วันนี้ (5 ต.ค. 2564) ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้าหลังจากเกิดสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในรอบ 50 ปี ในเขตพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ และตัวเมืองชัยภูมิ เส้นทางจังหวัดชัยภูมิต้องประกาศเป็นเขตภัยพิบัติทั้ง 16 อำเภอไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.64 มีพื้นที่ได้รับความเสียหายทั้งหมดต้องประกาศเป็นเขตภัยพิบัติเกิดน้ำท่วมใหญ่ทั้ง 16 อำเภอ มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมเสียหายกว่า 200,000 ไร่ เฉพาะนาข้าวกว่า 140,000 ไร่ ในพื้นที่ 108 ตำบล 1,169 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ถูกน้ำท่วมที่ผ่านมารวมแล้ว 15 ราย ในเมืองชัยภูมิ ขณะนี้น้ำที่ท่วมได้ลดลงและแห้งถนนทุกสายในเมืองชัยภูมิใช้งานได้ตามปกติแล้ว ที่ยังท่วมอยู่จะรอบนอกเมืองด้านทิศใต้ตัวจังหวัด ตามหมู่บ้านต่าง ๆ ทั้งในพื้นที่ ต.หนองนาแซง ต.บุ่งคล้า และต.บ้ายค่าย โดยเฉพาะในหมู่บ้านติดกับแม่น้ำชี น้ำท่วมที่ท่วมพื้นที่ในหมู่บ้านยังสูงกว่า 1 เมตร ซึ่งชาวบ้านเดือดร้อนขาดแคลนเครื่องอุปโภค บริโภคจำนวนมาก
ซึ่งได้มีผู้ใหญ่ใจดีทั้งภาครัฐ เอกชนห้างร้านบริษัทต่างๆ เห็นความเดือดร้อนของชาวบ้าน ลงมอบสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภคให้ชาวบ้าน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน แล้วที่ผ่านมา แต่ขณะนี้ได้เกิดปัญหาเพิ่มขึ้นมาอีกคือเรื่องน้ำกัดเท้าและโรคเท้าเปื่อยที่ได้ซ้ำเติมชาวบ้านหนัก ขณะนี้นำยาสามัญประจำบ้านมาบรรจุในถุงยังชีพให้ รวมทั้งยาแก้เท้าเปื่อย น้ำกัดเท้า ซึ่งในหลายหมู่บ้าน น้ำที่ท่วมอยู่นานกว่า 1 สัปดาห์ ทำให้น้ำเริ่มเสียและส่งกลิ่นเหม็น สร้างผลกระทบให้กับประชาชนที่ถูกน้ำท่วมให้หลายหมู่บ้าน
ด้านนางประนอม คล่องแคล้ว อายุ 54 ปี ชาวบ้านโนนแดง หมู่ 7 ต.บุ่งคล้า และชาวบ้านบุ่งคล้า ม.3 ต.บุ่งคล้าอ.เมือง จ.ชัยภูมิ เผยว่าในพื้นที่ถูกน้ำท่วมเกิดน้ำเน่าเสียแล้ว ที่บ้านตัวเอง เริ่มมีอาการเท้าเปื่อยแล้วหลายคน รวมทั้งหลานชายเกิดแผลที่เท้าจากที่ต้องแช่น้ำเป็นเป็นเวลานานหลายวัน ชาวบ้านอยากได้ยาทากัดเท้าเปื่อยเพื่อช่วยในการรักษาแผลที่เท้า ยาโรคน้ำกัดเท้า และยาทาแก้กากเกลื่อนจากหน่วยงานที่รับผิดชอบอีกด้วย
นอกจากจะเกิดโรคน้ำกัดเท้าแล้ว ยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคไข้ฉี่หนูด้วย เพราะชาวบ้านจะต้องแช่น้ำท่วมขังภายในหมู่บ้านอีก จนกว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติต่อไปด้วย