“นายกฯ” นั่งหัวโต๊ะ ไล่บี้แก้ไขปัญหา SMS เตือนภัยช้า

"นายกฯ" นั่งหัวโต๊ะ ไล่บี้แก้ไขปัญหา SMS เตือนภัยช้า

วันที่ 31 มีนาคม 2568 เวลา 14.00 น. ( 31 มี.ค.68) ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามและแก้ไขปัญหาการเตือนภัย SMS ร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายภาสกร บุญญาลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย นายสรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด มหาชน นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทแอดวานซ์อินโฟร์เซอร์วิสจำกัดมหาชน และ นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่นจำกัดมหาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โดยนายประเสริฐได้รายงานนายกรัฐมนตรีและประชุมหลังจากนายกฯได้สั่งการ ให้กระทรวงดิจิทัล ปภ. กสทช. และโอเปอเรเตอร์ ประชุมร่วมกันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อหาสาเหตุถึงความล่าช้าในการส่ง SMS แจ้งเตือนประชาชนหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา

ซึ่งคณะทำงานได้ประชุมร่วมกัน ได้ข้อสรุป3 ส่วนคือถึงดำเนินการที่ช้า คือในช่วงสรุปข้อความและขั้นตอนการส่งข้อความ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ที่ประชุมร่วมกันได้สรุปว่าในส่วนของ ปภ.ได้ให้ทำระบบปฏิบัติการใหม่ในเรื่องการเตือนภัยซึ่งเป็นหน้าที่ของปภ.อยู่แล้วตามพ.ร.บ. ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย พ.ศ. 2550

 

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนที่สองคือกำหนดระยะเวลาไทม์ไลน์ถ้าเกิดเหตุแล้วใช้เวลากี่นาทีเพื่อที่จะให้เกิดความเร็ว

และอีกส่วนคือเรื่องของโอเปอเรเตอร์ ได้เรียกค่ายโทรศัพท์มือถือมาพูดคุยศึกษาดูว่าระบบที่เป็นแมนนวนก่อนที่ระบบเซลล์บอร์ดแคส ยังทำงานไม่ได้ จะต้องมีการใช้ระบบสำรองอย่างไรในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน

ด้านนายกรัฐมนตรีได้สอบถามว่า ความจากใครข้อความเวลาส่งแจ้งเตือนประชาชนออกจากหน่วยงานใด

ทำให้อธิบดี ปภ. ชี้แจงว่าหลังจากได้รับข้อมูลจากกรมอุตุฯ ศูนย์เฝ้าระวังแผ่นดินไหวของ สหรัฐอเมริกา และเยอรมนี หากข้อมูล 2 ทางยืนยันตรงกัน จะเริ่มทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยวันเกิดเหตุได้รับข้อมูล จากกรมอุตุนิยมวิทยา และในเว็บไซต์ของสหรัฐอเมริกาที่ยืนยันตรงกันในเวลา 13.36 น

ทำให้นายกรัฐมนตรีแย้งขึ้นว่า ปภ.ส่งครั้งแรก ในเวลา 14:40 น จำได้ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

อธิบดีปภ.จึงชี้แจ้งต่อว่าการวิเคราะห์ข้อมูลของเราใช้เวลาประมาณ 10 นาที แต่ในขณะที่เหตุการณ์จริงใช้เวลา 4 นาที หลังจากฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูลได้รับข้อมูลตรงกัน เพราะต้องดูแลสั่นสะเทือนและระยะ เวลาที่จะมาถึงเรา และหลังจากรับ SMS แจ้งเตือนจากกรมอุตุฯก็ได้ส่งกระจายข้อมูลทันที

จากนั้นนายกรัฐมนตรี กล่าวขึ้นว่า ต้องปรึกษาภาคเอกชน ว่าเมื่อเกิดแผ่นดินไหวก็ชัดเจนอยู่แล้ว ความแรงของแผ่นดินไหวเอาไว้ก่อน แต่ถามเอกชนว่าถ้าเกิดภายใน 5 นาที สามารถที่จะสื่อสาร และสรุปได้หรือไม่ เข้าใจว่าต้องรอให้ข้อมูลชัด แต่ในเมื่อแผ่นดินไหวเกิดขึ้นแล้ว สามารถส่ง SMS ได้เลยหรือไม่ เช่นข้อความสั้นแจ้งเตือนให้ออกจากตึก ต้องสอบถามจากเอกชนว่ามีวิธีการหรือไม่ว่าจะต้องทำอย่างไร ให้รวดเร็ว

 

 

ขณะที่นายจักรกฤษณ์ ตัวแทนบริษัททรู กล่าวว่า การส่ง SMS ต้องเรียนตามตรงว่าไม่ใช่เป็นการสื่อสารหลักในการแจ้งเตือนภัย เพราะวิธีการส่งเราต้องรู้เลขหมายก่อน อย่างเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นครั้งนี้ทาง ปภ.ส่งมายัง Operator ว่า ขอให้ส่งแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล เราต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์ข้อมูล ว่ามีหมายเลขใดบ้างที่อยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมถึงชาวต่างชาติที่เปิดโรมมิ่ง ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงจะทราบจำนวนเบอร์ที่อยู่ในพื้นที่ จึงจะสามารถส่ง SMS แจ้งเตือนได้ เพราะเราต้องรู้ก่อนว่าใครอยู่ตรงไหนบ้าง ซึ่งคำสั่งแรกบอกให้เราส่งในพื้นที่กรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรีและปทุมธานี แต่ปริมาณในการส่ง ข้อความแจ้งเตือนก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละค่ายมือถือ ดังนั้น การจัดส่ง SMS อย่างเดียวจึงไม่เพียงพอจำเป็นจะต้องมีการโทรแจ้งเตือนด้วย แต่หากมีเหตุจำเป็นจริงๆเราก็จะมีการเพิ่มปริมาณในการส่งข้อความในแต่ละครั้ง ไม่ใช่ช่องแต่ขอย้ำว่า SMS ไม่ใช่ช่องทางเดียวในการส่งข้อความแจ้งเตือน

 

 

ขณะที่นายกรัฐมนตรีเห็นด้วยว่า SMS ไม่ใช่ช่องทางเดียว แต่เรื่องของแผ่นดินไหวเราไม่ทราบล่วงหน้า และตนก็คิดว่าการส่ง SMS เป็น การแจ้งข้อมูลเชิงรุก เช่น หากเรานั่งต่อจิ๊กซอว์อยู่ ไม่ได้กำลังเล่นมือถือ จะรู้ได้อย่างไรดังนั้น SMS จึงเป็นหนึ่งในช่องทางการแจ้งเตือนเชิงรุก ซึ่งเมื่อช่วงเช้า ตนก็ต้องชี้แจงว่าไม่ใช่แผ่นดินไหวทั้ง การให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนและชี้แจงในช่องทาง Social Media เพื่อเป็นการยืนยันว่าไม่ใช่แผ่นดินไหว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"รมว.ปุ๋ง" นำเยาวชนร่วมกิจกรรม บรรพชาสามเณรและบวชศีลจาริณีภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติ "กรมสมเด็จพระเทพฯ"
ศาลสั่งจำคุก 4 ชาวจีน แอบลอบขนเอกสาร 32 แฟ้มตึก สตง.โดยไม่ได้รับอนุญาต
"ส.อ.ท." จับมือ "ม.มหิดล" ลงนามความร่วมมือ ดันเกษตรอัจฉริยะ โครงการ SAI
"ชัชชาติ" ยันเจออีก 12 ร่างติดใต้ซากตึกสตง.ถล่ม แจงเจออุปสรรคใหญ่นำออกไม่ได้ หวังยังมีผู้รอดชีวิต
“พรรคกล้าธรรม”เคาะส่ง“ก้องเกียรติ์ เกตุสมบัติ”ชิงเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขต 8
จีนซ้อมรบรอบเกาะไต้หวัน
เมียนมาไว้อาลัยเหยื่อแผ่นดินไหวล่าสุดพุ่งทะลุ 2,700 คน
เหตุก๊าซระเบิดมาเลเซียมีผู้บาดเจ็บกว่าร้อยคน
ยิงมายิงกลับ "ฮูตี" สอยร่วง โดรนเทพมะกันMQ-9 "อิสราเอล" เหี้ยมบึ้ม "กรุงเบรุต"
รีบเช็กด่วน! บ.จีน รับสร้างตึกที่ไหนบ้าง เพจดังแฉอึ้ง “ศาล-รพ.-ศูนย์กีฬา”

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น