พ่อลูกแรงงานรอดชีวิต ตึกสตง. 30 ชั้นถล่ม ญาติร่วมผูกแขนเรียกขวัญ เล่านาทีหนีตายหวุดหวิด

แรงงานรอดชีวิตจากตึกถล่ม กลับถึงบ้านแล้วที่ จ .นครพนม ญาติร่วมผูกแขนเรียกขวัญ เล่านาทีหนีตายรอดออกมาได้อย่างหวุดหวิด

พ่อลูกแรงงานรอดชีวิต ตึกสตง. 30 ชั้นถล่ม ญาติร่วมผูกแขนเรียกขวัญ เล่านาทีหนีตายหวุดหวิด – Top News รายงาน

พ่อลูกแรงงานรอดชีวิต

วานนี้ (1 เมษายน 2568 ) เวลาประมาณ 18.30 น. นายบุญสา ราศรี  ชาวบ้านหมู่บ้านคำสว่างน้อย หมู่ที่ 6 ต.วังตามัว อ.เมือง จ.นครพนม พร้อมด้วย นายขจรศักดิ์ ราศรี อายุ 19 ปี บุตรชาย เดินทางกลับมาถึงบ้านเกิดแล้ว พร้อมด้วยเพื่อนแรงงานจำนวน รวม 6คน โดยสวัสดิภาพ ท่ามกลางความดีใจและโล่งใจของญาติพี่น้องและครอบครัวที่เฝ้ารอการเดินทางกลับมา โดยทันทีที่กลับมาถึงบ้านได้มีการทำพิธีผูกข้อมือผูกแขนเรียกขวัญตามประเพณีของชาวอีสานอย่างเรียบง่าย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายบุญสา ราศรี อายุ 51 ปี เป็นหนึ่งในแรงงานที่เป็นช่างติดตั้งระบบสปริงเกอร์ในอาคารที่เกิดเหตุและเล่าถึงเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุว่า ในวันที่เกิดแผ่นดินไหวและก่อนที่ตึกถล่มลงมานั้น ภายหลังจากตนและคนงานเพิ่งเสร็จจากการพักเที่ยงทานอาหารกลางวัน เริ่มจัดเตรียมเครื่องมือและวัสดุเพื่อสำหรับใช้ในการติดตั้งระบบสปริงเกอร์ภายในอาคารชั้นที่ 5 อยู่นั้น ได้มีความรู้สึกคล้ายๆวิงเวียนศีรษะกะทันหันและสังเกตมองขึ้นไปยังเพดานของอาคารพบว่ามีวัสดุเศษปูนกะเทาะร่วงหล่นลงมาเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้แน่ใจว่ามีความผิดปกติกับอาคารแห่งนี้แน่ๆ จึงตะโกนร้องบอกให้เพื่อนร่วมงานที่ทำงานด้วยกันทั้งหมดทั้ง 16 คน ให้รีบออกมาจากตัวอาคารหลังดังกล่าวโดยเร็ว โดยพากันวิ่งหนีลงทางบันไดหนีไฟจึงรอดพ้นออกมาได้อย่างหวุดหวิด

จากนั้นเพียงไม่กี่วินาทีที่ออกมา อาคารทั้งหลังก็ถล่มลงมาทั้งตึก ภายหลังจากที่เหตุการณ์สงบลง จึงรีบสำรวจเพื่อนคนงานที่ออกมาด้วยกัน จึงทราบว่ามีแรงงานออกมาได้อย่างปลอดภัยจำนวน 13 คน คงเหลืออีก 3 คนที่หนีออกมาไม่ทัน จนเจ้าหน้าที่กู้ภัยทำการกู้ร่างผู้สูญหายหลังตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอแล้ว จึงทราบว่าเพื่อนคนงานเสียชีวิต 2 คน คือนายบุญรอด โอทาตะวงศ์ ชาวบ้านคำสว่างน้อย และนายกิตติพร ชาวจังหวัดอุดรธานี คนงานที่มาทำงานด้วยกัน ส่วนอีกคนที่สูญหายยังไม่พบตัวในขณะนี้คือ นายจักรกฤษณ์ ศิลารักษ์ ถึงแม้ว่าเวลาได้ล่วงเลยไปแล้วหลายวันแต่ตนก็ขอภาวนาให้เจ้าหน้าที่ได้พบตัวและยังมีชีวิตอยู่ให้ได้โดยเร็วที่สุด

 

นอกจากนี้ จากกรณีที่เป็นข่าวว่ามีแรงงานชาวบ้านคำสว่างน้อยเดินทางไปทำงานยังตึก สตง.ที่ถล่มลงมาจำนวนราว 20 คนนั้น ตนขอชี้แจงว่าคนงานที่เดินทางไปด้วยกันมีจำนวนเพียง 16 คน เป็นชาวบ้านคำสว่าง 14 คนเท่านั้นและเป็นชาวจังหวัดอุดรธานี 1 คนสกลนคร 1 คน ยืนยันว่าไม่ได้มีจำนวน 20 คนตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

 

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า จากการเดินทางกลับมานี้นายจ้างหรือบริษัทได้จ่ายค่าแรงให้กับคนงานบ้างอย่างไร นายบุญสาได้บอกว่า ขณะนี้นายจ้างคือบริษัท 9 ทีเค อยู่ระหว่างประสานงานขอเบิกค่าแรงจากบริษัทแม่ เพื่อนำมาจ่ายคนงานด้วยเช่นกัน จากช่วงนี้ต่อไปตนขอพักงานต่างๆ เอาไว้ก่อน เพื่อขออยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว หลังจากผ่านพ้นเหตุการณ์นี้ออกมาได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“รองโฆษกรัฐบาล” ยืนยันค่าไฟไม่ได้เพิ่ม แต่ลดลงเหลือ 3.99 บ.ต่อหน่วย
โค้งสุดท้าย "พิพัฒน์" นำทีมภูมิใจไทย เคาะประตูบ้าน ชาวเมืองคอน ขอเสียงหนุน "ไสว" เป็นสส.เขต 8
ชาวเมืองน่าน เข้าพบ "นิพนธ์" อดีตรมช.มหาดไทย ผลักดันพิสูจน์สิทธิ ออกโฉนดที่ดินสำเร็จ หลังรอคอยนานกว่า 30 ปี
"สันติสุข" ปลื้มปริ่ม "ในหลวง-พระราชินี" ทรงขับเครื่องบิน เสด็จฯเยือนราชอาณาจักรภูฏาน ทรงได้รับการถวายพระเกียรติ สุดประทับใจคนไทย
“ทักษิณ” ลั่นไม่สั่งใครเบรค “กัน จอมพลัง” ยุ่งคดีพีช ฟาด "เต้ มงคลกิตติ์" หลังปูดข่าว
"เจ้าอาวาส" สุดทนขึ้นป้าย “ไม่มีเงินให้ขโมยแล้ว” หลังคนร้ายงัดตู้บริจาคหลายครั้ง
“ทักษิณ” กลับเชียงใหม่อีกครััง เปิดให้รดน้ำดำหัว ขอพรในเทศกาลสงกรานต์ ก่อนช่วย “อัศนี” หาเสียงพรุ่งนี้
“นายกฯ” เตรียมลุยประชุม ครม.สัญจร หลังออกจาก รพ.แล้ว จ.นครพนม 28-29 เม.ย.นี้
"ดีอี" ยกระดับศูนย์ AOC 1441 สู่ ศปอท. เพิ่มประสิทธิภาพบูรณาการข้อมูลปราบ “โจรออนไลน์”
"กนก" โพสต์แฟนข่าว "ท็อปนิวส์" เต็มอิ่ม สนุกสุดทัวร์ย้อนประวัติศาสตร์ "ลั่วหยาง-ซีอาน"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น