“กามิน” ควงทนาย แจ้งความเอาผิดคนนำรูปไปตัดต่อใส่ร้าย ทำเสียชื่อเสียง

"กามิน" ควงทนาย แจ้งความเอาผิดคนนำรูปไปตัดต่อใส่ร้าย ทำเสียชื่อเสียง

วันที่ 28 มี.ค.2568 เวลา 09.30 น. “จี กามิน” อินฟลูเอนเซอร์สาวชาวเกาหลี อดีตแฟนสาว แน็ก ชาลี พร้อมทนายความ และล่ามแปลภาษา เข้าพบพลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ และพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับเพจเฟซบุ๊กและกลุ่มบุคคลที่โพสต์รูปและข้อความใส่ร้าย “กามิน” ในประเด็นต่างๆ หลายประเด็น ทำให้เกิดความเสียหาย

 

 

 

นายพรชัย พฤกษ์พิชัยเลิศ ทนายความของ “กามิน” เปิดเผยว่า วันนี้มาร้องทุกข์กล่าวโทษเพจเฟซบุ๊กและเว็บไซต์อวตารต่างๆ ที่นำข่าวของ “กามิน” ไปโพสต์ ใส่ร้ายด้วยข้อความอันเป็นเท็จทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งเฟซบุ๊กและเว็บไซต์เหล่านี้ ตนเองไม่สามารถตรวจสอบถึงบุคคลที่เป็นเจ้าของเว็บหรือเพจได้ จึงต้องมาแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ให้ช่วยตรวจสอบ และดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนในกรณีที่เกิดการพูดนินทากันอย่างแพร่หลายในสื่อโซเชียลนั้น นายพรชัย บอกว่า เริ่มเกิดตั้งแต่ “กามิน” มีความสัมพันธ์เลิกรากับ “แน็ก ชาลี” และก็พลอยทำให้มีประเด็นอื่นๆ ตามมา ซึ่งหากเป็นแค่การพูดคุย แสดงความคิดเห็นก็พอรับได้ แต่หากเป็นการพูดให้เกิดความเสียหาย ใส่ร้ายบิดเบือนข้อเท็จจริง ก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ซึ่งกฎหมายไทยคุ้มครองทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

ส่วน “กามิน” เปิดเผยผ่านล่ามแปลภาษาว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างมาก ที่มีข่าวทำให้เกิดความเสื่อมเสียออกมา แต่ก็ขอขอบคุณแฟนคลับที่มาให้กำลังใจ และยังติดตามผลงานของตนเองมาตลอด ขอขอบคุณตำรวจไซเบอร์ที่คอยดูและรับแจ้งความในคดีของตนเอง ส่วนผู้ที่ใส่ร้าย ตนเองยังไม่ขอพูดถึง

สำหรับ “กามิน” เป็นอินฟลูเอนเซอร์สัญชาติเกาหลี ที่มักจะมีการไลฟ์สดไลฟ์สไตล์ของตนเอง ก่อนที่จะถูกเชิญมารับงานร่วมกับ “แน็ก ชาลี” ในประเทศไทย จนเกิดเป็นกระแสคู่จิ้นที่โด่งดัง แต่ไม่นาน ทั้งคู่ก็เลิกรากัน ทำให้ “กามิน” เดินทางกลับเกาหลีไปช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งตลอดเวลาระหว่างนั้นก็มีประเด็นดราม่าหลายเรื่องเกิดขึ้น ทำให้เจ้าตัวต้องตัดสินใจกลับไทยมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนปีที่แล้ว และทยอยดำเนินคดีกับบุคคลที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงเรื่อยมา

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ดีเอสไอ" จ่อเรียกสอบ 40 วิศวกร คดีตึกสตง.ถล่ม
"ฉก.ลาดหญ้า" ยันเหตุปะทะในประเทศเมียนมา ยังไม่มีผลกระทบชายแดนไทย
บางจาก ศรีราชา และ GISTDA ผนึกกำลังกับสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ร่วมสร้างอนาคต นกกาฮัง และ การฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ
“กรมอุตุฯ” เตือนรับมือ "พายุฤดูร้อน" ฉบับ 2 ถล่มไทยตอนบน 26 เม.ย.- 1 พ.ค.นี้
“ดร.เฉลิมชัย” ลงพื้นที่ติดตามโครงการศึกษา สำรวจและพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลในพื้นที่เสี่ยงกร่อยเค็ม ตำบลอุ่มเม้า อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด แก้ปัญหาให้ประชาชน 15 หมู่บ้าน กว่า 7,200 คน มีน้ำกินน้ำใช้ตลอดปี
"ผอ.สปภ." เผย ตึกสตง.ถล่ม ลดซากเหลือ 7 เมตร จนท.ตัดเหล็กขนย้ายได้เร็วขึ้น คาดเสร็จสิ้นเดือนเม.ย.นี้
แฉกลโกงออนไลน์! ใช้ชื่อ ‘ธนินท์’ ลวงซ้ำ – ซีพีเอาผิดไม่เว้น
DITP โชว์ผลงานจัดกิจกรรมส่งออก 7 เดือน สร้างรายได้เข้าประเทศ 36,921 ล้าน ผู้ประกอบการได้ประโยชน์ 42,409 ราย
"กระทรวงยุติธรรม" เปิดตัวโครงการ "รวมพลังอาสาสมัครราชทัณฑ์ คืนคนดีสู่สังคม"
“เอกนัฏ” เอาจริง “ส่งทีมสุดซอย” ตรวจโรงงานปราจีนฯ ยึดเหล็กไม่ได้มาตรฐาน 7 พันตัน มูลค่า 148 ล้าน คาดเอี่ยวคดีตึก สตง.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น