The South China Morning Post, AP และ BBC รายงานว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (พุธที่ 16 เมย.) จีนได้ประกาศแต่งตั้งนายหลี่ เฉิงกัง วัย 58 ปีขึ้นเป็นผู้แทนเจรจาทางการค้าระหว่างประเทศและรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์คนใหม่แทนนายหวาง โชว่เหวิน ทั้งนี้รายงานเผยว่าการแต่งตั้งนายหลี่มีขึ้นแบบกระทันหันและไม่คาดหวัง ท่ามกลางสงครามกำแพงภาษีที่กำลังทวีความดุเดือดระหว่างจีนกับสหรัฐ
สัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศมาตรการภาษีตอบโต้จีนในอัตรา 145% ขณะที่จีนก็โต้กลับด้วยการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐในอัตรา 125% พร้อมประกาศว่าจีนมุ่งมั่นจะผลักการค้าและการลงทุนของตัวเองให้เติบโตต่อเนื่อง โดยเชิง ไหลยุ่น โฆษกสำนักงานสถิติจีนกล่าวว่ากำแพงภาษีทรัมป์จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนก็จริง แต่จะไม่สามารถทำลายเศรษฐกิจจีนในระยะยาว
อย่างไรก็ตามรายงานชี้ว่ายังไม่เป็นที่แน่ชัดถึงเหตุผลที่จีนสั่งเปลี่ยนผู้แทนเจรจาการค้าจีนแบบกระทันหัน แต่การเปลี่ยนตัวผู้แทนการค้ามีขึ้นหลังจากจีนประกาศว่าจีนมีวิธีการตอบโต้สหรัฐหลายวิธี ซึ่งรวมถึงการพึ่งพาตลาดภายในประเทศ, การหันไปค้าขายกับยุโรปและกลุ่มประเทศโลกใต้ แต่ปัญหาคือกำลังผู้บริโภคภายในประเทศของจีนขณะนี้ค่อนข้างอ่อนล้า ทำให้ไม่ง่ายเลยที่จะมาทดแทนตลาดสหรัฐ
และในวันนี้โฆษกสำนักงานสถิติจีนก็ออกแถลงการณ์ประกาศตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจจีนไตรมาสแรกของปีนี้ว่าอยู่ที่ 5.4% สูงกว่าที่คาดการณ์๋ไว้ที่ 5.1% ขณะที่ผลผลิตด้านอุตสาหกรรมสูงถึง 7.7% ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้วแสดงถึงการเติบโตที่รวดเร็วขึ้น
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์มองว่าสาเหตุที่ GDP จีนไตรมาสแรกมีอัตราที่สูงเพราะจีนเร่งกำลังผลิตและส่งออกเพื่อหนีภาษีทรัมป์ แต่คาดว่านับจากไตรมาสที่สองเป็นต้นไปการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนจะเกิดการชลอตัวครั้งใหญ่หลังจากภาษีตอบโต้ของทรัมป์มีผลบังคับใช้
สำหรับหลี่ เฉิงกังเคยนั่งเก้าอี้เอกอัครราชทูตจีนประจำองค์การการค้าโลก (WTO) เป็นเวลา 4 ปีครึ่งและเคยเป็นรองผู้แทนการค้าจีนประจำยูเอ็นที่สำนักงานเจนีวา โดยสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขานิติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งและปริญญาโทสาขากฎหมายเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮัมบูร์ก ที่เยอรมนี