เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 เม.ย. ที่สนามช้างอารีน่า อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด กล่าวบรรยายพิเศษหัวข้อ “แนวทางการพัฒนาจังหวัดบุรีรัมย์ยุคใหม่ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดและองค์การบริหารส่วนจังหวัด” แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดและ นายกอบจ.ทั่วประเทศ ว่า วันนี้เป็นวันที่ตั้งใจ มีความหวัง และมีความมุ่งหวังว่า สิ่งที่ตนได้นำเสนอต่อนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัดในวันนี้ จะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของท้องถิ่นแต่ละท้องถิ่นในประเทศ ที่ตนใช้เวลาร่วมกับพี่น้องประชาชน โดยการสนับสนุนของภาคราชการ 15 ปี ในการสร้างบุรีรัมย์จากเมืองผ่านเป็นเมืองพัก ถ้าเทียบกับสุรินทร์ บุรีรัมย์เป็นเมืองตำน้ำกิน ส่วนสุรินทร์กินน้ำตำ เป็นสองประโยคที่อธิบายให้เห็นความเป็นอยู่ และวิถีชีวิตของพี่น้องบุรีรัมย์ในอดีต แต่วันนี้บุรีรัมย์กลับมามีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้ด้วยสองเหตุผล
เหตุผลแรก พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่เสด็จพระราชดำเนินมาดูแลทุกข์สุขของพี่น้องชาวจังหวัดบุรีรัมย์ เรารู้ตัวดีว่าเมืองบุรีรัมย์เริ่มต้นอย่างไร ทำให้เราได้แรงบันดาลใจที่ได้เห็นจากรุ่นสู่รุ่นที่พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ทรงมีพระมหากรุณาที่คุณต่อชาวบุรีรัมย์ ส่วนเหตุผลที่สอง เป็นพลังอันยิ่งใหญ่ ที่ทำให้เมืองบุรีรัมย์เปลี่ยนแปลงมาจนถึงวันนี้ได้ คืออำนาจของประชาชน กลไกที่ทำให้บุรีรัมย์เปลี่ยนจากเมืองตำน้ำกิน กลายเป็นเมืองที่ทำให้ผู้คนมาศึกษาดูงานจำนวนมหาศาลเกิดขึ้นจากอำนาจของประชาชน
นายเนวิน กล่าวว่า นายก อบจ. มาจากอำนาจของประชาชน ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมีหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุข เพื่อให้ประชาชนมีความสุข โดยนิตินัยเรามีผู้ว่าราชการจังหวัด 76 คน และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 1 คน เรามีนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด 76 คน บางเมืองยืนอยู่ได้อย่างชัดเจนซึ่งเป็นส่วนน้อย บางเมืองไม่เติบโต บางเมืองแย่ลง เพราะความไม่ต่อเนื่อง ความไม่ยั่งยืนของฝ่ายบริหาร ของรัฐ และของผู้อำนาจที่เข้ามาทำหน้าที่ในบ้านเมือง ที่ผ่านมาบุรีรัมย์สะดุด ขาดความต่อเนื่องตลอดมาเพราะคำว่า “นโยบายที่ไม่คำนึงถึงความต้องการของพี่น้องประชาชนที่แท้จริง”
ดังนั้น สิ่งที่ตนหวังในวันนี้คือเห็นคนที่มาจากอำนาจของประชาชนคือนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และคนที่มาจากอำนาจรัฐอย่างผู้ว่าราชการจังหวัด ได้มานั่งอยู่ในห้องนี้ร่วมกัน แชร์ และเคลียร์ว่าถ้าเราจะเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองต้องมีผู้เสียสละด้วยกันทุกฝ่าย ที่ตนพูดเรื่องความไม่ต่อเนื่องไม่ยั่งยืน ต้องยอมรับความจริงว่ากว่า 80% ของผู้ว่าราชการจังหวัดที่ไปดำรงตำแหน่งแต่ละจังหวัดท่านไม่ใช่คนเกิดที่นั่น แต่มาโดยวาระของราชการที่มาแล้วก็ไป ซึ่งการที่บุรีรัมย์ผ่านมาได้เพราะ 15 ปีที่ผ่านมา อำนาจของประชาชนมั่นคงมุ่งมั่นมีจุดยืน มากกว่าอำนาจฝ่ายบริหารที่มาอยู่ที่บุรีรัมย์ นี่คือหัวใจสำคัญ
”ผมเห็นผู้ว่าราชการจังหวัดที่ย้ายเข้ามาทำงานที่บุรีรัมย์บ้านของผม ท่านมาพร้อมอำนาจความคิดของตัวเอง แต่พอหมดวาระแล้วก็ไปหลายสิ่งหลายอย่างท่านทิ้งไว้ไม่ได้ดำเนินการต่อ สูญเสียทั้งเวลา งบประมาณ หยาดเหงื่อแรงงานของคนบุรีรัมย์ แต่หลังจากนั้น 15 ปี ชาวบุรีรัมย์จับมือกันยืนอยู่บนพื้นฐานว่าเราจะไม่เปลี่ยน ไม่ว่าใครจะไป ใครจะสั่งอะไร เรายึดหลักรักษาทรัพยากร งบประมาณเพื่อความยั่งยืน และความมั่นคงของคนบุรีรัมย์ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำในวันเดียว หรือสำเร็จโดยมีอำนาจการเมืองไปลงงบประมาณ แต่เป็นเรื่องของความยั่งยืน ความต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเดียวกันของคนบุรีรัมย์ สำคัญที่สุดคืออำนาจของประชาชน ที่จะร่วมแรงร่วมใจกันสร้างเมืองของตัวเอง ไม่มีใครรักบ้านเมืองเรามากกว่าคนที่เกิดที่นั่นและจะตายที่นั่น ดังนั้น สำคัญที่สุดคือบ้านเกิดเมืองนอน และความสำเร็จของบุรีรัมย์ที่มีอยู่ผมได้ถ่ายทอดไปสู่เจเนอเรชั่นต่อไป”