หลังรับตำแหน่งใหม่ ๆ ในเดือนมกราคม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และบรรดาที่ปรึกษาระดับสูง ตั้งเป้าว่า จะสามารถผลักดันรัสเซียและยูเครน ทำข้อตกลงหยุดยิงฉบับสมบูรณ์ในเดือนเมษายนหรือพฤษภาคม จากนั้น ค่อยไกล่เกลี่ยข้อตกลงสันติภาพถาวรเป็นลำดับต่อไป แต่ล่วงมาถึงกลางมีนาคมแล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววจะเห็นการหยุดยิง เพิ่มความเป็นไปได้ว่าสงครามที่ยืดเยื้อกว่า 3 ปี จะลากยาวต่อไป และหมายถึงว่า ยูเครนจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนปฏิบัติการทหารเพิ่มจากตะวันตก รอยเตอร์ส รายงานอ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯสองคน ว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐฯ กำลังร่างแผนการใหม่เพื่อกดดันทั้งสองฝ่าย
สถานการณ์เช่นนี้ไม่เป็นผลดีกับทรัมป์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักต่อรองมือฉมัง และสัญญาไว้หลายหนว่าจะยุติสงครามที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากมายอย่างรวดเร็ว
รายงานระบุว่า เป็นเวลาหลายสัปดาห์ที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯบ่นแบบส่วนตัวเรื่องที่ยูเครน ต่อต้านขัดขืนทำข้อตกลงแร่ธาตุกับสหรัฐฯ ทำให้การเจรจาสันติภาพไม่คืบหน้า แต่ระยะหลัง ยังหัวเสียกับรัสเซียด้วย โดยในการประชุมและการหารือทางโทรศัพท์ตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ในทำเนียบขาวและกระทรวงต่างประเทศยอมรับว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ต่อต้านความพยายามไกล่เกลี่ยสงครามของสหรัฐฯเช่นกัน
แม้ต่อหน้า ทรัมป์ กล่าวว่า เขายังเชื่อว่าปูตินต้องการยุติสงคราม แต่ทำเนียบขาวไม่แน่ใจเจตนาของปูติน และกำลังหารือว่าจะใช้มาตรการการทูตหรือเศรษฐกิจ กดดันรัสเซียหรือไม่และอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ ทรัมป์ออกปากผ่านสื่อไปแล้วว่า อาจเก็บภาษีรอง หรือเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศที่ซื้อสินค้าจากรัสเซีย 25-50%
เซอร์เก รีอาคอฟ รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซีย ระบุในบทสัมภาษณ์เผยแพร่เมื่อวาน ( 1 เมษายน ) ว่า รัสเซียไม่สามารถยอมรับข้อเสนอยุติสงครามเท่าที่มีการเสนอถึงเวลานี้ได้ เพราะไม่ได้แก้ไขปัญหาปัญหาต่าง ๆ ที่รัสเซียเชื่อว่าเป็นรากเหง้าทำให้สงครามปะทุขึ้น
นักวิเคราะห์ และเจ้าหน้าที่ข่าวกรองยุโรปหรืออเมริกันเอง เตือนตั้งแต่แรกว่า ปูตินจะไม่เข้าสู่การเจรจายุติสงครามในยูเครนด้วยใจจริง ตราบใดยังเชื่อว่า รัสเซียกำลังจะชนะสงคราม แต่ที่ปรึกษารัฐบาลทรัมป์ หวังว่า การผ่อนปรนมาตรการกดดันทางเศรษฐกิจกับรัสเซียที่โดนแซงชั่นมา 3 ปีเต็ม น่าจะเพียงพอผลักดันรัสเซียมาทำความตกลง
เวลานี้ หลายคนในทีมที่ปรึกษาไม่ว่าจะ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ ไมค์ วอลตซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ และ คีธ เคลลอก ทูตพิเศษด้านยูเครนของสหรัฐฯ กำลังคิดใหม่ว่าจะโน้มน้าวปูตินอย่างไร โดยที่สหรัฐฯและยุโรปไม่ต้องอ่อนข้อให้อย่างมีนัยสำคัญ หลังจากหลายเดือนที่ผ่านมา สหรัฐฯทุ่มกดดันรัฐบาลเคียฟ และเอียงเข้าข้างจุดยืนของรัสเซียส่วนใหญ่ แต่ปูตินกลับตั้งเงื่อนไขแบบไม่ลดลาวาศอก เกินกว่าที่สหรัฐฯ ยูเครนหรือยุโรป พอจะยอมให้ได้ ซึ่งรวมถึงการเรียกร้องให้สหรัฐฯ และ นาโต ยกเลิกกิจกรรมทางทหารในยุโรป โดยเฉพาะในประเทศที่มีชายแดนติดกับรัสเซีย และไม่ยอมให้การส่งทหารสันติภาพเข้าไปในยูเครน เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลง
อีกด้าน ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่พอใจเซเลนสกี้ครั้งใหม่ด้วย โดยกล่าวหาผู้นำยูเครนว่า กำลังพยายามคืนคำเรื่องข้อตกลงแร่ธาตุหายาก และออกปากเตือนว่าอย่าบิดพลิ้ว ไม่เช่นนั้นจะเจอปัญหาใหญ่ เจมส์ เฮวิตต์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวว่า ผู้นำสหรัฐฯถือว่าข้อตกลงแร่ธาตุ เป็นส่วนสำคัญในการนำสันติภาพกลับคืนยูเครน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่สหรัฐฯอีกคน เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาแก้ไขเนื้อหาข้อตกลงบางส่วน เพื่อให้สอดคล้องกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของยูเครนมากขึ้น
ส่วนข้อตกลงหยุดยิงโดยให้ระงับการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานพลังงาน หรือ หยุดยิงในทะเลดำ ที่สหรัฐฯพยายามไกล่เกลี่ย ดูเหมือนยังไม่มีการปฏิบัติใช้ แม้สองฝ่ายเห็นพ้องกันว่าจะพักโจมตีโครงสร้างพลังงาน แต่รัสเซียและยูเครนก็ยังเดินหน้าโจมตีกันและกันอยู่ ส่วนข้อตกลงหยุดยิงในทะเลดำ ยูเครนเห็นพ้องกับสหรัฐฯ แต่รัสเซียยื่นเงื่อนไขว่า จะต้องได้กลับเข้าสู่ระบบชำระเงินระหว่างประเทศและเข้าถึงตลาดการค้าบางส่วนเสียก่อน
