“พิชัย” เผย พณ.ลุยสอบ “ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 ” เจอพิรุธอื้อ โยง 13 บริษัทธุรกิจ ผู้ถือหุ้นจนผิดปกติ จ่อเอาผิดเป็นนอมินี

"พิชัย" เผย พณ.ลุยสอบ "ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 " เจอพิรุธอื้อ โยง 13 บริษัทธุรกิจ ผู้ถือหุ้นจนผิดปกติ จ่อเอาผิดเป็นนอมินี

วันที่ 1 เม.ย. ที่กระทรวงพาณิชย์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทรับเหมาก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่พังถล่มหลังเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ว่า จากการลงพื้นที่ของ ร.ต.จักรา ยอดมณี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ พบความผิดปกติหลายประการ เช่น เมื่อไปตรวจสอบสถานที่ตั้งของบริษัท ปรากฏว่าไม่มีผู้ใดรับสายโทรศัพท์หรือกดกริ่งที่อาคาร ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ผิดปกติ

 

 

 

ทั้งนี้ คณะทำงานที่มีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ได้ประชุมเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด โดยพบว่ามีสิ่งผิดปกติค่อนข้างมาก และในวันที่ 4 เมษายน จะนำผลตรวจสอบเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งตนเป็นประธาน

 

“มีความผิดปกติค่อนข้างมาก และเครือข่ายของบริษัทนี้ค่อนข้างกว้าง เราจะต้องตรวจสอบให้รอบด้าน นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ดำเนินการอย่างถึงที่สุด ไม่มีการฮั้ว ไม่มีการปกปิด โปร่งใสชัดเจน และจะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด โดยจะเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมด รวมถึงโครงสร้างผู้ถือหุ้น ซึ่งขณะนี้ตรวจสอบพบว่าเข้าข่ายนอมินีสูง หากพบว่ามีการกระทำผิดจริง ทั้งผู้ถือหุ้นคนไทยและต่างชาติ จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 – 1,000,000 บาท” นายพิชัยกล่าว

 

 

 

นายพิชัย กล่าวว่า การตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ถือหุ้น 10% ของบริษัท ยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง แต่กลับมีรถยนต์ใช้งาน ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดปกติ เนื่องจาก 10% ของทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท เท่ากับ 100 ล้านบาท ดังนั้น ผู้ที่ถือหุ้นระดับนี้ควรมีฐานะที่มั่นคง กระทรวงพาณิชย์จึงได้รวบรวมข้อมูลและส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบเพิ่มเติม หากพบว่ามีการกระทำผิด จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทางด้าน นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้กำชับให้คณะทำงานตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 อย่างเข้มงวด โดย รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และกรมสรรพากร โดยตั้งเป้าสรุปผลภายใน 7 วัน

 

 

เบื้องต้น พบว่ากรรมการและผู้ถือหุ้นของบริษัทดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับบริษัทอื่นอีก 13 แห่ง ซึ่งต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมว่าบริษัทเหล่านี้รับงานจากที่ใดบ้าง และยังมีการดำเนินกิจการอยู่หรือไม่

“แม้ว่าบริษัทนี้จะมีผู้ถือหุ้นชาวไทย แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเข้าข่ายนอมินีหรือไม่ จึงได้ประสานกับกรมที่ดินเพื่อตรวจสอบข้อมูลที่ตั้งบริษัท รวมถึงการเปลี่ยนแปลงชื่อกรรมสิทธิ์ที่ดิน” นายนภินทร กล่าวและว่ากระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าตรวจสอบบริษัทต่างชาติที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นนอมินีเพิ่มเติม เพื่อป้องกันความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทย

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลผู้ถือหุ้นของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด พบว่ามีความเชื่อมโยงกับบริษัทอื่นหลายแห่ง โดยข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า บริษัทนี้จดทะเบียนเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2561 มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย และจากงบการเงินล่าสุดปี 2567 ระบุว่าประกอบกิจการด้านทรัพยากรมนุษย์และรับเหมาก่อสร้าง

ปัจจุบัน บริษัทมีกรรมการ 2 ราย ได้แก่ นายชวนหลิง จาง และนายโสภณ มีชัย โดยมีโครงสร้างผู้ถือหุ้นแบ่งเป็น 49% จีน และ 51% ไทย อย่างไรก็ตาม พบว่ามีความเชื่อมโยงกับบริษัทอื่นอีก 13 แห่ง ซึ่งอาจเข้าข่ายการฮั้วประมูลและกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยนอมินีและ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง

 

 

 

ที่ประชุมคณะทำงานจึงมีมติให้ตั้งคณะตรวจสอบย่อย 5 ชุด โดยแบ่งเป็น 3 ชุดแรก ตรวจสอบกรณีการเป็นนอมินีในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงการใช้แรงงานผิดกฎหมาย และคุณภาพสินค้า อีก 2 ชุด ลงพื้นที่ตรวจสอบธุรกิจท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้อง และการถือครองที่ดินของบริษัทต่างชาติ ทั้งนี้ การตรวจสอบจะดำเนินการอย่างเข้มข้น โดยมุ่งเน้นหาหลักฐานเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ปตท."ผ่านการรับรองระบบงานหน่วยตรวจสอบความใช้ได้และทวนสอบก๊าซเรือนกระจกตามมาตรฐาน ISO จากสมอ.
“กมธ.มั่นคงฯ” ผนึก “เอกนัฏ” เข้าให้ข้อมูลธุรกิจจีนศูนย์เหรียญ ลั่นต้องจัดการผลิตภัณฑ์ไร้คุณภาพ-ธุรกิจผิดกม.ในประเทศให้สิ้น
เปิดข้อมูลช็อก! ธรณีพิโรธ ภูเขาไฟปะทุ 3 ลูกติด พ่นลาวาเดือดๆ สูง 200 ม.
"ศปช." อนุมัติงบเยียวยารวม 385 ลบ. ช่วยผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย ดินโคลนถล่ม คาดนำเข้าให้ ครม.เห็นชอบ 29 เม.ย. นี้
“หมอวรงค์” หวดเจ็บ “วิโรจน์” พรรคประชาชน กลืนน้ำลายตัวเองหรือไม่ สารพัดอ้างไม่ยื่นสอบจริยธรรม “นายกฯอิ๊งค์”
"ตำรวจไซเบอร์" ออกหมายเรียก "สป.สายไหม" สอบปมเกี่ยวข้องเว็บพนัน 888 
"นฤมล" แจงผลสำเร็จ "กยท." แท็กทีมแก้ปัญหาราคายางพารา เพิ่มรายได้เกษตรกรแล้ว 3-10.3 บาทต่อกก.
เปิดภาพ กล้องดักถ่าย พบ 'ทหารรัฐมอญ' อาวุธครบมือ โผล่ตระเวนข้ามแดน ป่าแก่งกระจาน เร่งประสานหน่วยมั่นคงตรวจสอบด่วน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ฉงชิ่งเปิดตัวบัสท่องเที่ยวธีม 'แพนด้ายักษ์'
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) เซี่ยงไฮ้เปิดตัว 'ปลาจักรกลอัจฉริยะ' แหวกว่ายใต้น้ำสมจริง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น