BBC และ AFP รายงานว่าทรัมป์ย้ำจุดยืนมาตรการภาษีตอบโต้เกือบ 60 ประเทศทั่วโลกผ่าน “ทรูธ” เมื่อวานนี้ (เสาร์ที่ 5 เมย.) แม้จะรับรู้ถึงผลกระทบและความปั่นป่วนไปทั่วโลกหลังจากที่เขาประกาศใช้ไปเมื่อ 2 เมษายนที่ผ่านมา โดยทรัมป์โพสต์ข้อความว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็น “การปฏิวัติทางเศรษฐกิจ ขอให้ชาวอเมริกันอดทนเอาไว้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ในที่สุด อเมริกันจะเป็นผู้ชนะ
ทั้งนี้ผู้นำสหรัฐประกาศใช้มาตรการภาษีตอบโต้ทั้งชาติพันธมิตรและคู่แข่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในอัตราที่แตกต่างกัน โดยอัตราภาษีขั้นพื้นฐาน 10% ได้เริ่มเก็บแล้วเมื่อวานนี้ และวันพุธที่ 9 เมษายนนี้จะเริ่มเก็บในอัตราเต็มที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศตามที่ประกาศ โดยไทยจะโดนเก็บ 36% ซึ่งอิลอน มัสก์ได้แสดงความเห็นที่ต่างจากทรัมป์เป็นครั้งแรกโดยเขาไม่เห็นด้วยที่ทรัมป์จะเก็บภาษีกลุ่มอียู ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐ
ขณะที่อดีตที่ปรึกษาด้านการค้าในยุคทรัมป์ 1 เชื่อว่าอีกไม่นานสหรัฐจะมีการปรับเปลี่ยนอัตราภาษี หลังจากหลายประเทศได้พยายามติดต่อขอเจรจาต่อรองกับทรัมป์ โดยนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลจะเป็นผู้นำคนแรกที่เดินทางมาพบทรัมป์ที่ทำเนียบขาวในวันพรุ่งนี้ (จันทร์ที่ 7 เมย.) หลังจากอิสราเอลโดนเรียกเก็บภาษี 17% ขณะที่นายกรัฐมนตรีชิเกรุ อิชิบะก็พยายามต่อสายพูดคุยกับทรัมป์หลังญี่ปุ่นถูกเรียกเก็บ 24% ส่วนเวียดนามซึ่งโดนไป 46% ได้ยอมปรับลดภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐครั้งใหญ่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามรายงานเผยว่ามีหลายประเทศที่ยังโดนเรียกเก็บภาษีพื้นฐาน 10% แม้จะขา่ดดุลการค้ากับสหรัฐเมื่อปีที่้แล้ว รวมทั้งออสเตรเลีย, อังกฤษ, บราซิล, อาร์เจนติน่าและซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐยังยืนกรานว่าประเทศเหล่านี้ดำเนินนโยบายการค้าไม่เป็นธรรมอยู่ดี เพราะถ้าเป็นธรรมก็จะต้องขาดดุลสหรัฐมากกว่านี้