BBC และ AFP รายงานว่าสภาอังกฤษได้เรียกประชุมฉุกเฉินสมาชิกสภานิติบัญญัติเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (เสาร์ที่12 เมย.) ซึ่งนอกจากจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์แล้วยังเป็นวันหยุดยาวเทศกาลอีสเตอร์ระหว่าง 18-21 เมษายนด้วย เพื่อประชุมและลงมติด่วนว่าด้วยกฎหมายเข้าควบคุมกิจการโรงงานเหล็กที่เมืองสกันธอร์ป ทางเหนือของอังกฤษ ซึ่งปรากฎว่าการลงมติผ่านไปด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ไม่มีการคัดค้าน อนุมัติให้รัฐบาลอังกฤษเข้าควบคุมโรงงานเหล็กดังกล่าว นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์กล่าวว่าการตัดสินใจเข้ายึดโรงงานเหล็กสกันธอร์ปก็เพื่อป้องกันไม่ให้ล้มละลายและปิดตัวลงหลังประสบภาวะขาดทุนอย่างหนัก และเพื่อปกป้องคนงานเกือบ 3 พันคนไม่ให้ตกงาน
โรงงานเหล็กที่สกันธอร์ป เป็นโรงงานเหล็กแห่งสุดท้ายที่สามารถผลิตเหล็กจากแร่ธาตุเหล็ก ไม่ใชจากผลิตภัณฑ์เหล็กรีไซเคิล ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมการก่อสร้างและการรถไฟอังกฤษ ซึ่งหากปล่อยให้ปิดกิจการก็จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจอังกฤษในระยะยาว
การเข้ายึดกิจการโรงงานเหล็กสกันธอร์ปมีขึ้นหลังจากคนงานหลายพันคนได้ก่อความวุ่นวายด้วยการจัดชุมนุมประท้วงและสกัดผู้บริหารของบริษัทจิงเย่ของจีน ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงานเหล็กแห่งนี้ไม่ให้เข้าไปในพื้นที่สำคัญของโรงงานเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้ตำรวจต้องเข้าควบคุมสถานการณ์
จิงเย่เข้าซื้อโรงงานสกันธอร์ปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ด้วยมูลค่าการลงทุนสูงถึง 1 พัน 200 ล้านปอนด์หรือ มากกว่า 5 หมื่น 2 พันล้านบาท แต่ประสบปัญหาขาดทุน 7 แสนปอนด์หรือกว่า 30 ล้านบาทต่อวัน จนมูลค่าการตลาดเป็นศูนย์แล้ว ทำให้ต้องนำเหล็กจากจีนมาขายแทน
อุตสาหกรรมเหล็กอังกฤษประสบปัญหาการขาดทุนอย่างหนักจากการแข่งขันของชาติเอเชียและล่าสุดเจอมาตรการรีดภาษีจากสหรัฐ ทำให้รัฐตัดสินใจเข้าควบคุม อย่างไรก็ตามการเข้าควบคุมยังอยู่ในสภาวะจำกัด โดยไม่มีการโอนย้ายกิจการมาเป็นของรัฐ แต่คาดว่าในอนาคตรัฐบาลอังกฤษอาจจำเป็นต้องเข้าควบรวมและย้ายกิจการเข้าเป็นของรัฐอย่างเต็มตัว