ศบค. ห่วง 4 จว.ชายแดนใต้ ติดเชื้อพุ่ง-เสียชีวิตเพิ่ม

ศบค.เตือนอย่าชะล่าใจยอดผู้ป่วยลด ห่วง 4 จังหวัดชายแดนใต้ ติดเชื้อพุ่ง-เสียชีวิตเพิ่ม แต่ฉีดวัคซีนน้อย ยันจัดสรรให้เพียงพอ

แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9,930 ราย เสียชีวิต 97 คน หายป่วยกลับบ้าน 12,336 ราย ยังรักษาอยู่ 109,748 รายบ อาการหนัก 3071 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 719 ราย ส่วนตัวเลขการฉีดวัคซีนสะสมถึงวันที่ 3 ตุลาคม มีจำนวน 5,515,0481 โดส

แพทย์หญิงอภิสมัย กล่าวด้วยว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่หล่ายท่านคงรู้สึกสบายใจ แต่เราเพิ่งผ่อนคลายมาตรการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข คาดการณ์ว่าอาจจะมีตัวเลขติดเชื้อขยับขึ้นสูงเกินหมื่นคนได้ แต่อย่างไรก็ตามหากตัวเลขยังอยู่ที่หมื่นนิดๆ ก็ยังถือว่าเป็นไปในทิศทางที่ระบบกระทรวงสาธารณสุขยอมรับได้

สำหรับจังหวัดที่ ศบค.ยังเป็นห่วงคือ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยวันนี้มีผู้ติดเชื้อรวม 1,968 ราย ถือว่าใกล้เคียงกับกทม.และปริมณฑล ที่มีผู้ติดเชื้อรวม 2,021 ราย ซึ่งกทม.และปริมณฑล รวมถึงจังหวัดอื่นๆ ผู้ติดเชื้อมี่ทิศทางที่ลดลง แต่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ มีทิศทางเพิ่มขึ้น จาก 17% อาทิตย์ที่ผ่านมา วันนี้เพิ่มขึ้นมาเป็น 21% จากผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ นอกจากนี้ตัวเลขผู้เสียชีวิตวันนี้ อยู่ในจังหวัดภาคใต้ถึง 11 จังหวัด รวม 27 คน ส่วนตัวเลขจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 10 อันดับแรก มีจังหวัดภาคใต้ถึง 5 จังหวัด ได้แก่ ยะลา สงขลา ปัตตานี นราธิวาส นครศรีธรรมราช อีกทั้งสิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขเป็นห่วงคือ รายงานการสอบสวนโรคผู้ติดเชื้อ มีเรื่องของการสัมผัสใกล้ชิดในครอบครัวเกิดขึ้น จากเดิมเป็นคลัสเตอร์ เป็นโรงงาน ไปสถานที่เสี่ยง นอกจากนี้พื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ยังมีรายงานร้านอาหารเปิดเกินเวลา และลักลอบจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเทใส่แก้วพลาสติกแทน จึงขอความกรุณาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันกำชับมาตรการ

แพทย์หญิงอภิสมัย ยังเปิดเผยถึงการฉีดวัคซีนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เนื่องจาก 4 จังหวัดใต้เป็นจังหวัดสีแดงเข้ม จึงได้รับวัคซีนเพียงพอ แต่จำนวนการฉีดจนถึงขณะนี้ ยอดฉีดเข็ม 2 ยังไม่ถึงเป้าหมาย 50% ของประชากรแต่ละจังหวัด เช่นเดียวกับกลุ่มเสี่ยง 607 ก็ยังมีจำนวนค่อนข้างต่ำ ยังไม่ถึงเป้า 70% ทำให้ยอดฉีดวัคซีนยังไม่เป็นไปตามเป้า จึงขอให้กำลังใจหน่วยงานในพื้นที่ เพิ่มศักยภาพช่วยระดมค้นหาผู้ป่วยกลุ่ม 607 เพื่อให้เข้ารับวัคซีน

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“ธนกร” แนะรัฐบาลฉวยโอกาสอีเว้นท์ใหญ่ช่วงเปิด “สมรสเท่าเทียม” ดึงนทท.ทั่วโลก
"มาริษ" เผย ตปท.ชื่นชมไทย "สมรสเท่าเทียม" มีผลบังคับใช้แล้ว
"เศรษฐา" ยินดี 23 ม.ค. "สมรสเท่าเทียม" เกิดขึ้นจริงด้วยพลังของทุกคน 
“ไทด์” สุดสงสาร “แตงโม” ไม่ได้โดนแค่กรีดขา แต่โดนเจาะน่อง-มันทะลัก
"พิชัย" โชว์วิชั่นเวที WEF ดาวอส ประกาศศักยภาพไทย พร้อมเปลี่ยนสู่ยุคศก.ดิจิทัล โลก AI
งานเข้า! "ตำรวจไซเบอร์" ชี้ล่าเหรียญ "Jagat" ฟันผิดกฎหมาย พบ 3 บัญชีโอนเงินผู้เล่นจริง จ่อเรียกสอบ
ฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานยังคลุมทั่ว กทม. พื้นที่สีแดง 14 เขต
บึ้มสนั่นกลางดึก ชาร์จรถ 3 ล้อไฟฟ้า เกิดไฟฟ้าลัดวงจรลามไหม้ร้านของชำ หวิดวอดทั้งหลัง
กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย เตือนภาคใต้มีฝนตกบางแห่ง
"กรมโยธาฯ" จับมือ "คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล" ลงนาม MOU ช่วยชีวิตผู้ป่วยด้วยการบริจาคโลหิต

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น