ตามที่มีการประเด็นในอภิปราย ที่ตั้งของโรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ ตั้งอยู่ในเขตนิคมสร้างตนเอง ซึ่งได้กำหนดให้เป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธารหรือ WATERSHED AREA ซึ่งมีเนื้อที่รวมกันประมาณ 107,000 ไร่ คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติได้มีมติให้นิคมสร้างตนเองลำตะคองนำพื้นที่ต้นน้ำลำธารไปจัดที่ดินให้กับราษฎรที่ครอบครองทำประโยชน์ได้มีการออก น.ค. 3 ในพื้นที่ดังกล่าวจึงชอบด้วยกฎหมาย และกันพื้นที่ไว้เพื่อเป็นพื้นที่ปลูกป่าทดแทนและอนุรักษ์ดินและน้ำ ประมาณ 33,000 ไร่ ดังนั้น เมื่อราษฎรที่เป็นสมาชิกนิคมได้รับ น.ค. 3 จึงสามารถขอออกโฉนดที่ดินหรือ น.ส. 3 ก. ได้โดยในกระบวนการออกโฉนดที่ดินหรือ น.ส. 3 ก. ผู้ปกครองนิคมฯ จะต้องร่วมรังวัดและยืนยันความถูกต้องของ น.ค. 3 ด้วย และโฉนดที่ดินที่เป็นที่ตั้งของโรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ ได้ออกมาจาก น.ส. 3 ก. ซึ่งออกจากหลักฐาน น.ค. 3 เมื่อปี พ.ศ. 2528 และขายเปลี่ยนมือมาหลายทอดจนเปลี่ยนมือมาถึงบริษัท พีดี เขาใหญ่ จำกัด ในปี พ.ศ. 2560 ในพื้นที่นี้ไม่ได้มีการออกเฉพาะโรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ จำกัด เท่านั้น แต่มีการออกโฉนดที่ดินและ น.ส. 3 ก. จำนวนถึง 10,165 แปลง