ลุ้นระทึก “2 หลานสาว-ย่าป่วย” ชาวเมียนมา ร้องขอความช่วยเหลือ ติดซากตึก กลางเมืองมัณฑะเลย์ นาน 2 วัน
ข่าวที่น่าสนใจ
สถานการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงครั้งใหญ่ในรอบ 100 ปี ในเมืองมัณฑะเลย์และสกายของเมียน เข้าสู่วันที่ 5 แล้ว มีรายงานจากทีมกู้ภัยว่า เริ่มไม่พบสัญญาณใด ๆ ของสิ่งมีชีวิต หลังจากค้นหามานานกว่า 36 ชั่วโมง ขณะที่ ยอดผู้เสียชีวิตขณะนี้ ทะลุไป 2,056 ราย บาดเจ็บ 3,900 ราย สูญหาย 300 ราย
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก ผู้ที่ใช้ชื่อว่า “เหมันต์ สตูดิโอ” ได้โพสต์คลิปที่กลายเป็นไวรัล ทั้งในไทยและพม่า ที่เด็กสาว 2 คน และย่าที่ป่วย ติดในซากตึกแผ่นดินไหว เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในเมืองมัณฑะเลย์ โดยผู้เป็นพ่อ เล่าว่า …. แม่วัย 75 ปี ที่ป่วยด้วยโรคหัวใจ และหลานสาววัย 16 และ 13 ปี ติดอยู่ในซากตึก นาน 2 วัน
ตอนนั้นผม ภรรยา และลูกชายคนเล็ก ออกไปข้างนอก ผมอาศัยอยู่ที่ชั้น 6 และเมื่อแผ่นดินไหวครั้งแรกเริ่มขึ้น ผนังห้องของคุณแม่ผม ก็พังทลายลงทันที ( จากคำบอกเล่าของลูกสาวทั้งสองคน) ตอนที่ลูกสาวทั้งสองคนกำลังเตรียมตัววิ่งหนี … พวกเธอพูดว่า “ต้องพาคุณย่าไปด้วย” แต่เมื่อไปเปิดประตูห้องของคุณย่า ประตูกลับเปิดไม่ออก สองพี่น้องพยายามผลัก และดันประตูอย่างสุดความสามารถ แต่สิ่งที่เห็นคือ คุณย่า มีเลือดไหลจากศีรษะ พวกเธอตัดสินใจว่า “ต้องพาคุณย่าหนีไปให้ได้” ทั้งสามคนจับมือกันแล้ววิ่งไปยังบันไดฉุกเฉิน แต่ตึกชั้นล่างสุดพังทลายลงมาเสียก่อน ลูกสาวทั้งสองคนพกโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย เผื่อต้องติดต่อกันหากเกิดอะไรขึ้น
เมื่อตึกพังลงมา ทุกอย่างมืดมิด เต็มไปด้วยฝุ่นควัน จนมองไม่เห็นกันและกัน ก้อนหินทับร่างกายของพวกเธอ พวกเธอพยายามเคลื่อนก้อนหิน แต่ไม่สำเร็จ ไม่นาน ลูกสาวทั้งสองได้ยินว่า มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งและป้าคนหนึ่งติดอยู่ข้างล่าง พวกเธอตะโกนเรียกกันทั้งจากด้านบนและด้านล่าง แต่ไม่มีการตอบรับจากภายนอก
เมื่อเวลาผ่านไปนานขึ้น ความหวังเริ่มเลือนลาง พวกเธอจับมือคุณย่าแล้วร้องไห้ด้วยกัน ลูกสาวทั้งสองใช้โทรศัพท์บันทึกเหตุการณ์ไว้ เผื่อว่า หากทั้งสามคน ยายหลานต้องเสียชีวิตลง ใครที่พบโทรศัพท์จะได้เห็นเรื่องราวทั้งหมด พวกเธอปลดล็อกโทรศัพท์ และหวังว่าพ่อกับแม่จะได้เห็นโทรศัพท์
ต่อมา ทีมกู้ภัยมาถึง พวกเธอตะโกนขอความช่วยเหลือจากชั้นบนลงไป จนทีมกู้ภัยเข้ามาใกล้ และบอกว่า จะช่วยแต่ให้รอก่อน จะต้องใช้อุปกรณ์ในการช่วยเหลือ กู้ภัยบอกว่า ต้องไปเอาอุปกรณ์มาเจาะเป็นช่องเพื่อช่วยเรา แต่หลังจากนั้น กู้ภัยก็หายไปนาน
ทีมกู้ภัยชุดต่อมา ส่งชายคนหนึ่งกลับมา เขาเป็นคนใจดี อธิบายทุกอย่างชัดเจน ได้ยินเสียงเขาขอน้ำดื่มและค้อนหนึ่งด้าม เขาใช้ค้อนทุบ จนเกิดช่องเล็ก ๆ และส่งน้ำมาให้ลูกสาว ในตอนนั้นคิดว่า ทีมกู้ภัยคงช่วยคนที่ชั้นล่างออกไปก่อนแล้ว แต่เมื่อถามกู้ภัย กลับไร้คำตอบ
ลูกสาวขอร้องว่า “อย่าทิ้งพวกเราไว้” แต่แล้วก็ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับอีก พวกเธอทั้งสามคน ย่า หลาน ช่วยกันเคลื่อนย้ายก้อนหิน และเห็นค้อนที่ทีมกู้ภัยทิ้งไว้ ลูกสาวใช้ค้อนนั้นทุบก้อนหิน จนเกิดช่องที่คน ๆ หนึ่งสามารถคลานออกมาได้
โดยไม่รอให้ทีมกู้ภัยกลับมา ลูกสาวพยายามคลานออกมาก่อน คุณย่าร้องว่า “หลานอย่าทิ้งย่าไว้” …… คุณย่า หายใจลำบาก ลูกสาวพยายามหากระดาษ หรือเศษไม้มาพัดให้คุณย่า ลูกสาวทั้งสองอยากเจาะช่องใหญ่กว่านี้ให้คุณย่า แต่ก้อนหินใหญ่เกินไป พวกเธอทำไม่ไหว …. สุดท้าย ลูกสาวคนโตพยายามคลานออกไปจนสำเร็จ ทีมกู้ภัยที่กลับมา ก็ช่วยดึงเธอออก และเธอขอร้องให้ช่วยน้องสาวและคุณย่าด้วย
น้องสาวคลานออกมาได้ แต่คุณย่ายังติดอยู่ ทีมกู้ภัยพาลูกสาวทั้งสองไปขึ้นรถพยาบาล ลูกสาวร้องขอให้ช่วยคุณย่าด้วย ทีมกู้ภัยบอกว่า “ไม่ต้องห่วง มีทางออกแล้ว เราจะช่วยคุณย่าออกมาให้ได้”
หลังจากรออยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นาน ในที่สุดก็ได้รับข่าวว่า คุณย่าถูกช่วยออกมาได้อย่างปลอดภัย ….. ขอบคุณคุณแม่ของผมและลูกสาวทั้งสองที่เข้มแข็ง และฝ่าฟันช่วงเวลานั้นมาได้
คำถามที่ถามลูกสาว หลังจากเหตุการณ์คลี่คลายคือ ในช่วงเวลาที่แทบไม่มีความหวัง ครอบครัวของเรากลับรอดชีวิตมาพร้อมกันได้ ข้าพเจ้าขอก้มกราบพระพุทธเจ้า ที่ประทานชีวิตให้เราทั้งครอบครัวได้อยู่รอดปลอดภัยต่อไป และทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า พวกเขาช่วยเหลือโดยไม่หยุดจนถึงรุ่งเช้า อย่าสูญเสียความเพียรพยายาม การช่วยเหลือ องค์กรกู้ภัยสำคัญ ๆ ทั้งหมด ขอบคุณ
ทั้งนี้ เจ้าของเพจ ระบุว่า ข่าวนี้แปลมาจากภาษาพม่า ให้เพื่อนชาวพม่าช่วยแปลบ้าง และบางภาษาความหมายอาจจะต่างกัน ต้องปรับภาษาให้สอดคล้อง
Cr: “U Naung”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น