นโยบายกวาดล้างผู้อพยพแบบฉับไวและเด็ดขาดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังถูกจับจ้องครั้งใหม่ หลังจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยอมรับว่า เกิดความผิดพลาดทางด้านธุรการ เป็นเหตุให้นายคิลมาร์ อาร์มันโด อาเบรโก การ์เซีย ชายชาวเอลซัลวาดอร์ ที่อาศัยในรัฐแมรี่แลนด์ ถูกส่งไปเข้าคุกในเอลซัลวาดอร์ ทั้งที่เขาได้รับสถานะคุ้มครองทางกฎหมายห้ามส่งกลับประเทศ เพราะเสี่ยงอันตราย
เครื่องบินทหารสหรัฐฯ พาผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารเข้าเมือง และรัฐบาลทรัมป์อ้างว่า เป็นสมาชิกแก๊งอาชญากรรมชื่อกระฉ่อน 260 คน เหินฟ้าไปจองจำที่ศูนย์กักกันก่อการร้ายเอลซัลวอร์ หรือ เซคอต (CECOT) คุกขนาดใหญ่รองรับอาชญากรได้ถึง 4 หมื่นคน เมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยจำนวนมากเป็นชาวเวเนซุอล่า ที่ถูกกล่าวหาเป็นสมาชิกแก๊ง เตร็น เดน อารากัว อีกส่วนเป็นชาวเอลซัลวาดอร์ ที่ถูกกล่าวหาเป็นสมุนแก๊ง เอ็มเอส-13 ทั้งสองแก๊ง รัฐบาลสหรัฐฯขึ้นบัญชีเป็นกลุ่มก่อการร้าย
ทรัมป์อ้างว่าสามารถเนรเทศคนเหล่านี้ โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายศัตรูต่างด้าวปี 1798 แต่กฎหมายฉบับนี้ไม่เคยนำมาใช้ในช่วงปลอดสงครามมาก่อน และกำลังเป็นประเด็นฟ้องร้อง ศาลสหพันธ์ของสหรัฐฯ ได้ออกคำสั่งระงับการเนรเทศ แต่รัฐบาลทรัมป์อ้างว่า ขณะนั้น เครื่องบินออกเดินทางเข้าน่านฟ้าสากลไปแล้ว
ในเอกสารคำฟ้องที่ครอบครัวยื่นต่อศาล อาเบรโก การ์เซีย หลบหนีความรุนแรงจากอาชญากรรมในประเทศบ้านเกิด เข้าสหรัฐอเมริกาอย่างผิดกฎหมาย ในปี 2554 ขณะอายุ 16 ปี ต่อมา ในปี 2562 เขาถูกกล่าวหาเป็นสมาชิกแก๊งอาชญากร หลังต่อสู้คดี ศาลสหรัฐฯ ไม่พบหลักฐานว่าเขาเคยก่ออาชญากรรมใดมาก่อน จากนั้น ได้ยื่นขอลี้ภัยและผู้พิพากษาออกคำสั่งคุ้มครอง ห้ามเนรเทศกลับไปเอลซัลวาดอร์ เพราะมีความเสี่ยงที่จะถูกแก๊งอาชญากรรมปองร้าย ตลอดเวลาที่อยู่ในสหรัฐฯ ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรม เขาแต่งงานกับพลเมืองอเมริกัน และมีลูกที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ วัย 5 ขวบ
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (31 มีนาคม) ทนายกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุในเอกสารยื่นต่อศาล ยอมรับว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร หรือ ไอซ์ (ICE) จับกุม อาเบรโก การ์เซีย ด้วยความผิดพลาดทางธุรการ และทั้งที่รู้ว่าเขาได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย แต่ก็ยังส่งขึ้นเครื่องบินเนรเทศ ทนายรัฐบาลสหรัฐฯ อ้างว่า เป็นความผิดพลาดที่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ เพราะรัฐบาลไม่มีอำนาจพาเขากลับมาจากรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ และอยู่นอกเขตอำนาจของศาลสหรัฐฯ
แต่เป็นที่รู้กันว่า รัฐบาลทรัมป์ มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ นายิบ บูเคเล ประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ มีรายงานว่า สหรัฐฯจ่ายค่าธรรมเนียมขังผู้อพยพไม่มีเอกสารหรือผิดกฎหมายในคุกเอลซัลวาดอร์ 6 ล้านดอลลาร์
เมื่อถูกถามถึงความผิดพลาดเรื่องนี้ โฆษกทำเนียบขาว แคโรไลน์ ลีวิตต์ อ้างข่าวกรองว่า อาเบรโก การ์เซีย เป็นผู้นำคนหนึ่งของแก๊ง MS-13 และผู้ก่อการร้ายต่างชาติ จะไม่มีสิทธิได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายในสหรัฐฯอีกต่อไป การเนรเทศบุคคลน่ารังเกียจออกจากชุมชนคนอเมริกัน เป็นอำนาจฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี แต่เธอไม่ได้แสดงหลักฐาน
กระบวนการเนรเทศผู้อพยพแบบเร่งรีบ จนเกิดความผิดพลาดและข้อกังขา เนื่องจากเป็นการดำเนินการแบบปิดลับ และไม่เปิดเผยว่ามีใครกันบ้าง เป็นสมาชิกแก๊งอาชญากรรมจริงหรือไม่ จุดกระแสวิจารณ์อย่างหนัก นอกจากกรณีของพ่อลูกหนึ่งชาวเอลซัลวาดอร์แล้ว ยังมีช่างทำผมชาวเกย์คนหนึ่งที่ถูกเนรเทศ โดยทนายระบุว่าลูกความตกเป็นเป้า เพราะลายสัก กองเชียร์ของทรัมป์อย่าง โจ โรแกน พอดแคสเตอร์ทรงอิทธิพลในสหรัฐฯ ที่สนับสนุนทรัมป์ในศึกเลือกตั้ง 2024 ยังออกปากตำหนิว่า เป็นเรื่องเลวร้ายมากที่คนบริสุทธิ์อย่างช่างผมชาวเกย์ ถูกกวาดต้อนไปพร้อมกับความพยายามเนรเทศสมาชิกแก๊งอาชญากรรม
