รอยเตอร์สรายงานว่านายกรัฐมนตรีชิเกรุ อิชิบะ ผู้นำญี่ปุ่นได้แต่งตั้งคณะทำงานด้านเศรษฐกิจขึ้นมาในวันนี้ (ศุกร์ที่ 11 เมย.) โดยมีนายเรียวเซอิ อาคาซาวะ รัฐมนตรีคลังเป็นหัวหน้า นำเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกระทรวงต่างๆเกือบ 40 คน เพื่อไปเจรจาแก้ปัญหาด้านการค้ากับสหรัฐ หลังจากญี่ปุ่นโดนมาตรการภาษีตอบโต้จากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไป 24%
อาคาซาวะกล่าวระหว่างการแถลงข่าวในวันนี้ว่าทีมเศรษฐกิจญี่ปุ่นน่าจะพร้อมเดินทางไปกรุงวอชิงตันภายในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าจะได้พบหารือกับสก็อต เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐโดยเร็วที่สุด เพื่อเร่งแก้ปัญหาความแตกต่างและสร้างสมดุลทางการค้า ในช่วง 90 วันที่ทรัมป์ประกาศชลอการเก็บภาษีออกไป อาคาซาวะกล่าวว่าเบสเซนต์มีความชอบพอและมีความรู้สึกที่ดีกับประเทศญี่ปุ่น แต่การเจรจาการค้าคงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก
สำหรับประเด็นที่ญี่ปุ่นจะนำไปเจรจาพูดคุยจะมีเรื่องอุปสรรคและนโยบายทางการค้า รวมอยู่ด้วย เนื่องจากเบสเซนต์เคยเอ่ยถึงปัญหาเหล่านี้ อย่างไรก็ตามญี่ปุ่นยังไม่เปิดเผยถึงหัวข้อพูดคุยอย่างเป็นทางการ และยังไม่กำหนดวันเดินทางที่เน่นอน
รัฐบาลญี่ปุ่นถูกสมาชิกสภานิติบัญญัติกดดันอย่างหนักให้เร่งพูดคุยเจรจาแก้ปัญหากับรัฐบาลทรัมป์ เพราะนอกจากจะโดนเรียกเก็บภาษีตอบโต้ 24% แล้ว ญี่ปุ่นยังโดนภาษีนำเข้ารถยนต์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศอีก 25% ซึ่งหากสหรัฐไม่ยอมผ่อนปรนหรือลดอัตราภาษีลง เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก
ล่าสุดสื่อญี่ปุ่นเปิดเผยวันนี้ว่าพรรคร่วมรัฐบาลโคเมอิโตะได้เสนอให้รัฐบาลลดภาษีการขาย (Sales tax) ลงชั่วคราวสำหรับสินค้าอาหาร นอกจากนี้ก็เสนอให้ออกมาตรการแจกเงินสดประชาชนเพื่อบรรเทาปัญหาค่าครองชีพที่พุ่งสูง อย่างไรก็ตามสมาชิกพรรครัฐบาล LDP เตือนว่าการลด sales tax อาจกระทบกองทุนประกันสังคมที่ต้องใช้เงินเยอะ เนื่องจากประชากรผู้สูงอายุในญี่ปุ่นมีอัตราที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว