พินาศกลางดึก! “อิสราเอล” สาดขีปนาวุธถล่ม รพ.กาซา จนท.อพยพคนไข้วุ่น

“อิสราเอล” ยิงขีปนาวุธถล่มโรงพยาบาลในกาซาซิตี้ ช่วงกลางดึก อ้าง “ฮามาส” ใช้เป็นศูนย์บัญชาการ เจ้าหน้าที่สั่งอพยพคนไข้วุ่น

พินาศกลางดึก! “อิสราเอล” สาดขีปนาวุธถล่ม รพ.กาซา จนท.อพยพคนไข้วุ่น – Top News รายงาน

AFP, อัลจาซีรา และ The Times of Israel รายงานว่า เครื่องบินรบอิสราเอล ได้ยิงขีปนาวุธ 2 ลูก โจมตีโรงพยาบาลอัล-อาห์ลี อาหรับ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลหลักทางตอนเหนือ ของกาซ่า เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 13 เมย.ตามเวลาในประเทศไทย โดยระเบิดได้ตกใส่แผนกผู้ป่วยฉุกเฉิน, แผนกประชาสัมพันธ์ และอาคารอื่นๆ พังถล่มลงทั้งหลัง

ด้านกองทัพอิสราเอล หรือ IDF อ้างว่า โรงพยาบาลดังกล่าว ถูกกลุ่มฮามาส ใช้เป็นฐานปฏิบัติการ เพื่อวางแผนโจมตีทหารอิสราเอล และบอกด้วยว่า ก่อนโจมตีได้มีการประกาศเตือนล่วงหน้า ให้อพยพผู้ป่วยออกจากอาคารแล้ว รวมทั้งใช้อาวุธที่มีความแม่นยำ เพื่อลดความสูญเสีย ขณะที่โซเชียลมีเดีย เผยคลิปขณะเจ้าหน้าที่เร่งอพยพคนไข้ และลูกเด็กเล็กแดง ออกจากโรงพยาบาล ในช่วงกลางดึก มาอยู่ตามข้างถนน ล่าสุดยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

หลังเกิดเหตุ สื่อของทางการฮามาส ออกมาประณามเหตุโจมตี พร้อมกล่าวหาอิสราเอลว่า จงใจโจมตีโรงพยาบาล 34 แห่ง ในกาซา เพื่อหวังทำลายระบบสาธารณสุขที่ย่ำแย่อยู่แล้ว ให้พังพินาศลงไปอีก

กองทัพอิสราเอล ทิ้งระเบิดถล่มโรงพยาบาลอัล-อาห์ลี อาหรับ เมื่อเดือนตุลาคม 66 ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน

และเมื่อวันเสาร์ที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา นายอิสราเอล แค็ทซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอลประกาศว่า กองทัพมีแผนจะขยายปฏิบัติการทางทหาร ให้ครอบคลุมเกือบทุกพื้นที่ ในกาซา หลังจากเข้ายึดพื้นที่ระหว่างเมืองราฟาห์ และข่านยูนิสทางใต้ ติดพรมแดนอิยิปต์ได้สมบูรณ์แล้ว พร้อมประกาศเตือนชาวปาเลสไตน์ ในพื้นที่ใกล้เคียง ให้อพยพออกไป โดยแคทซ์กล่าวว่า ถึงเวลาของการกำจัดฮามาส และช่วยเหลือตัวประกันทั้งหมด ออกจากกาซาแล้ว และนี่เป็นหนทางเดียว ที่จะยุติสงครามกาซา นอกจากทางใต้แล้ว กองทัพอิสราเอล ยังเข้ายึดหลายพื้นที่ทางเหนือ รวมทั้งระเบียงเน็ตซาเร็ม อีกด้วย สำหรับยอดผู้เสียชีวิตที่กาซา ล่าสุดอยู่ที่ 50,933 คน ตั้งแต่สงครามกาซาเปิดฉากในเดือนตุลาคม ปี 66

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

การเจรจาระหว่างคณะผู้แทนอิหร่าน นำโดย นายอับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน กับผู้แทนสหรัฐฯ นำโดย นายสตีฟ วิตคอฟ ทูตพิเศษสหรัฐฯ ที่ประเทศโอมาน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง นายอารักชี บอกสื่ออิหร่านหลังจากนั้นว่า บรรยากาศการเจรจา เป็นไปอย่างสันติ และให้เกียรติกัน เพราะไม่มีการใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม

ถ้อยแถลงของรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน บ่งชี้ว่า นายวิตคอฟ ไม่ได้ย้ำคำขู่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ว่าอิหร่านจะเจออันตรายใหญ่หลวง หากเจรจาไม่ประสบผลสำเร็จ

อับบาส กล่าวว่า การพูดคุยครั้งแรก ใกล้ได้ข้อสรุป เรื่อง “กรอบการเจรจา” และนัดเจรจารอบต่อไปในวันที่ 19 เมษายน โดยโอมานยังเป็นประเทศคนกลางเช่นเดิม ขณะเดียวกันย้ำว่า ทั้งสหรัฐฯและอิหร่าน ต่างไม่ต้องการเจรจาแบบยืดยาวไม่รู้จบ แต่การบรรลุข้อตกลงอย่างสร้างสรรค์ ไม่ง่าย ต้องอาศัยความมุ่งมั่นของสองฝ่าย

ทำเนียบขาว แถลงเช่นกันว่า การเจรจากับอิหร่าน เป็นไปในทางบวกและสร้างสรรค์ การสื่อสารกัน “โดยตรง” กับทูตวิตคอฟฟ์ ถือเป็นการก้าวไปข้างหน้า สู่การบรรลุผลลัพธ์ที่ยังประโยชน์ ซึ่งกันและกัน

ครั้งนี้ นับเป็นการเจรจาระดับสูงที่สุด ตั้งแต่โดนัลด์ ทรัมป์ พาสหรัฐฯถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน ในปี 61 ตอนดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯสมัยแรก โดยอ้างว่า สหรัฐฯต้องการข้อตกลงที่ดีกว่านั้น

การเจรจาจัดขึ้นที่บ้านพักของ นายซาอิด บาดร์ อัล บูไซดี รัฐมนตรีต่างประเทศโอมาน ในกรุงมัสกัต โดยจัดให้ทีมเจรจาสหรัฐฯกับอิหร่าน อยู่กันคนละห้อง รัฐมนตรีต่างประเทศโอมาน เป็นคนนำสาส์นเป็นภาษาอังกฤษไปแจ้งแต่ละฝ่าย กระนั้น หลังเสร็จสิ้นการเจรจา และออกมาจากห้อง วิตคอฟกับอารักชี ได้พูดคุยกันโดยตรง ชั่วขณะหนึ่ง บนโถงทางเดิน โดยมีรัฐมนตรีต่างประเทศโอมานร่วมอยู่ด้วย ซึ่งบางฝ่ายมองว่า น่าจะเป็นวิธีที่ช่วยรักษาหน้าประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ประกาศมาตั้งแต่แรกว่า การเจรจาที่โอมาน จะเป็นการเจรจาโดยตรง แต่อิหร่านยืนกรานว่า เป็นการเจรจาผ่านคนกลาง ด้านสื่อทางการอิหร่าน รายงานว่า ทั้งสองพูดคุยกันสองสามนาที โดยไม่มีการเผยแพร่ภาพ

สหรัฐฯเตรียมการเจรจากับอิหร่าน พร้อมกับการเคลื่อนเรือรบ และส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน เข้าไปในภูมิภาค และประกาศแซงชั่นอิหร่านเพิ่มเติม

อิสราเอล

 

นิวยอร์ก ไทมส์ รายงานเมื่อวันศุกร์ที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา โดยอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงว่า อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ประชุมกับผู้นำฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการเมื่อเดือนที่แล้ว และเผชิญกับเสียงเรียกร้องให้อิหร่านเข้าสู่การเจรจากับสหรัฐฯ ต่อให้เป็นการเจรจาทางตรงก็ตาม โดยชี้ให้เห็นว่า คำขู่ใช้ปฏิบัติการทหาร จากสหรัฐฯและอิสราเอล ต่อโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน เป็นเรื่องร้ายแรง หากอิหร่านปฏิเสธพูดคุย หรือเจรจาล้มเหลว การโจมตีโรงงานพัฒนานิวเคลียร์หลักสองแห่ง อย่างนาทานซ์ และ ฟอร์โดว์ คงไม่อาจหลีกเลี่ยง อิหร่านที่เผชิญปัญหาเศรษฐกิจอยู่แล้ว จะถูกบังคับให้ต้องตอบโต้ และหากเข้าสู่สงครามอีกครั้ง อาจลุกลามเป็นความไม่สงบภายใน อย่างรวดเร็ว

เจ้าหน้าที่อาวุโสรายงาน อยาตอลเลาะห์ คาเมเนอี ว่า หลายวิกฤติรวมกัน จะเท่ากับภัยคุกคาม ความอยู่รอดของอิหร่าน แหล่งข่าวอ้างคำกล่าวของ นายพล บาเกอร์ กอลีบาฟ อดีตผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติ และประธานสภาคนปัจจุุบัน ด้วยว่า ศึกนอกผสมกับการระเบิดความไม่พอใจทางเศรษฐกิจในประเทศ อาจอยู่เหนือการควบคุม

ด้าน ประธานาธิบดีมาซู้ด เปเซชเคียน กล่าวว่า การบริหารประเทศ ท่ามกลางวิกฤติปัจจุบัน ไม่ง่าย โดยชี้ถึงปัญหาไฟดับ ที่กำลังคุกคามโรงงาน และน้ำประปาขาดแคลนในเมืองยาซด์ เมืองทางภาคกลาง ที่ทำให้หน่วยงานรัฐบาล และโรงเรียน ต้องปิดทำการเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ คาเมเนอี ตกลงยอมให้หารือกับสหรัฐฯ เรื่องการสังเกตการณ์โครงการนิวเคลียร์อิหร่านแบบเข้มงวด และลดการเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียม แต่ต้องไม่แตะต้องโครงการมิสไซล์ เพราะถือเป็นเรื่องการป้องประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

วธ. ชวนล่องใต้ดื่มด่ำศรัทธาและศิลป์มหาสงกรานต์แห่นางดาน เมืองนครศรีธรรมราช ตื่นตาตื่นใจกับขบวนแห่นางดานสุดอลังการ – ชมพิธีโล้ชิงช้า ประเพณีหนึ่งเดียวในไทย
"รมว.ปุ๋ง" ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ ณ วัดแจ้ง จ.นครราชสีมา
เจอตัวแล้ว "หนุ่มเวลส์" วัย 26 ปี หลังสื่อนอกตีข่าวหายตัวปริศนา บนเกาะพีพี นานกว่า 1 เดือน
"ทอ." แจงเหตุกระจกโรงอาหาร สนามกีฬาจันทรุเบกษา ล้มเกือบทับคุณยาย
พฤติกรรมช้าง ขณะแผ่นดินไหว 5.2 เขย่าแคลิฟอร์เนีย
อิรักเจอพายุทรายสาหัสป่วย 1,800 คน
"หนุ่มเวลส์" วัย 26 ปี หายตัวปริศนาบนเกาะพีพี ขาดการติดต่อกับครอบครัวนานกว่า 1 เดือน
ม.ฮาร์วาร์ดเปิดหน้าสู้ทรัมป์ เจอตัดงบ 7 หมื่นล.
แผ่นดินไหวแคลิฟอร์เนีย หลายคนได้ข้อความเตือนก่อน
สิงคโปร์เลือกตั้งใหม่ 3 พ.ค. บททดสอบ ลอวเรนซ์ หว่อง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น