‘ช่างเบิร์ด’ ให้ข้อมูลดีเอสไอ เปิดรายชื่อซับคอนแทรครายใหญ่ “ตึกสตง.” ขณะบ.เอกชนจีน ขอเจรจาเงินติดค้าง
ข่าวที่น่าสนใจ
จากกรณีหัวหน้าผู้รับเหมาช่วงก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และผู้รับเหมากว่า 10 คน รวมตัวกันเดินทางไปพูดคุยไกล่เกลี่ยกับบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์เท็น จำกัด และ บริษัท 9PK ซึ่งเป็นบริษัทซับคอนแทรค ที่จุดเกิดเหตุเมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา หลังค้างค่าจ้างผู้รับเหมารวมกว่า 10 ล้านบาท ก่อนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะเรียก“ผู้รับเหมาช่วง 28 โครงการ” ที่ถูกบริษัทจีนว่าจ้าง มาสอบปากคำ ในวันนี้ (8 เม.ย.68)
ต่อมา เวลา 09.45 น. ที่ผ่านมา นายฐิติพงษ์ โพธิพรหม หรือ ช่างเบิร์ด หัวหน้าวางระบบไฟฟ้าของตึก สตง. เดินทางเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เรื่องถูกเบี้ยวเงินค่าจ้าง 3.7 ล้านบาท จากบริษัท 9 PK ซึ่งอาจเกี่ยวข้องในคดีนอมินี ตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ที่ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ ในการตรวจสอบรายชื่อผู้ถือหุ้น บริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ
หลังจากที่ช่างเบิร์ด เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่นานกว่า 3 ชั่วโมง ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว ว่า พนักงานสอบสวนได้เชิญตนเองเข้ามาให้ปากคำ เพื่อสอบถามว่ารู้จักบุคคลใดบ้างของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ และบริษัท 9PK รวมไปถึงบุคคลอื่นๆ ที่ตนเองรู้จัก เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ซักถามไปเพื่อรวบรวมรายชื่อหา “นอมินี” ของบริษัทดังกล่าว เพราะทางดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษแล้ว
ที่ผ่านมา บริษัทของตนเองได้รับการว่าจ้างจาก บริษัท 9PK ในช่วงต้นปี 2567 และได้เริ่มเข้าดูแลเรื่องไฟตั้งแต่ชั้นใต้ดิน ไปจนถึงชั้นที่ 30 ในการขอเบิกค่างวดแต่ละครั้ง เพื่อนำมาซื้อวัสดุอุปกรณ์ หรือค่าจ้าง บริษัท 9PK จะให้เงินเพียง 40 เปอร์เซ็นต์ จากค่างวดที่ขอเบิกไป และติดค้างเงินตนเอง จำนวน 3.7 ล้านบาท ทำให้การเงินของตนเองขาดสภาพคล่อง ต้องนำทรัพย์สินส่วนตัวไปจำนอง เพื่อหาเงินมาสำรองจ่ายจนเป็นหนี้
เมื่อมาถึงการเบิกเงินค่างวด (Payment) ครั้งที่ 22 ถึงแม้จะทวงเงินไปหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้รับเงินจากบริษัท 9PK เลย ตนเองจึงพาลูกน้องกลับไม่รับทำงานในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังจากนั้น เมื่อทวงถามเงิน ไม่เคยได้รับเงินจากบริษัท 9PK เลย กลับถูกบริษัท 9PK ผลัดงวด และมีข้ออ้างทุกครั้ง จนตนเองรับไม่ได้ และออกมาประท้วง เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ จนมากลายเป็นประเด็นดังกล่าว
ทั้งนี้ ช่างเบิร์ด ระบุว่า ตนเองจะเดินทางไปให้ปากคำในคดีที่ตนเองถูกเบี้ยวเงินค่าจ้าง ที่ สน.บางซื่อ ในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (9 เม.ย. 68) และในช่วงบ่าย บริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ และบริษัท 9PK ได้นัดตนเองไปเจรจาเรื่องเงินที่ติดค้างอยู่ 3.7 ล้านบาท ยังไม่รวมภาษี ที่หน้าสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เขตจตุจักร ซึ่งตนเองหวังว่า จะได้รับเงินก้อนทั้งหมด เพื่อไปปลดหนี้ที่ได้นำทรัพย์สมบัติไปจำนองไว้ โดยไม่หวังเงินค่าเสียหายเพิ่มเติม
ขณะที่พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ตอนนี้ยังรับทำแค่คดีนอมินี เพียงคดีเดียว ซึ่งหลังจากที่สืบสวนสอบสวนแล้ว หากทราบว่าตึก สตง.มีเค้าโครงว่าการแข่งขันราคาไม่เป็นธรรม ก็จะนำเข้าสู่เรื่องการฮั้วประมูล รวมไปถึงวัสดุสิ่งก่อสร้างต่างๆ ว่าได้คุณภาพหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องผลิตภัณฑ์มาตรฐานอุตสาหกรรม โดยทั้ง 2 เรื่อง ทางดีเอสไอมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่จะรับเป็นคดีพิเศษได้อยู่แล้ว แต่ทุกอย่างจะต้องเพียบพร้อม โดยเฉพาะข้อมูลหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับตึกสตง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น