ด้านนายฐิติพงศ์ หรือ ช่างเบิร์ด หัวหน้าผู้รับเหมาระบบไฟ ที่ถูกเบี้ยวเงินค่าจ้าง เปิดเผยว่า ตนเองเข้าไปทำงานที่อาคาร สตง. ตั้งแต่ ม.ค.67-ม.ค.68 ตลอด 1 ปี เป็นครั้งแรกที่ร่วมงานกับบริษัทนี้ โดยดูแลเรื่องระบบไฟทั้งของโครงการ มีคนงานมากกว่า 80 คน จนกระทั่งยุติการดำเนินการในช่วงเดือนมิถุนายน 2567 เนื่องจากบริษัทเก้าพีเค จำกัด จ่ายเงินไม่ครบตามกำหนด โดยลักษณะของการจ่ายเงิน จะจ่ายไม่เต็มจำนวน สมมุติว่าต้องจ่ายเดือนละ 500,000 บาท ก็จ่ายแค่ 250,000 บาท อ้างไปทบจ่ายในงานถัดไป โดยผ่านไป 15 วัน ก็เงียบ พยายามตามเงิน ก็ไม่มีจ่ายเงิน เป็นอย่างนี้มาโดยตลอด มีเพียงแค่ เดือนมกราคมและเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ที่จ่ายตรงเท่านั้น ทำให้จำนวนเงินที่ไม่ได้จ่ายให้ครบ มีการทบยอดไปเรื่อยๆ จนตนเองไม่มีเงินมาจ่ายลูกน้องต้องเอาบ้าน-รถ ไปจำนอง ทำให้ลูกน้องตนเองถอนตัวออกไป เพราะทำงานแล้วไม่ได้เงิน แต่ก็เข้าใจจริง ๆ ว่าตนเองไม่ได้เงิน ซึ่งตนเองก็เข้าใจ เพราะคนงานก็รับเงินแบบรายวัน

โดยลักษณะที่มีการจ่ายเงิน จะจ่ายครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือจะแบ่งจ่ายวันที่ 5 กับวันที่ 20 ของเดือน แต่สุดท้ายพอถึงวันนัดจริง ก็ไม่มีการจ่ายเงิน ทำให้ตนเองต้องไปประท้วงที่ไซต์งาน วันที่ 19 ก.พ. 68 ที่ผ่านมา ซึ่งตั้งใจจะไปพบ ผู้ว่าสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เพราะเป็นวันส่งงาน ให้เข้ามาแก้ปัญหาในการจ่ายเงิน แต่ก็ได้เจอแค่ผู้จัดการโครงการคน ของบริษัทเก้าพีเค จำกัด , คนของบริษัท อิตาเลียนไทย พร้อมกับ นายหลินหยาง ผู้ควบคุมโครงการ จากบริษัทไชน่าเรลเวย์ 10 แต่ก็มีแค่ข้อสรุปว่าจะมีการจ่ายเงินงวดที่ 23 ให้กับ 6 บริษัท เป็นจำนวนเงินทั้งหมด 5.79 ล้าน และได้ข้อสรุป คือบริษัทไชน่าเรลเวย์ 10 จะตัดเพย์เมนต์ของบริษัทเก้าพีเค มาจ่ายให้ก่อน ในงวดที่ 23 ถ้าหักมาจ่ายแล้ว ไม่พอ ก็จะเอาเงินในงวด 24 มาจ่ายเพิ่ม แต่สำคัญตอนนี้ตนเองยังไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว ซึ่งตนเองก็ผิดหวัง เพราะโครงการระดับหลักพันล้าน ระดับสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ก็คิดว่าคงไม่โกงเงิน และคงไม่มีปัญหาเรื่องการจ่ายเงิน เพราะมีความน่าเชื่อถือ

และวันนี้ทางกลุ่มผู้รับเหมาที่เป็นซับคอนแทคของบริษัท เก้าพีเค ได้นัดรวมตัวเพื่อมาคุยกับทาง บริษัท เก้าพีเค , ตัวแทนบริษัทอิตาเลียนไทย และตัวแทนบริษัทเรลเวย์ ไชน่า นัมเบอร์ 10 เพื่อหาข้อสรุปของเรื่องเงินที่ติดค้างไว้ ตนหวังแค่เพียงได้เงินคืนกลับมา เพราะตั้งแต่ที่คุยล่าสุด ก็ไม่เคยมีใครติดต่อกลับมาอีกเลย และที่ผ่านมา ตนเคยไปฟ้องศาลแรงงาน ไปแจ้งความ แต่ก็ไม่มีใครรับเรื่อง “ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่ ถ้าตนเองยังทนทำงานต่อ ยอมรับเงินแค่ครึ่งเดียว วันนี้ก็คงติดอยู่ในตึก สตง. คงไม่ได้มีชีวิตมานั่งพูดคุยกันในวันนี้”

เมื่ถามถึงสภาพตึก สตง.แห่งใหม่ ตอนที่เข้าไปงานเป็นยังไงบ้าง ช่างเบิร์ด บอกว่า ความเห็นส่วนตัวนั้น มองว่า เสาที่สร้างมันเล็กมากในระดับตึก 30 ชั้น ถ้าเทียบจากประสบการณ์ ทำตึกสูงกับที่อื่นมา ขนาดเสา 1 เมตร x 60 ซม. ซึ่งบริเวณที่มีการเจาะเพื่อติดตั้งแคมป์ อุปกรณ์การดำเนินงานระบบไฟ ตนเองรู้สึกว่า ปูนมันเป็นโพรง ไม่แน่นเหมือนปูนทั่วไป เหมือนปูนไม่หุ้มเหล็ก เวลาเอาค้อนตอกเข้าไปที่ปูนก็ไม่ค่อยติด ซึ่งไม่รู้ว่าปัญหานี้มันเกิดจากสาเหตุอะไร

ส่วนบริษัทที่จ้างตนเองนั้นจะมีความเกี่ยวข้อง ฮั้วกันกับบริษัทไชน่าเรลเวย์หรือไม่ ตนเองไม่ทราบ แต่ก็กังวลใจเรื่องนี้เหมือนกัน เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ไม่รู่ว่าจะพึ่งใครได้อีกบ้าง ตนเองจึงอยากให้ทางผู้ว่าฯ สตง. ได้ทราบถึงปัญหานี้ และหาแนวทางการช่วยเหลือความเสียหายของพวกตนเองด้วย เพราะถ้ายังไม่มีความคืบหน้า ก็ต้องรวมตัวผู้เสียหายกันไปที่ สตง.แห่งเก่าอีกครั้ง

ด้านนายสงกรานต์ หรือ ช่างกานต์ ผู้รับเหมา ยืนยันได้ว่า บริษัทเก้าพีเค จำกัด มีการจ่ายเงินไม่ครบจริง ๆ ทำให้มียอดสะสมของคนเองประมาณ 1 ล้านบาท โดยลูกน้องของตนเองมากกว่า 40 ชีวิต ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่ตนเองมีข้อกังวลใจอยู่คือ การที่บริษัทเก้าพีเค จะเบิกเงินเป็นงวดๆ จาก สตง.ได้ คือต้องมีการส่งมอบงาน เช่น วงละ 2-3 ชั้น พอตรวจงานผ่าน ก็ถึงจะมีการจ่ายงานเป็นงวดๆ ซึ่งในความเป็นจริง จะต้องเอาเงินมาจ่ายบริษัทตนเองและบริษัทพาร์ทเนอร์ที่ทำระบบไฟ แต่สุดท้ายก็ไม่จ่าย จึงไม่แน่ใจว่ากระบวนการนี้มีการรับมอบเงินจากทางสตง.มาแล้วหรือไม่ เพราะบริษัทของช่างเบิร์ด ถอนตัวออกมาในช่วงเดือนมิถุนายน 2567 พอเจอปัญหานี้ ตนเองจึงถอนตัวออกมาในช่วงเดือนตุลาคม 2567 จึงตั้งข้อสงสัยว่า งานที่ตนเองรับผิดชอบภายหลังจากที่บริษัทของช่างเบิร์ดออกไปแล้ว มีการตรวจงานจนได้เงิน แล้วไม่ยอมเอาไปจ่ายบริษัทช่างเบิร์ดหรือไม่ มองว่าบริษัทนี้ไม่มีธรรมาภิบาล ไม่มีคุณธรรม ทำให้มีพนักงานคนหนึ่งที่ทำงานไซต์เดียวกัน มีความเครียดจากการไม่ได้รับเงินเดือน ขึ้นไปบนชั้นสูงสุดของอาคาร สตง.จะกระโดดตึกตาย แต่มีคนช่วยไว้ทัน

โดยภายหลังจากที่มีการไปประท้วงร่วมกัน ทางบริษัทอิตาเลียนไทย มีการบอกว่าไม่ได้มีการไม่จ่ายเงิน แต่จ่ายออกไปหมดแล้วตามงวดที่มีการตั้งเบิก พอตนเองสอบถามทางด้านของบริษัทเก้าพีเค ก็อ้างว่ามีการนำเงินดังกล่าวไปหมุนเวียนในธุรกิจ และชะลอการจ่ายเงิน ทางบริษัทไชน่าเรลเวย์ 10 ก็บอกว่าจะให้เอาเงินมาจ่ายตอนนี้ 6-7 ล้าน ยังไม่มี ต้องรอเงินงวดใหม่จากทาง สตง.ก่อน แล้วจะเฉลี่ยชดใช้ให้แต่ละบริษัท