AFP รายงานว่าโซฟี่ ปรีมา โฆษกรัฐบาลฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ RTL ในวันนี้ (พฤหัสที่ 3 เมย.) กล่าวว่าผลพวงจากกำแพงภาษีทั่วโลก 60 ประเทศที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเมื่อเย็นวานนี้ (พุธที่ 2 เมย.) โดยอียูจะถูกเก็บ 20% นั้น แน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของฝรั่งเศสอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าไวน์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
อย่างไรก็ตามปรีมากล่าวว่าฝรั่งเศสและอียูเองก็มีอาวุธที่จะตอบโต้สหรัฐเช่นกัน จากนั้นค่อยหาทางออกและช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมในประเทศ
ปรีมายังได้วิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์ว่าทำตัวราวกับเป็นเจ้าโลก และยังติดอยู่กับแนวคิดยุคจักรวรรดินิยม ซึ่งยุโรปเลิกใช้ไปนานแล้ว ทั้งนี้ปรีมากล่าวว่าอียูมีการเตรียมการเอาไว้สองขั้น ขั้นต้นจะตอบโต้ด้วยภา่ษีเหล็กกล้าและอลูมิเนียม โดยจะเริ่มใช้กลางเดือนเมษายนนี้ จากนั้นอียูก็จะเก็บภาษีการให้บริการออนไลน์และสินค้าที่เหลือทั้งหมด ของสหรัฐ คาดว่าจะพร้อมบังคับใช้เดือนปลายเมษายน ซึ่งเรื่องนี้อยู่ระหว่างการหารือ
ด้านประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงได้เรียกประชุมตัวแทนภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆของฝรั่งเศสในเวลา 21 นาฬิกาคืนนี้ ตามเวลาของไทยเพื่อพูดคุยหารือเรื่องผลกระทบที่จะได้รับจากมาตรการกำแพงภาษีครั้งนี้ของทรัมป์
ขณะที่เออร์ซูล่า ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมการยุโรปออกมาเตือนว่ามาตรการกำแพงภาษีครอบคลุมทั่วโลกไม่เว้นทั้งพันธมิตรหรือศัตรูของทรัมป์จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และประชาชนหลายล้านคนทั่วโลก รวมทั้งประเทศที่มีเศรษฐกิจอ่อนแอ และว่าอียูพร้อมแล้วที่จะทำสงครามการค้ากับสหรัฐ โดยแพ็จเก็จแรกคือภาษีเหล็กและอลูมิเนี่ยม และหากการเจรจาพูดคุยกันไม่เป็นผล อียูก็จะออกมาตรการชุดต่อไป