สถานีโทรทัศน์ อัล มาซีเราะห์ ของฮูตี เ ผยแพร่แถลงการณ์ของ ยาห์ยา ซารี โฆษกของฮูตี ที่ยืนยันว่า ระบบป้องกันทางอากาศของฮูตี ยิง MQ-9 โดรนโจมตีและสอดแนมของสหรัฐฯ ตกอีกหนึ่งลำ ขณะอยู่เหนือน่านฟ้าจังหวัด อัล จาวฟ์ โดยใช้ขีปนาวุธชนิดพื้นสู่อากาศที่ผลิตขึ้นเอง ซารีอ้างว่า นี่เป็นโดรนสหรัฐฯลำที่ 18 แล้ว ที่ระบบป้องกันทางอากาศของฮูตีจัดการสิ้นฤทธิ์ นับจากเดือนตุลาคม 2566 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ฮูตีเริ่มโจมตีเป้าหมายอิสราเอล เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับปาเลสไตน์ หลังสงครามกาซาเปิดฉากในเดือนเดียวกัน
มีรายงานว่า ฮูตีสอย MQ-9 ลำล่าสุด เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (3 เมษายน) และถือเป็นลำที่ 4 ที่ถูกยิงตก นับจากวันที่ 3 มีนาคม สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า โดรนประเภทนี้ ชาวเยเมนรู้จักดี เพราะมักบินวนเวียนอยู่เหนือจังหวัดทางเหนือของเยเมน มาตั้งแต่ตุลาคม 2566 โฆษกฮูตี ประกาศว่า จะสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ต่อไปจนกว่าสงคราม และการปิดล้อมในกาซาจะยุติลง และจะไม่หยุดโจมตีเรือรบสหรัฐฯในทะเลแดงด้วย
หากคำกล่าวอ้างของฮูตีที่ว่า ยิงโดรนสหรัฐฯ ราคาเฉลี่ยลำละ 30 ล้านดอลลาร์เป็นความจริง เท่ากับว่าสหรัฐฯสูญเสียแล้วไม่ต่ำกว่า 540 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1 หมื่น 8 พันล้านบาท
แถลงการณ์ของฮูตี มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากกองทัพสหรัฐฯ ถล่มเป้าหมายฮูตี อีก 50 ระลอกในคืนวันอังคารที่ 8 เมษายน ที่กรุงซานา เมืองโอเดย์ดา จังหวัดมาริบ ดามาร์ และอิบบ์ สื่อทางการฮูตี รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 ราย จากการโจมตีทางอากาศในย่านชุมชน ของเมืองโฮเดย์ดา ทางตะวันตกของเยเมน จำนวนนี้เป็นเด็ก 4 ราย และผู้หญิง 6 ราย
ด้าน เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยในวันเดียวกันว่า สหรัฐฯโจมตีกว่า 100 เป้าหมายแล้วนับจากเปิดฉากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกบฏเยเมน เมื่อวันที่ 15 มีนาคม และจากนั้นมา ก็โจมตีแทบทุกวัน เพื่อพยายามยุติภัยคุกคามต่อการเดินเรือพาณิชย์ และเรือรบของสหรัฐฯในทะเลแดง และอ่าวเอเดน เจ้าหน้าที่อ้างว่า สหรัฐฯได้ทำลายศูนย์บัญชาการและควบคุม โรงงานผลิตอาวุธ และคลังอาวุธทันสมัยของฮูตีหลายแห่ง ถึงอย่างนั้น ฮูตี ที่ควบคุมพื้นที่กว้างใหญ่ในเยเมน และทำสงครามกับหลายฝ่ายมานานหลายปี ยังคงอ้างผลงานการโจมตีเรือสหรัฐและอิสราเอล โดยหลังสุด เพิ่งอ้างว่า โจมตีที่ตั้งทางทหารของอิสราเอล และส่งโดรนโจมตีเรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส แฮร์รี เอส ทรูแมน