“ธีระชัย” ขุดซ้ำ “นายกฯ” ส่อนิติกรรมอำพราง จี้กรมสรรพากร สอบธุรกรรมขายหุ้น หนีภาษีหรือไม่

"ธีระชัย" ขุดซ้ำ "นายกฯ" ส่อนิติกรรมอำพราง จี้กรมสรรพากร สอบธุรกรรมขายหุ้น หนีภาษีหรือไม่

“ธีระชัย” ขุดซ้ำ “นายกฯ” ส่อนิติกรรมอำพราง จี้กรมสรรพากร สอบธุรกรรมขายหุ้น หนีภาษีหรือไม่ – Top News รายงาน

ธีระชัย

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ  โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thirachai Phuvanatnaranubala – – ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล โดยระบุว่า หนีภาษี??: ทางสองแพร่ง กฎหมายจะถือหลัก substance over form เสมอ  กล่าวคือ จะยึดหลักความเป็นจริงในเนื้อหาทางเศรษฐกิจ ว่าเป็นอย่างไร ไม่ใช่เพียงแต่ยึดตามรูปแบบของสัญญา ซึ่งอาจจะทำให้มีการลวงตาได้

กรณีจะพิจารณาว่า นรม มีการหนีภาษีหรือไม่นั้น จึงจะต้องนำเอาหลักฐานสภาพแวดล้อมมาพิจารณาประกอบ เรียกว่า circumstantial evidence กรณีนี้ รูปแบบของสัญญา documentary evidence คือ สำแดงว่า มีการโอนซื้อขายหุ้น ไม่มีการชำระเงิน แต่ออกตั๋วสัญญาใช้เงินที่ไม่มีกำหนดชำระ และไม่มีดอกเบี้ย
ผมจึงขอให้แนวคิด สำหรับกรมสรรพากร ดังนี้ กรณีจะพิจารณา หลักฐานสภาพแวดล้อมประกอบ ก็ต้องเริ่มต้นตรวจสอบว่า
1 ความสมเหตุสมผล ที่ผู้ขายหุ้น ได้มาซึ่งหุ้น ผู้ที่ขายหุ้นที่ไม่ใช่พ่อแม่ แต่เป็นพี่สาว 2,388 ลบ, พี่ชาย 335 ลบ, ลุง 1,315 ลบ, ป้าสะไภ้ 258 ลบ บุคคลเหล่านี้ ได้หุ้นมาในโอกาสอันใด?
บุคคลเหล่านี้ จ่ายเงินซื้อไปอย่างไร? เพราะเป็นเงินที่อาจจะเกินกว่ารายได้คนทั่วไป ตัวเลขข้างต้น เป็นหน่วย ‘ล้านบาท’ เช่น พี่สาว 2,388,000,000 บาท ไม่ใช่ 2,388 บาท กรณีที่การได้หุ้นมาของบุคคลเหล่านี้ อาจจะถือเป็นเงินได้ตามประมวลรัษฎากรก็ได้
ถามว่าบุคคลเหล่านี้ ได้เสียภาษีเงินได้ครบถ้วนหรือไม่? หุ้นเหล่านี้ เป็นทรัพย์ของนักการเมืองรายใด เอามาซุกไว้หรือไม่?
2 เหตุผลที่ไม่ทวงถามให้ชำระหนี้ตามตั๋ว  ถึงแม้ตั๋วสัญญาใช้เงินไม่มีกำหนดชำระ แต่สามารถเรียกให้ขำระหนี้ได้ เมื่อทวงถาม จึงต้องถามว่า ผู้ซื้อหุ้นมีความขัดสนเงินทองประการใด จึงไม่สามารถชำระหนี้ได้ทันที แต่ต้องค้างหนี้ไว้โดยการออกตัวสัญญาใช้เงิน?
หุ้นที่ซื้อจากพี่สาว 2,388 ลบ, พี่ชาย 335 ลบ ในปี 2559 นั้น
ถามว่าในปี 2559 ผู้ซื้อขัดสนเงินทองประการใด จึงไม่สามารถชำระค่าหุ้นได้ในปีนั้น?
ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 9 ปี ฐานะของผู้ซื้อหุ้น ไม่ได้ดีขึ้น พอที่จะสามารถชำระค่าหุ้นได้หรือ? ในห้วงเวลา 9 ปี ผู้ซื้อหุ้นได้มีฐานะร่ำรวยจนมีการซื้อทรัพย์สินอื่นอีกมากมายหรือไม่ ถ้ามี เหตุใดจึงยังไม่สามารถชำระค่าหุ้นได้? หุ้นที่ซื้อจากลุง 1,315 ลบ, ป้าสะไภ้ 258 ลบ ในปี 2566

ข่าวที่น่าสนใจ

ถามว่าในปี 2566 ผู้ซื้อหุ้นมีฐานะขัดสนเงินทองอย่างไร จึงไม่สามารถชำระค่าหุ้นได้?  3 หนี้ 4.4 พันล้านบาท เรียกดอกเบี้ยได้  ถึงแม้ตั๋วสัญญาใช้เงินกำหนดว่าฟรีดอกเบี้ย แต่ ปพพ. มาตรา 7 บัญญัติให้เรียกได้ 3% ต่อปี จึงต้องถามว่า  ตั๋วสัญญาใช้เงินที่เป็นหนี้ต่อพี่สาว 2,388 ลบ, พี่ชาย 335 ลบ ตั้งแต่ในปี 2559 ปพพ. ให้เรียกดอกเบี้ยได้ 3% ต่อปี  คิดเป็นเงิน 71.64 ลบ และ 10.05 ลบ
ตลอดห้วงเวลา 9 ปี พี่สาวและพี่ชายได้เรียกใช้สิทธิ์ตาม ปพพ. หรือไม่?  ผู้ซื้อหุ้นมีการขัดสนเงินทองอย่างไร จึงไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ย 71.64 ลบ และ 10.05 ลบ ต่อปีได้?  ผู้ซื้อหุ้นมีเงินไปใช้จ่ายส่วนตัวปีละหลายสิบล้าน ตั้งแต่เมื่อไหร่ และเงินไปลงทุนซื้อทรัพย์สินต่างๆมากมาย ตั้งแต่เมื่อไหร่?  เหตุใดจึงไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ย 71.64 ลบ และ 10.05 ลบ ต่อปีได้?
เนื่องจากประมวลรัษฎากรถือว่า กรณีมีประโยชน์ที่ควรได้ ก็ต้องสำแดงเป็นรายได้เพื่อเสียภาษี จึงต้องถามว่า ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงิน ซึ่งมีสิทธิ์เรียกดอกเบี้ย 71.64 ลบ และ 10.05 ลบ ต่อปี  จึงต้องถือเป็นรายได้ของเจ้าหนี้หรือไม่?
หรือ ผู้เป็นลูกหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงิน มีภาระต้องเสียดอกเบี้ย 71.64 ลบ และ 10.05 ลบ ต่อปี แต่ได้รับความอะลุ้มอล่วย ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย  จึงต้องถือเป็นรายได้ของลูกหนี้หรือไม่?  และทำนองเดียวกัน สำหรับตั๋วสัญญาใช้เงินที่เป็นหนี้แก่ลุง 1,315 ลบ, ป้าสะใภ้ 258 ลบ ซึ่ง ปพพ. ให้เรียกดอกเบี้ยได้ 3% ต่อปี เป็นเงิน 39.45 ลบ และ 7.74 ลบ
กรมสรรพากรจะต้องพิจารณาว่า ถือเป็นรายได้ของเจ้าหนี้ หรือของลูกหนี้? นี่เอง ที่มหากาพย์เรื่องทำนองนี้ มักจะเป็นทางสองแพร่ง
ถ้าตีความไม่ถือว่าเป็นการซื้อขายจริง ก็จะเข้าข่ายเป็นนิติกรรมอำพราง จะเป็นการหนีภาษี ถ้าตีความถือว่าเป็นการซื้อขายจริง ก็จะเข้าข่ายต้องเรียกภาษีจากรายได้ จากดอกเบี้ยที่พึงมี ถ้าไม่เรียกจากเจ้าหนี้ ก็ต้องเรียกจากลูกหนี้
อนึ่ง สำหรับเฟสบุค กรณ์ จาติกวณิช ที่บรรยายตอนหนึ่งว่า [อาจจะอธิบายได้ว่าเป็นธุรกรรมภายในครอบครัว คือ ลูกสาวขอติดเงินไว้ก่อน ก็ไม่ผิดปกติที่จะบอกเขาว่า ‘ไม่เป็นไร มีเมื่อไรค่อยเอามาใช้’ ส่วนการไม่คิดดอกเบี้ยกับลูกก็เข้าใจได้ (ส่วนกรณีนี้สมเหตุสมผลหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง)] ผมคิดว่า กรมสรรพากรอาจจะไม่ใช้เป็นบรรทัดฐานในการตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะ นรม ไม่น่าจะอยู่ในฐานะขัดสนเงินทองมากมายเช่นนั้น ต้องไม่ลืมว่า นรม รายงานว่ามีทรัพย์สินมากถึง 13,993,826,903.79 บาท
ผมจึงขอให้ไว้เป็นข้อมูลเพื่อการศึกษา โดยไม่มีการกล่าวหาใดๆ หรือบุคคลใด
วันที่ 25 มีนาคม 2568
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ
ประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ

 

ต่อมา นายธีระชัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thirachai Phuvanatnaranubala – – ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล โดยระบุว่าตั๋วสัญญาจะไม่ใช้เงิน? เฟซบุ๊ก กรณ์ จาติกวณิช วิจารณ์เรื่องตั๋วสัญญาใช้เงินของ นรม ว่า

ผู้อภิปรายคุณวิโรจน์เองยังใช้คำว่า  ‘ใช้ช่องว่างทางกฎหมาย’ แสดงว่าผู้อภิปรายก็ไม่ได้ฟันธงว่าผิดแบบขาวแบบดำ
และอธิบายว่า ถึงแม้ตั๋ว PN ไม่มีการระบุว่าต้องชำระหนี้เมื่อใดแถมไม่มีดอกเบี้ยด้วย เหมือนกับเป็นหนี้เทียม
ในทางธุรกิจผิดปกติแน่นอน
แต่ก็อาจจะอธิบายได้ว่าเป็นธุรกรรมภายในครอบครัว คือ ลูกสาวขอติดเงินไว้ก่อน ก็ไม่ผิดปกติที่จะบอกเขาว่า ‘ไม่เป็นไร มีเมื่อไรค่อยเอามาใช้‘ ส่วนการไม่คิดดอกเบี้ยกับลูกก็เข้าใจได้ (ส่วนกรณีนี้สมเหตุสมผลหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง)
ผมตั้งข้อสังเกตดังนี้
1 หลักกฎหมายถือ substance over form หมายความว่า ยึดเอาผลทางเศรษฐกิจเป็นหลัก มากกว่ารูปแบบกฎหมาย
ดังนั้น ถึงแม้กรณีนี้ จะใช้รูปแบบตั๋วสัญญาใช้เงิน แต่ถ้าเอาสามัญสำนึกของวิญญูชนมาจับ กรณีเจตนาเป็นตั๋วสัญญาที่ไม่คิดจะใช้เงิน ก็ต้องถือเป็นนิติกรรมอำพราง ต้องเริ่มต้นก่อนว่า ทรัพย์สินเดิมอาจจะซุกไว้ในที่มืด เมื่อจะเอาออกมาที่สว่าง ถ้าการโยกย้ายเกิดมีภาระภาษี ก็ควรจะต้องเสียเต็มกติกา กรณีถ้าหากจะหนีภาษี วิธีง่ายสุดก็คือ เปลี่ยนจากการให้ ที่ต้องเสียภาษี
ไปเป็นการขาย ที่ไม่ต้องเสียภาษี โดยทำเอกสารลวง ไม่ต้องกำหนดวันชำระเงิน ไม่ต้องกำหนดดอกเบี้ย คือเป็นตั๋วสัญญาจะไม่ใช้เงินนั่นเอง
2 ถ้าผู้รับยังไม่มีเงินจะจ่ายค่าหุ้น ก็ต้องรอไว้จนกว่าจะมีเงิน กฎหมายกำหนดว่า การรับและการให้ ผู้รับต้องเสียภาษี ดังนั้น ถ้าหากเป็นการยกให้ ก็ต้องไม่ลวงว่าเป็นการขาย ถ้าสมมุติอยากให้ผู้รับหุ้น ต้องจ่ายเงินค่าหุ้นจริง ก็จะต้องรอไว้ก่อน จนกว่าผู้รับจะมีรายได้มากพอที่จะจ่ายค่าหุ้น ไม่ใช่ไปทำนิติกรรมอำพราง  นอกจากนี้ ผู้ให้หุ้นส่วนใหญ่ ก็ไม่ใช่พ่อแม่ แต่เป็นพี่สาว 2,388 ลบ, พี่ชาย 335 ลบ, ลุง 1,315 ลบ, ป้าสะไภ้ 258 ลบ มารดาเป็นผู้ให้หุ้นเพียง 136 ลบ  ไม่มีเหตุผลที่วิญญูชนจะเชื่อว่า พี่สาว/พี่ชาย/ลุง/ป้าสะไภ้ จะต้องรีบร้อนขายหุ้น ทั้งที่ผู้รับยังไม่พร้อมจะจ่ายเงิน
3 อาจมีภาระภาษีก่อนหน้า  พี่สาว/พี่ชาย/ลุง/ป้าสะไภ้ ที่อ้างว่า ไม่ได้ให้หุ้น แต่อ้างว่าเป็นการขายหุ้น  จะต้องพิสูจน์ว่าราคาขายสมเหตุสมผลหรือไม่ และกรมสรรพากรอาจจะตีมูลค่าแท้จริงสูงกว่าราคาพาร์ก็ได้  อีกทั้งกรมสรรพากรอาจสมควรมีการตรวจสอบว่า พี่สาว/พี่ชาย/ลุง/ป้าสะไภ้ ได้หุ้นมาอย่างไร  ถือเป็นรายได้ที่บุคคลเหล่านี้จะต้องเสียภาษีหรือไม่  รวมทั้ง ปปช อาจสมควรมีการตรวจสอบว่า หุ้นในครอบครองของบุคคลเหล่านี้ ได้มาโดยชอบ  หรือเป็นขบวนการซุกหุ้นของบุคคลในครอบครัว ที่ต้องยึดหรืออายัดคืน หรือไม่
4 ความผิดสำเร็จแล้ว  คุณกรณ์กล่าว นายกฯได้ชี้แจงว่า ‘เดี๋ยวปีหน้าก็จะเคลียร์หนี้แล้ว’ และได้ชี้แจงว่าหนี้ส่วนนี้ก็ได้มีการรายงาน ปปช. มาตลอด  ผมตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าหากมีการกระทำนิติกรรมอำพราง ความผิดได้สำเร็จไปแล้ว  การเคลียร์หนี้ไม่ได้ทำให้ลบล้างความผิดที่เกิดขึ้นไปแล้ว  ทั้งนี้ นรม ยื่นรายงาน ปปช เป็นครั้งแรก จึงไม่สามารถอ้างว่าได้มีการรายงาน ปปช. มาตลอด  และการรายงาน ปปช. ก็ไม่เกี่ยวกับการปฏิบัติถูกต้องตามกฎสรรพากร
5 ภาระภาษีไม่ใช่เกิดขึ้นเมื่อจ่ายเงินจริง  เมื่อบุคคลหนึ่งได้รับหุ้น เป็นการให้ ภาระภาษีเกิดขึ้น ณ วันที่ได้รับหุ้น ไม่ใช่วันที่มีการจ่ายเงิน สิ่งที่ นรม อ้างว่า ภาระภาษีเกิดขึ้น เมื่อมีการชำระเงิน จึงไม่ถูกต้อง
วันที่ 24 มีนาคม 2568
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ
ประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมียนมา ประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว พบผู้เสียชีวิตแล้ว 20 ราย
ปูตินเสนอจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวยูเครนเพื่อยุติสงคราม
"ซีพีเอฟ" ยันไม่เป็นต้นเหตุแพร่กระจาย "ปลาหมอคางดำ" พร้อมร่วมภาครัฐ ชุมชน ดูแลสิ่งแวดล้อม-สังคมยั่งยืน
"มท.1" สั่งทุกจังหวัดรับมือสถานการณ์ผลกระทบแผ่นดินไหว กำชับผู้ว่าฯ ห้ามลา-ห้ามขาด
“รพ.ศิริราช” หยุดให้บริการคลินิกพิเศษ-ผ่าตัดไม่ฉุกเฉิน 28-30 มี.ค.นี้
อัปเดตล่าสุด ตึกสนง. 30 ชั้น ถล่ม หลังแผ่นดินไหว พบเสียชีวิตแล้ว 3 ราย
ธนาคารหลายแห่งทั่วประเทศ ประกาศปิดการให้บริการวันนี้ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว
แตกตื่นทั่ว! ชาวบ้าน "เชียงใหม่-เชียงราย" ผวาแรงสะเทือนดินไหว ข้าวของพัง รพ.เร่งย้ายผู้ป่วยออกจากตึก คานปูนรถไฟถล่มทับรถ
เปิดข้อมูลรายละเอียด "ตึกสตง." สูง 30 ชั้น ก่อนถล่ม เหตุแผ่นดินไหว
แผ่นดินไหวพม่า "เมืองกาญจน์" รับรู้แรงสั่นสะเทือน "เขื่อนวชิราลงกรณ" ไร้ผลกระทบ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น