แต่กระทรวงสาธารณสุขไม่ได้เตรียม รพ.อื่น ๆ ให้เราส่งต่อ ให้ผมไปหาเอาเอง

ผมบอกตรง ๆ ว่า ผมไม่เสียเวลาด้วยในสถานการณ์วิกฤตจากสาธารณภัยที่ไม่มีความแน่นอนใน รพ.ที่จะรับการส่งต่อผู้ป่วยอาการหนักจำนวนมาก ผมตัดสินใจตั้งป้อมปราการป้องกันน้ำท่วม รพ.มงกุฎวัฒนะ เป็น ‘4 ลำดับขั้น’ แถมยังยึดเกาะกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ หน้า รพ. ทำ ‘ท่าเรือ รพ.มงกุฎวัฒนะ’ แล้วย้ายแพทย์และบุคลากรในสังกัดมาพักอาศัยใน รพ.มงกุฎวัฒนะ เสมือน ‘บ้านบางระจัน’

ทำให้ท่ามกลางมหาอุทกภัย 100% ในพื้นที่ตอนเหนือของ กทม มี รพ.มงกุฎวัฒนะ เป็น ‘ศูนย์รับการส่งต่อผู้ป่วยจากพื้นที่มหาอุทกภัย’ มีเรือ มีรถทหารมาส่งผู้ป่วยที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ ทั้งวันทั้งคืน …เรารักษาชีวิตผู้ป่วยนับแสนรายในระหว่าง ก.ย.-ต้น ธ.ค.54

เมื่อ พ.ศ.2557 ผมอายุ 54 …ขณะที่มีการชุมนุม กปปส ที่ ถ.แจ้งวัฒนะ ผมประเมินสถานการณ์ว่าพื้นที่ชุมนุมแจ้งวัฒนะ ผู้ชุมนุมจะประสบปัญหาอาวุธสงคราม ทั้ง เอ็ม 79 ระเบิดสังหาร อาวุธปืน

ดังนั้นผมจึงเตรียมพร้อม รพ.มงกุฎวัฒนะให้พร้อมรับมือกับการบาดเจ็บจากอาวุธสงคราม
คืนวันศุกร์ที่ 13 ก.พ.57 ประมาณ 1 ทุ่ม มีการยิง เอ็ม 79 ลงไปยังพื้นที่ชุมนุม มีผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย รายที่สาหัสที่สุด ชื่อ นายสุวรรณ แก้วพุฒิ เป็นคนจังหวัดอุทัยธานี สะเก็ดระเบิดเอ็ม 79 ทะลุปอดเข้าอยู่เส้นโลหิตแดงใหญ่ [Aorta] ศัลยแพทย์หัวใจและคณะผ่าตัดช่วยชีวิต คุณ สุวรรณ แก้วพุฒิ รอดปลอดภัยอย่างเหลือเชื่อ
เมื่อ พ.ศ.2563 ผมอายุ 60 …โรคโควิด-19 เริ่มเข้าสู่ราชอาณาจักรไทย ผมประกาศจัดตั้ง ‘ศูนย์สำรองเตียงสนับสนุนกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข’ ในยุคอธิบดี ชื่อ สมศักดิ์ อรรฆศิลป์

บุคลากรทางการแพทย์สังกัด รพ.มงกุฎวัฒนะติดเชื้อโควิด-19 ในเดือนแรกของการรับผู้ป่วยโควิด-19 มากเกือบ 200 คน
มีคนจำนวนมากว่าผมว่าบ้าบิ่นจนลูกน้องติดโควิด-19 ผมขอพูดวันนี้ก็แล้วกันว่า “โควิด-19 ขณะนั้นยังไม่มีวัคซีน ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับโรคนี้มากนัด เพราะเป็นโรคอุบัติใหม่ หากเราไม่เรียนรู้กับโรคนี้ด้วยการรับการส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว เมื่อไหร่ เราจะสู้กับมันได้ล่ะครับ”

หลังจากสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ระลอกที่ 1 แล้ว ทำให้ผมเรียนรู้ประสบการณ์หลายอย่าง ผมประกาศต่อสาธารณะหลังจากที่รัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศเลิกมาตรการล็อคดาวน์ว่า “หากเกิดการระบาดโควิด-19 ในระลอกถัดไป ผมจะ ‘ปฏิบัติการ รพ.สนาม ขั้นสมบูรณ์’ อย่างเป็นลำดับขั้น

เมื่อ พ.ศ.2564 …ผมอายุ 61 เดือน มี.ค.64 โควิด-19 สายพันธ์เดลต้า หรืออินเดียที่รุนแรง แพร่ระบาดเร็วเข้าสู่ กทม…ผมก็เริ่ม ‘ปฏิบัติการ รพ.สนาม ขั้นสมบูรณ์’ อย่างเป็นลำดับขั้นทันที สามารถรักษาชีวิตผู้ป่วยโควิด-19 อาการหนักจัดชั้นสีแดง มากถึง 150,000 ราย ติดอันดับที่ 3 ของประเทศ รองจากอันดับ 1 คือ รพ.มหาราช นครราชสีมา และอันดับ 2 คือ รพ.จังหวัดชลบุรี
เมื่อ พ.ศ.2566-2567 …ผมอายุ 63-64 ผมเห็นว่าสถานการณ์ระบบส่งต่อผู้ป่วยนอกของ สปสช หรือที่เรียกว่า ‘OP refer’ มีปัญหาและน่าจะรุนแรงมากยิ่งขึ้น จริงๆแล้วปัญหาการขอใบส่งตัวผู้ป่วยจากคลินิกแสนจะยากลำเค็ญนั้น จะไปกล่าวโทษแต่คลินิกไม่ได้ ต้องกล่าวโทษ สปสช ด้วย …ใครจะผิดมากกว่ากันนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่างไรก็ตามประชาชนก็ต้อง ‘กัดฟันพึ่งตนเอง’ ด้วย นี่คือหลักความสมดุล ไม่ใช่จะกล่าวโทษแต่คลินิก และ สปสช เท่านั้น ที่สำคัญยิ่ง คือ รัฐบาล จะต้องเลิกทำโครงการประชานิยมซื้อเสียงที่ทำให้งบประมาณสาธารณสุขไม่เพียงพอจนประชาชนที่เจ็บป่วยต้องเดือดร้อน
พ.ศ.2568 ….ผมอายุ 65 แล้ว ผมประเมินว่าระบบส่งต่อผู้ป่วยบัตรทองจากคลินิกซึ่งเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ จนทำให้คลินิกซึ่งเป็นหน่วยปฐมภูมิส่วนหนึ่งไม่อาจทนอยู่ในระบบนี้ได้และต้องทะยอยถอนตัวตัวลาออก ปิดตัวลง

สปสช จะต้องเริ่มคิดและหาทางให้ ‘รพ.ที่รับส่งต่อ’ มาช่วย ‘รับตรง’ แต่จะติดปัญหาที่ภาระงานของ ‘รพ.ที่รับส่งต่อ’ จะแออัดจนไปไม่ไหว ปัญหาสาธารณสุขมันก็วนเวียนวนว่ายกันไปอย่างนี้แหละครับ

วันนี้ผมก็กำลังเดินหน้าโครงการ ‘บัตรทองแพลตตินั่ม’ รพ.มงกุฎวัฒนะ ที่เทียบเคียงกับการเตรียมการเผชิญสถานการณ์โควิด-19 เมื่อปี 63-64 นั่นแหละครับ

ผมก็เป็นคนแก่ ที่ยังมุทะลุ บุ่มบ่าม ใจร้อน แต่ไม่รู้หรอกครับว่าผมประเมินสถานการณ์ก่อนตัดสินใจเสมอ ที่สำคัญผมน้อมนำหลักการทรงงานของพระเจ้าอยู่หัวฯรัชกาลที่ ๙ เป็นมงคลชีวิตในการเผชิญปัญหา

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

มีผลแล้ว ราชกิจจาฯ ประกาศ ระเบียบจ่ายเงินเยียวยา เหยื่อจากการทรมาน-สูญหาย
"อนุทิน" ลั่นเคยขึ้นเขียงแล้ว 6 ครั้ง เตือนนายกฯ ต้องใจเย็น ควบคุมอารมณ์ หวั่นฝ่ายค้านกดดันศึกซักฟอก
ตร. ตั้งปม "ฝรั่งคลั่ง" ทำร้ายหมอฟัน เสียชีวิต 2 ประเด็น หลังพบบาดแผล อาวุธมีดถูกทับใต้ร่าง
มทภ.2 เยี่ยมบำรุงขวัญ ทหารช่องบก-เนิน 500 จ.อุบลราชธานี ลั่นพร้อมปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มขีดความสามารถ
"ฮามาส" โต้ถอนตัวหยุดยิง "อิสราเอล" เขมือบกาซาระดมกระสุนหนัก
ตร.ไซเบอร์ รวบแก๊งวัยรุ่นหัวหิน เปิดเว็บพนันออนไลน์ 8 เดือน พบเงินหมุนเวียนกว่า 8 ล้านบาท
ทนายความ "ดิว อริสรา" เตรียมส่งคืนนาฬิกาหรู "เมย์ วาสนา" ย้ำดาราสาว ยินยอมรับสภาพหนี้กับร้านรับจำนำ
"หมอเหรียญฯ" คลายสงสัยถูกมองเป็นคนใจร้อน เล่าไทม์ไลน์ชีวิต ผ่านสารพัดปัญหา ยึดหลักทรงงาน ร.9 สร้าง "รพ.มงกุฏวัฒนะ" มั่นคง
สยอง พบร่าง "ฝรั่งคลั่ง" ทำร้ายหมอฟัน เสียชีวิตในบ้านพัก ตร.เร่งสอบคลี่ปม
"เนทันยาฮู" เงิบ ศาลฯเบรกหัวทิ่ม สั่งระงับปลดหัวหน้าข่าวกรองชินเบต

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น