วันนี้ นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับยาโมลนูพิราเวียร์ ที่เป็นยากินชนิดเม็ด รักษาโควิด19 ตัวใหม่ว่า ข่าวดีคณะกรรมการที่ปรึกษาตัดสินให้ยุติการศึกษาวิจัยยาต้านไวรัสโมลนูพิราเวียร์ทางคลินิกในมนุษย์ระยะที่ 3 วันที่ 1 ตุลาคมแทนที่จะเป็นปลายปี เนื่องจากผลการศึกษาพบว่ายาโมลนูพิราเวียร์เมื่อเปรียบเทียบกับยาหลอกมีประสิทธิภาพรักษาโรคโควิด-19 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยบริษัทเมอร์คกำลังยื่นขอการรับรองโมลนูพิราเวียร์จากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ FDA ให้ใช้เป็นกรณีฉุกเฉิน ซึ่งโมลนูพิราเวียร์จะเป็นยาต้านโควิดชนิดเม็ดตัวแรกที่ได้รับการรับรองจากทางการสหรัฐฯ เพราะในสหรัฐฯไม่มีการรับรองให้ใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ เหมือนบ้านเรา
ทั้งนี้บริษัทเมอร์คศึกษาและทดสอบการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ในกลุ่มคนติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศลาตินอเมริกา ยุโรป และแอฟริการวม 775 คน มุ่งเน้นคนติดเชื้อที่ยังไม่ฉีดวัคซีน และคนที่มีความเสี่ยง เช่น คนสูงอายุ เบาหวาน โดยพบว่าผู้ติดเชื้อที่ได้รับยาแคปซูลโมลนูพิราเวียร์ขนาด 200 มิลลิกรัม 4 เม็ด วันละ 2 ครั้ง เป็นระยะเวลา 5 วัน ประมาณ 7.3% เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และไม่พบผู้เสียชีวิตจากโควิดในกลุ่มตัวอย่างนี้ตลอดการรักษา 29 วัน ขณะที่กลุ่มคนติดเชื้อที่ได้ยาหลอกมีผู้ที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล 14.1% และมีผู้เสียชีวิตจากโควิด 8 ราย และยาโมลนูพิราเวียร์สามารถลดความเสี่ยงที่จะเข้านอนโรงพยาบาลได้ถึง 50% อีกทั้งยานี้มีผลข้างเคียงต่ำ แต่ไม่แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์ ซึ่งการรักษาต้องให้ยานี้เร็วที่สุดภายในเวลา 5 วันหลังเริ่มมีอาการ
นายแพทย์มนูญ ระบุอีกว่า ยาโมลนูพิราเวียร์ออกฤทธิ์ต่อไวรัสโควิดทั้งสายพันธุ์เดลตา แกมมา และมิว โดยทำให้รหัสพันธุกรรมของไวรัสโควิด-19 ผิดปกติ เวลาไวรัสก๊อปปี้ตัวเอง จะไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้ แต่เรายังไม่มีข้อมูลใช้ยานี้นานๆจะเกิดการดื้อยาหรือไม่ โดยบริษัทเมอร์คตั้งเป้าผลิตยาให้ได้ สำหรับ 10 ล้านคนภายในปีนี้ ทางการสหรัฐฯ เตรียมสั่งจองโมลนูพิราเวียร์แล้วสำหรับ 1.7 ล้านคน ราคายา 700 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน เบื้องต้นบริษัทเมอร์คได้ทำสัญญากับฐานการผลิตยาหลายแห่งในประเทศอินเดีย เพื่อส่งยาโมลนูพิราเวียร์ราคาถูกให้กับประเทศที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง นอกจากบริษัทเมอร์คแล้ว ยังมีอีกหลายบริษัท เช่น ไฟเซอร์ และโรช ก็กำลังศึกษายาต้านไวรัสชนิดเม็ดเช่นเดียวกันในการรักษาผู้ป่วยโควิด ซึ่งเมื่อไหร่ที่ประเทศไทยได้ยาโมลนูพิราเวียร์จากประเทศอินเดีย เราควรเลิกใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ทันที เพราะยาโมลนูพิราเวียร์มีประสิทธิภาพเหนือกว่าแน่นอน