เวลา 17.30 น. (24 มี.ค.68) ที่รัฐสภา นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ลุกขึ้นชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรี ภายหลังที่นายวรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ที่กล่าวหาว่ารัฐบาลโกงค่าไฟประชาชน และมีการทุจริตเชิงนโยบาย เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนพลังงานที่สนิทสนมกับนายกรัฐมนตรี
โดยนายพีระพันธ์ุ ชี้แจงว่า ตนอยู่ในรัฐบาลภายใต้แกนนำของพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี จนมาถึงสมัยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มีตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช. ซึ่งยืนยันได้ว่า ทั้ง 2 คน ได้ทำหน้าที่เป็นอย่างดี และสนับสนุน ให้ตนเองเดินหน้าแก้ไขปัญหาเรื่องราคาไฟฟ้าตั้งแต่ต้น รวมไปถึงเรื่องราคาน้ำมัน ซึ่งหากไม่ได้ 2 นายกฯ คนนี้ หลายเรื่องที่ตนได้ดำเนินการในวันนี้ ก็คงจะเดินหน้าไม่ได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องจริง ส่วนจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่ท่าน
นายพีระพันธุ์ ยังชี้แจง เรื่องของการรับซื้อไฟฟ้าหมุนเวียน ซึ่งตนเคยชี้แจงเรื่องนี้ไปแล้ว และสาเหตุที่ตนไม่ได้อยู่ในห้องประชุมในช่วงเวลาที่ผ่านมา เนื่องจากไปประชุมในเรื่องดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้ตนเองก็เคยอธิบายให้นายกรัฐมนตรีรับทราบแล้ว และมีการสอบถามว่า จะแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างไร โดยอันดับแรกต้องหาทางหยุด อย่าเพิ่งเซ็นสัญญาก่อน ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็เห็นด้วยในเรื่องนี้ และบอกให้ตนเดินหน้าทำหนังสือถึง คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. แต่ทางคณะกรรมการ กกพ. ได้ประกาศแจ้งว่า ตนเองที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจ เพราะตอนนั้นเรายังรู้เรื่องราวว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร ซึ่งตนเองเคยแจ้งกับสภาฯ ว่า เดี๋ยวจะไปตรวจสอบเรื่องนี้
นายพีระพันธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อ กกพ. เดินหน้าประกาศก็ไม่มีทางเลือก ซึ่งนายกรัฐมนตรีจึงได้มีการเรียกประชุม และขอชี้แจงให้ความเป็นธรรมกับนายกรัฐมนตรี ที่มีการกล่าวหาว่า นายกรัฐมนตรีหนีการประชุม ซึ่งข้อเท็จจริงนายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจที่จะเรียกประชุม แต่เผอิญว่าวันดังกล่าวมีแขกมาสำคัญมาเข้าพบ จึงบอกให้ตนได้ดำเนินการประชุมต่อไป ไม่เช่นนั้นจะเกิดการล่าช้าเพิ่มอีก ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการ ให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ที่ทางสมาชิกฝ่ายค้านได้สอบถาม พร้อมยืนยันว่า ปัญหาที่ฝ่ายค้านกังวล นายกรัฐมนตรีไม่ได้นิ่งใจ และเพิกเฉย