โอน 4 กรมสำคัญให้บิ๊กป้อมดูแล พลังประชารัฐล้วงลูกประชาธิปัตย์ ระวังรัฐบาลพังก่อนเวลาอันควร

ย้อนอดีตประชาธิปัตย์ถูกพลังประชารัฐแย่งเค้กหยิบชิ้นปลามันไปกิน เกาเหลางัดข้อกันมาหลายเรื่อง ตั้งประวิตรคุมประมง แก้รัฐธรรมนูญเกินหลักการ แบ่งงานรัฐมนตรีคุมพื้นที่ ล่าสุดโอน 4 กรมสำคัญกระทรวงกระเกษตรฯไปคุมเอง งัดกันหนักหักกันแรงระวังรัฐบาลพัง

กลายเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตขึ้นมาจนได้หลังครม.มีมติมอบหมายงานให้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ คุม 4 กรมของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกอบด้วย 1. กรมพัฒนาที่ดิน 2.กรมฝนหลวงและการบินเกษตร 3.สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และ 4.องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) ที่เดิมมี “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ดูแลอยู่ เรื่องนี้มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากพรรคพลังประชารัฐหวงก้าง ไม่อยากให้ใครมายุ่งกับ 4 กรมที่ตัวเองดูอยู่ ที่สุดก็ต้องหาทางออกด้วยการออกมติครม.พิศดารโอน 4 กรมสำคัญของกระทรวงเกษตรฯ ไปให้พล.อ.ประวิตรดูแทน ทั้งๆที่พล.อ.ประวิตรไม่ได้ดูกระทรวงเกษตรฯ หนำซ้ำทางพรรคพลังประชารัฐก็ไม่มีรัฐมนตรีนั่งในกระทรวงนี้เลยแต่ครม.กับโอน 4 กรมนี้ไปให้พรรคพลังประชารัฐดูไปใส่ในมือพล.อ.ประวิตร เสมือนหนึ่งต้องการให้ร.อ.ธรรมนัสที่พ้นจากครม.เรือแป๊ะไปแล้วยังสามารถกำกับดูแล 4 กรมเก่าในความรับผิดชอบต่อไปได้แม้จะไม่ได้เป็นรัฐมนตรีแล้วก็ตามที

งานนี้เรียกว่าเรียกแขกแบบเต็มๆ โดยเฉพาะฝั่งพรรคประชาธิปัตย์ถึงกับควันออกหูเรียงแถวยกโขยงออกมาอัดแหลกรัฐบาลแบบจัดหนักไม่ไว้หน้ากันเลยทีเดียว ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ออกมาระบุ การดูแลงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นั้นมีเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นรมว.ว่าการอยู่แล้ว ส่วนจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็ทำหน้าที่ควบคุมดูแลในฐานะรองนายกฯ เป็นไปตามหลักบริหารราชการแผ่นดินชัดเจน ตามธรรมเนียมที่รองนายกฯพรรคใดก็ต้องดูแลงานที่รัฐมนตรีพรรคของตนเป็นเจ้ากระทรวงอดีตก็ปฏิบัติกันมาแบบนี้ ” คำสั่งรวบงานไป 4 กรม ต้องถามว่าเพื่อประชาชนหรือเพื่อใคร หลักการบริหารราชการแผ่นดินให้กลับไปศึกษาให้ดี ความคิดของคนถ้าคิดดีทำดีไม่เป็นปัญหาแน่ ถ้านายจุรินทร์จะขอดูกรมในกระทรวงที่พรรคพลังประชารัฐเป็นรัฐมนตรีว่าการบ้าง ส.ส.พลังประชารัฐ จะคิดอย่างไร เราทำงานร่วมกันควรให้เกียรติกัน ทุกพรรคมีศักดิ์ศรี ถ้าคิดกันแบบนี้ ทำกันแบบนี้ จะทำงานร่วมกันได้อย่างไร อย่าคิดว่าจะทำอะไรก็ได้ พรรคจะตอบประชาชนอย่างไร เรื่องนี้เชื่อว่าหากยังเป็นอยู่เช่นนี้ ยากที่จะราบรื่น” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์อัดแหลก

 

ด้านสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง ระบุ รัฐบาลทำแบบนี้ถือว่าไม่ให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาล ระวังจะทำให้เกิดผลเสียเกิดรอยร้าว โดยเฉพาะการทำงานในสมัยประชุมหน้าที่รัฐบาลยังต้องออกกฎหมายสำคัญๆอีกหลายฉบับระวังจะไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้แทน ส่วน “รมว.เกษตรฯเงา” อลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่ปรึกษารมว.เกษตรฯ ระบุไม่ใช่ความขัดแย้งในเชิงนโยบาย แต่เป็นปัญหาการบริหารราชการแผ่นดิน พร้อมแนะวิธีแก้ปัญหา 4 ข้อ คือ 1.ยกเลิกคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกฯ ฉบับดังกล่าว 2.เร่งแต่งตั้งรมช.เกษตรและสหกรณ์ตามโควต้าของพรรคพลังประชารัฐโดยเร็ว 3.นายกฯควรปรึกษาหารือกับจุรินทร์และเฉลิมชัยในประเด็นการบริหารราชการแผ่นดินที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงที่พรรคประชาธิปัตย์กำกับดูแลเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแบบนี้อีก

คราวนี้ถือว่าพรรคพลังประชารัฐเปิดศึกกับพรรคประชาธิปัตย์มาแบบเต็มๆ ทั้งๆที่ความจริง 4 กรมนี้ก็ไม่ได้มีงบประมาณมากมายอะไร เป็น 4 กรมที่มีแต่งานแต่ไม่ค่อยมีงบ จะมีแค่กรมพัฒนาที่ดินเท่านั้นที่มีงบประมาณราว 3 พันกว่าล้านบาทต่อปี ส่วนอีก 3 กรมอย่างกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ,ส.ป.ก., อตก. ไม่มีงบให้ใครมาถลุงมาเผาผลาญตั้งนานแล้ว โดยเฉพาะหากเทียบกรมหัวกะทิของกระทรวงเกษตรฯ อย่าง กรมชลประทานที่ได้งบประมาณปีละหลายหมื่นล้านบาท หรือกรมส่งเสริมการเกษตร ฯลฯ ที่พรรคประชาธิปัตย์กวาดไปดูเรียบ ประเด็นเรื่องการขอโอน 4 กรมไปดูแลเอง จึงน่าจะมาจากเรื่องของศักดิ์ศรีที่พรรคพลังประชารัฐไม่อยากให้ 4 กรมในความรับผิดชอบของตัวเองไปตกอยู่ในมือคนอื่นมากกว่า อีกเรื่องก็คือการมีโอกาสดูแล 4 กรม น่าจะทำให้พรรคพลังประชารัฐพอมีผลงานที่กระทรวงนี้ไปอ้างถึงบ้าง อย่างน้อยเท้าก็ยังติดดินหลังก็ยังพิงเกษตรกรมีผลงานให้พูดถึงมีนโยบายให้ลงพื้นที่ไปพบชาวบ้านได้บ้าง แต่ถ้าไม่มีกรมให้ดูแลเลยผลงานทุกอย่างของกระทรวงเกษตรฯ ก็จะถูกเคลมเป็นโบว์แดงของพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทยหมด พรรคพลังประชารัฐก็จะต้องเป็นหมาหัวเน่าไม่มีผลงานใดๆที่กระทรวงนี้เลย ข้อมูลล่าสุดของกระทรวงเกษตรฯ ณ วันที่ 19 ก.ย. 2564 ประเทศไทยมีเกษตรกร 8,037,536 ครัวเรือน มีจำนวนเกษตรกร 9,088,459 คน รากหญ้ารากแก้วเหล่านี้คะแนนเสียงล้วนๆ ไม่รักษาดูแลไว้ก็เรียกว่าโง่เต็มทน อย่าได้แปลกใจหากพรรคพลังประชารัฐจะไม่ยอมปล่อย 4 กรมให้พรรคประชาธิปัตย์มาหยิบชิ้นปลามันไปกิน

ย้อนอดีตกลับไปก่อนหน้านี้ พรรคพลังประชารัฐกับพรรคประชาธิปัตย์เคยเกาเหลาแย่งเค้กกันมาหลายเรื่อง รอบนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกก่อนหน้านี้ก็มีหลายเรื่องหลายประเด็นที่หักกันแรง เท่าที่จำความได้ประกอบด้วย 1.ตั้งพล.อ.ประวิตร เป็นประธานแก้ไขปัญหาประมงแห่งชาติหักหน้าจุรินทร์ที่คุมกระทรวงเกษตรฯโดยตรงแต่ไม่ได้ดูเรื่องนี้ 2. ลักไก่แก้ไขรัฐธรรมนูญเกินวาระนอกหลักการ โดยไม่แจ้งล่วงหน้าให้พรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นต้นเรื่องรับทราบ 3. พล.อ.ประวิตรแอบชงเรื่องเข้าครม.ให้ร.อ.ธรรมนัสไปคุม 3 จังหวัดเกรดเอของภาคใต้ที่เป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคแดนสะตอ อาทิ สงขลา นครศรีธรรมราช ภูเก็ต พร้อมดีดรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ไปดูแลจังหวัดอื่นซึ่งไม่ใช่พื้นที่ของตัวเเองในภาคเหนือ ภาคอีสาน และล่าสุดคือเรื่องโอนงาน 4 กรมไปให้พล.อ.ประวิตรดูแทนจุรินทร์ ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องร้อนเป็นความขัดแย้งรอบใหม่ระหว่าง 2 พรรคร่วมรัฐบาล ประเด็นโอน 4 กรมให้ลุงป้อมดูแลเที่ยวนี้ พรรคพลังประชารัฐอาจจะมองว่าเป็นกรมที่ตนเองเคยดูแลเพราะฉะนั้นต้องรักษาพื้นที่เอาไว้ ฝั่งพรรคประชาธิปัตย์ก็เหมือนถูกหักหน้ากรมในกระทรวงที่ตัวเองดูแลแท้ๆกลับถูกพล.อ.ประวิตรมาเอาไปประเคนให้ร.อ.ธรรมนัสดูแลทางทางไกลใช้กำลังภายในบริหารอีก คุยกันไม่ชัดพูดกันไม่เข้าใจระวังรัฐบาลจะพังก่อนเวลาอันควร ไอ้ที่วางแผนจะจับมือเดินหน้ากันไปเลือกตั้ง อาจต้องหามไปโรงพยาบาลให้หมอดึงมีดที่ต่างคนต่างปักหลักให้กันแทน เคลียร์กันไม่ได้ยุบสภาอาจไม่ไกล
///////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

คอหวยแตกตื่น!!แห่ร่วมพิธีและส่องเลขหางประทัดพิธีอัญเชิญพระบรมรูปทรงม้าสมเด็จพระเจ้าตากสินขึ้นประดิษฐาน ณ วัดคงคาเลียบเมืองคอน
"เจ๊อ้อย" เปิดใจหลังให้ปากคำเป็นวันที่ 4 พร้อมเอาผิด "ทนายตั้ม" ยืนยันคำเดิม เงิน 71 ล้าน ไม่ได้ให้โดยเสน่หา
"สุสานเนอร์วาน่า" แจงชัดไร้ส่วนเกี่ยวข้อง พิธีซื้อที่ดินสะเดาะเคราะห์ต่อชีวิตของ "หมอดูฮวงจุ้ย"
“อนุทิน” มอง “ปทุมธานี” เป็นเมืองต้นแบบกระจายอำนาจ ยินดี “บิ๊กแจ๊ส” นั่งนายกฯอบจ.
สุดเศร้า ลูกเศร้า กลับจากโรงเรียนเจอพ่อผูกคอดับ ขณะแม่ได้ข้อความขอโทษจากลูกชาย แต่ไม่ได้เอะใจ
จังหวัดฉะเชิงเทรา จัดงานนมัสการหลวงพ่อโสธรและงานประจำปีจังหวัดฉะเชิงเทรา พ.ศ. 2567 ครั้งที่ 134 ระหว่างวันที่ 12 - 24 พฤศจิกายน 2567 ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา
‘ทนายไพศาล’ ยืนยันไม่ได้เป็นทนายให้ ‘ซินแสดัง’ขออีกฝ่ายอย่าเอารูปถ่ายคู่กันไปแอบอ้าง
งาน CIIE ครั้งที่ 7 เปิดฉากแล้วที่จีน
ตร.เมืองชล ตั้งด่านป้องปรามอาชญากรรม-ยาเสพติดกลางดึก หนุ่มขนยาบ้า 3 แสนเม็ด ขับผ่านด่านแต่ไม่รอด สารภาพรับจ้างขนยา 3 หมื่น ยังไม่ได้รับค่าจ้าง ถูกจับเสียก่อน
เลือกตั้งสหรัฐเปิดฉากขึ้นแล้ว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น