วันที่ 4 ต.ค. 64 นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก ข้อความว่า “ปัญหาของนักการเมืองรุ่นใหม่ และนักกฎหมายรุ่นใหม่” นักกฎหมายรุ่นใหม่ ไม่มีพื้นฐานทางการเมือง ส่วนนักการเมืองรุ่นใหม่ก็ไม่มีพื้นฐานทางกฎหมาย เมื่อคนรุ่นใหม่เอา 2 เรื่องมาพูดรวมกันเลยทำให้สถานการณ์ของคนรุ่นใหม่เลวร้ายลงไปอีก สิ่งที่นักกฎหมายรุ่นใหม่ และนักการเมืองรุ่นใหม่ ต้องเรียนรู้คือ หลักการที่ว่า “ไม่มีการยกเลิกกฎหมายเพราะมีผู้ทำผิดรวมหมู่เป็นจำนวนมาก” นักปราศรัยรุ่นใหม่ พอใจ การตอบรับของมวลชนหน้าเวที จนลืมอันตรายที่เกิดจากการปราศรัย ความจริงเรื่องนี้นักการเมืองรุ่นพี่ก็ทำตัวอย่างให้เห็นแล้วว่าการปราศรัยที่ฝ่าฝืนกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ สุดท้ายก็ “ไปไม่รอด” แม้เพียงคนเดียว
นายนิพิฏฐ์กล่าวอีกว่า ตนขออนุญาต ยกตัวอย่างคนรุ่นใหม่อย่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล (ขออภัยเอ่ยชื่อท่าน) คุณธนาธร เป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ที่ไม่ชำนาญด้านกฎหมาย ส่วน อ.ปิยบุตร ก็เป็นนักกฎหมาย ที่ไม่ชำนาญด้านการเมือง โดยส่วนตัวตนก็เคารพทั้ง 2 ท่าน เคยพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกัน สุดท้ายทั้ง 2 ท่าน ก็มีจุดจบตามที่เห็น ตนวิจารณ์คนอื่นแล้วไม่วิจารณ์ตัวเองก็คงไม่เป็นธรรมเท่าไหร่ ตนก็คงเป็นนักการเมืองและนักกฎหมายรุ่นเก่า จึงแพ้การเลือกตั้งในคราวที่แล้วให้กับพรรคภูมิใจไทย แต่สุดท้ายคนที่ชนะตนศาลฎีกาก็สั่งให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากไม่ปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรด้วยตัวเอง แทนที่การเมืองจะก้าวหน้า เรากลับได้การเมืองที่ล้าหลังมาแทน