“ทวี” ลั่นไม่ปล่อยแน่ หากพบมีผู้มีอิทธิพลเอี่ยว “บริษัทจีน” สร้างตึกสตง. ประสานตม.ตรวจเข้มคนเข้าออกประเทศ

“ทวี” ลั่นไม่ปล่อยแน่ หากพบมีผู้มีอิทธิพลเอี่ยว "บริษัทจีน" สร้างตึกสตง. ประสานตม.ตรวจเข้มคนเข้าออกประเทศ

วันที่ 4 เม.ย.68 ที่รัฐสภา พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวภายหลังการประชุมนัดแรกของคณะพนักงาน สอบสวนประชุมคดีพิเศษที่ 32/2568 กรณีความผิดจากตึก สตง.ถล่ม ยืนยันหากมีหลักฐานแจ้งข้อกล่าวหา สามารถนำตัวผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้อง เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ เว้นแต่ก่อนกรณีรับเป็นคดีพิเศษ พอรู้ที่อยู่ก็มีการติดตาม และเมื่อเช้าได้มีการแจ้งว่าจะต้องมีการประสานงานด่าน ตม.ทางเข้าออกประเทศด้วย

พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า “หน้าที่ของพนักงานสอบสวน นอกจากแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน พิสูจน์ความบริสุทธิ์และความผิดแล้ว อีกหน้าที่สำคัญคือการนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องลงโทษ ในเรื่องนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เวลาจะทำเรื่อง ดูทุกเรื่อง เพราะเรามีสำนักสืบสวนสะกดรออยู่”

 

 

พันตำรวจเอก ทวี กล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีผู้มีอิทธิพลเกี่ยวข้องกับบริษัทนอมินีจีน ว่ารัฐบาลนี้โดยเฉพาะในกระทรวงยุติธรรม นอกจากจะแก้ปัญหาอาชญากรรมยาเสพติดแล้ว ยังจะดำเนินการกับผู้มีอิทธิพลโดยเฉพาะกฎหมายสอบสวนคดีพิเศษ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับผู้ส่งอิทธิพลต้องทำอยู่แล้ว ต้องใช้กฎหมายดำเนินการ ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ถ้าพยานหลักฐานไปถึงก็ดำเนินการได้ ซึ่งเมื่อเช้ายังได้รับฟังข้อมูลของพนักงานสอบสวน ตามที่เสนอก็มีความรอบคอบ ชี้คดีนี้เป็นคดีที่มีความสูญเสียเยอะ การดำเนินคดีต้องดำเนินการโดยเร็ว บนข้อมูลพยานหลักฐานที่รอบคอบ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

พันตำรวจเอก ทวี ยังกล่าวว่า ขณะนี้ขอทำคดีในส่วนของสาเหตุตึก สตง. ถล่มก่อน ส่วนในประเด็นอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือการตรวจสอบโครงการของรัฐ ที่มีสัญญากับบริษัทสัญชาติจีน ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ ซึ่งได้มีการสอบถามเกี่ยวกับหลักฐานทางทะเบียน กรณีกิจการร่วมค้าปรากฏว่า กระทรวงพาณิชย์แจ้งว่าไม่ได้รับผิดชอบทะเบียน ซึ่งรับผิดชอบเฉพาะบริษัทนิติบุคคลตามกฎหมายแพ่ง ทำให้ข้อมูลจึงไปอยู่ที่กระทรวงการคลัง แต่กระทรวงการคลังไม่ได้ทำทะเบียนไว้ จึงต้องไปไล่ตาม สรรพากรต่างๆ ที่มีการเสียภาษี โดยเห็นว่าเป็นส่วนหนึ่งที่จะต้องมีผู้มารับผิดชอบ อาจเพิ่มภาระงานให้กระทรวงพาณิชย์เข้ามาร่วมดูด้วย

 

พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า “ อย่างน้อยเป็น 2 บริษัทหรือ 3 บริษัทเข้ามา ซึ่งบริษัทต่างด้าวกระทรวงพาณิชย์ก็ดูอยู่แล้ว ประการสำคัญเมื่ออ่านสัญญาบางครั้งอาจมีช่องว่าง ซึ่งประเทศไทยมีกฎหมายดีเยอะ แต่เวลาใช้เหมือนเป็นส่วนๆ ขาดการบูรณาการ เท่าที่ควร เหมือนอานานิคมของกฎหมายหน่วยใดหน่วยหนึ่ง จึงบอกดีเอสไอต้องประสานงาน แม้แต่เรื่องการบังคับใช้กฎหมายเรื่องเข้าสู่เนื้องาน เช่นพยานหลักฐานควรต้องเก็บอย่างไร ควบคู่กับการช่วยเหลือชีวิตก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่หากปล่อยให้วัตถุพยานถล่มลงไป ก็จะไม่มีภาพและวัตถุพยานไปยืนยันในชั้นศาล จึงขอให้ไปประสานงาน ให้เก็บภาพและวัตถุพยานให้มากที่สุด ทำให้พนักงานสอบสวนต้องประสานกับนิติวิทยาศาสตร์ และประสานกับวิศวกร และขอความกรุณาผู้ช่วยชีวิตช่วยบันทึกภาพเก็บไว้ด้วย”

 

 

เมื่อถามว่า กรณีที่บริษัท ของจีน ได้โครงการสัมปทานของรัฐหลายโครงการ จะต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมหรือไม่ พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า มีหน่วยงานที่รับผิดชอบ และกระทรวงยุติธรรมจะนำข้อมูลที่มีอยู่ไปให้ เช่นเรื่องกิจการร่วมค้า 29 โครงการ มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท ส่วนดีเอสไอจะโฟกัสเฉพาะกรณีที่รับผิดชอบก่อน ส่วนกรณีอื่นจะต้องส่งให้ภาครัฐไปพิจารณา เพราะหากทำคดีใดก็ต้องทำเป็นคดีคดีไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ทรัมป์เตรียมประกาศภาษีนำเข้ายาครั้งใหญ่
"จตุพร" ชี้ถ้านายกฯดันกม.เอนเตอร์เทนเมนต์ฯต่อ พรรคร่วมแตกแยกใหญ่แน่
กยศ. แจงปมดราม่า สาเหตุเพิ่มจำนวนหักเงินเดือนบัญชีละ 3,000 บาท พร้อมเผยวิธีแก้ไข
"สุริยะ" ดีเดย์รถไฟฟ้า 20 บาท ก.ย.นี้ ใช้งบฯรัฐอุดหนุน 8 พันล้านบาทต่อปี
“สุริยะ” แจงปมตั๋วเครื่องบินแพงเกินจริง เหตุระบบขัดข้อง ลั่นหากพบราคาไม่เป็นธรรม ส่งร้องเรียนคมนาคมได้ทันที
"ชูศักดิ์" ชี้เป็นสิทธิ์ "ไชยชนก" ค้านกาสิโน ยันรัฐบาลชอบธรรมดันร่างกม.เอนเตอร์เทนเมนต์ฯเสริมท่องเที่ยว
“เขมร” รอดแผ่นดินไหว? ว่างจัด-โม้สรรพคุณจรวด 300 มม. ยิงไกล 130 กม.
"อธิบดี DSI" แจงสาเหตุเอกสาร "บริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ" ตามยาก ลั่นหากพบผิดเจอหมายเรียก-หมายจับ
"นายกฯ" ยันเดินหน้า "เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" พร้อมเคลียร์พรรคร่วมฯ-ปชช. ลั่นถูกบิดเบือนเป็นกาสิโน
"ศาลรธน." ลงมติเอกฉันท์ ตีตกคำร้อง "ณฐพร" วินิจฉัยกกต.ทำผิดปล่อยฮั้วเลือกสว.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น