AFP และดิ อิโคโนมิค ไทม์สรายงานว่ากัว เจียคุน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนออกมาแถลงข่าววันนี้ (อังคารที่ 25 มีค.) ตำหนิสหรัฐกำลังก้าวก่ายกิจการภายในของเวเนซูเอล่า กรณีที่เมื่อวานนี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศจะเก็บภาษีสินค้าทุกชนิดจากประเทศที่ซื้อน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากเวเนซูเอล่าในอัตราร้อยละ 25 เริ่มบังคับใช้วันที่ 2 เมษายนหรือสัปดาห์หน้านี้
ทั้งนี้หลายฝ่ายมองว่ามาตรการรีดภาษีครั้งล่าสุดของทรัมป์อาจมุ่งเป้ามาที่จีนเนื่องจากจีนเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดจากเวเนซูเอล่า นอกจากนี้ก็ยังมีอินเดีย, สเปนและสหรัฐเอง
นายกัวยังกล่าวด้วยว่าจีนขอเรียกร้องสหรัฐให้เลิกก้าวก่ายกิจการภายใน และยุติมาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวต่อเวเนซูเอล่า พร้อมกับเรียกร้องสหรัฐให้ดำเนินการที่เอื้อให้เกิดสันติภาพ, เสถียรภาพและการพัฒนาในเวเนซูเอล่าและประเทศต่างๆมากขึ้น
การประกาศมาตรการเก็บภาษีรอบล่าสุดของทรัมป์มีขึ้นหลังจากทรัมป์กล่าวหาเวเนซูเอล่าว่ามีเจตนาส่งอาชญากรจำนวนหลายหมื่นคนเข้ามายังสหรัฐ
ก่อนหน้านี้ทรัมป์สั่งรีดภาษีสินค้าทุกชนิดจากจีนไปแล้ว 20% เพื่อกดดันให้จีนสกัดการไหลเข้าของเฟนทานิลเข้าสู่สหรัฐ นอกจากนี้ยังมีภาษีเหล็กและอลูมิเนี่ยม ซึ่งจีนเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก ซึ่งจีนก็ตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บสินค้าเกษตรจากสหรัฐ 15% แต่ขณะเดียวกันก็เรียกร้องสหรัฐให้หันหน้ามาเจรจาเพื่อยุติความข้ดแย้งต่างๆ พร้อมเตือนว่าสงครามการค้าไม่มีผู้ชนะ และในที่สุดแล้วก็ส่งผลกระทบต่อธุรกิจและผู้บริโภคชาวอเมริกันเอง