“ชัชชาติ” ยันเร่งเร็วสุด แจงรออัยการตอบข้อกม.จ่ายหนี้รถไฟฟ้าสีเขียว หยุดภาระดอกเบี้ยวันละ 5.4 ล้าน

ข่าวที่น่าสนใจ
จากกรณีที่นายนภาพล จีระกุล สก.บางกอกน้อย. ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญเพื่อศึกษาปัญหาของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ให้สัมภาษณ์พิเศษ กับ “ท็อปนิวส์” เพิ่มเติม โดยระบุว่า หลังจากที่ตนได้รายงานผลการศึกษาคณะกรรมการวิสามัญเพื่อศึกษาปัญหาของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (บางส่วน) ต่อที่ประชุมสภากทม. โดยเฉพาะในส่วนของภาระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 รวมถึงภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 5.4 ล้านบาท เห็นชัดเจนว่า ภาระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถ้าไม่มีการจัดการชำระหนี้สินค้างจ่ายดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันได้มูลหนี้ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนนั้น
ล่าสุดทางนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ชี้แจงกับ “ท็อปนิวส์” ว่า หลังจากนี้ตนจะนำผลการศึกษาของคณะทำงานสภากทม.ไปพิจารณาและปรึกษาทางด้านอัยการที่เป็นเจ้าของคดี เพราะขณะนี้ในส่วนของมูลหนี้ งวดที่ 2 ยังค้างอยู่ในชั้นการพิจารณาของศาลปกครอง
ส่วนข้อเสนอของสก.นภาพล ที่ต้องการให้กทม.ชำระหนี้ให้เอกชน เพื่อลดภาระดอกเบี้ย 5.4 ล้านบาทต่อวัน นายชัชชาติ ระบุว่า ตนจะนำข้อเสนอทั้งหมดมาอ่านพิจารณา เพื่อดูว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งเมื่อเป็นข้อเสนอก็ต้องดูทุกอย่างให้รอบคอบ อีกทั้ง เรื่องของภาระหนี้ งวด2 ยังเป็นคดีอยู่ในชั้นพิจารณาของศาลปกครอง จึงต้องสอบถามไปยังอัยการดูแลคดีนี้ ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร โดยขณะนี้ทางกทม.ได้มีการทำหนังสือส่งไปยังอัยการแล้ว และต้องรอว่าอัยการจะตอบกลับมาว่าอย่างไร
และเมื่อถามถึงจำนวนเงินที่กทม.จะจ่ายคืนหนี้ให้แก่เอกชน จะจ่ายทั้งหมดเพื่อลดภาระดอกเบี้ย หรือ จ่ายเฉพาะงวดที่ 2 นายชัชชาติ ระบุว่า ในการจ่ายหนี้ให้กับเอกชนจะต้องจ่ายทีละงวด ซึ่งเบื้องต้นในการจ่ายนั้น จะจ่ายหนี้ตามจำนวนเงินที่อยู่ในชั้นศาลปกครอง โดยอนุกรรมการฯด้านพิจารณา ได้พิจารณาข้อเสนอทั้งหมดแล้ว เพราะสุดท้ายคือการทำงานร่วมกัน ระหว่างผู้บริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ
พร้อมยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด แต่จะทันสิ้นเดือนเม.ย.นี้หรือไม่ จะต้องรอดูว่าอัยการจะตอบกลับกทม.มาเช่นไร แต่เชื่อว่าจะมีความคืบหน้าเรื่องการจ่ายหนี้แน่นอน ส่วนการเจรจาการลดดอกเบี้ยกับเอกชน นายชัชชาติ ระบุว่า ต้องรอการตอบกลับมาของอัยการเจ้าของคดีก่อน จึงจะตั้งคณะทำงานเพื่อไปเจรจา หรือ หากอัยการตอบกลับมาไม่ตกลงจ่ายหนี้ ก็จะต้องดูว่าทางกทม.และบริษัทกรุงเทพธนาคมจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น