AP, AFP และ RT รายงานว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียแถลงผ่านทางโทรทัศน์เมื่อวานนี้ (เสาร์ที่ 19 เมย.) ระหว่างพบหารือกับนายพลวาเลรี่ เจราซิมอฟ เสนาธิการทหารบกรัสเซีย โดยประกาศว่ารัสเซียจะหยุดยิงและหยุดกิจกรรมด้านการทหารทั้งหมดในยูเครนเป็นเวลา 30 ชั่วโมง มีผลตั้งแต่ 18.00 นาฬิกาของวันเสาร์จนถึง 24.00 นาฬิกาของคืนวันอาทิตย์ (20 เมย.) ซึ่งเป็นวันอีสเตอร์ โดยปูตินให้เหตุผลด้านมนุษยธรรม
ปูตินกล่าวต่อว่ารัสเซียถือว่ายูเครนน่าจะหยุดยิงเหมือนกับรัสเซีย อย่างไรก็ตามกองทัพรัสเซียจะเตรียมความพร้อมเพื่อตอบโต้หากยูเครนละเมิดการหยุดยิง
อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี้ ของยูเครนโต้แสดงความไม่มั่นใจต่อคำประกาศหยุดยิงของรัสเซีย เพราะยังมีรายงานการโจมตีทั้งก่อนและหลังข้อตกลงมีผลบังคับใช้ แต่หากรัสเซียหยุดยิงจริง ยูเครนก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามเช่นกัน นอกจากนี้ก็ยื่นข้อเสนอให้ปูตินขยายการหยุดยิงจาก 30 ชั่วโมงออกไปเป็น 30 วันตามที่สหรัฐเคยเสนอก่อนหน้านี้
การประกาศหยุดยิงมีขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่าสหรัฐจะถอนตัวจากการเป็นตัวกลางเจรจาสันติภาพหากรัสเซียและยูเครนไม่มีความคืบหน้าเรื่องการเจรจาหยุดยิง
นอกจากประกาศหยุดยิงแล้ว รัสเซียและยูเครนก็มีการแลกเปลี่ยนเชลยศึกเนื่องในเทศกาลอีสเตอร์ด้วย โดยรัสเซียได้ปล่อยทหารยูเครนที่จับไปจำนวน 277 นาย และทหารที่ได้รับบาดเจ็บอีก 30 นาย ขณะที่ยูเครนสั่งปล่อยทหารรัสเซีย 246 นายและทหารที่บาดเจ็บอีก 15 นาย ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนเชลยศึกครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่รัสเซียเปิดปฎิบัติการสู้รบในยูเครนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว
หลังประกาศหยุดยิง ปูตินก็ได้เข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนาที่โบสถ์ในกรุงมอสโกเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลอีสเตอร์ อีสเตอร์ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญของคริสตศาสนิกชน รวมทั้งชาวรัสเซีย โดยปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน โดยเป็นวันที่พระเยซูทรงฟื้นคืนพระชนม์จากความตาย หลังถูกตรึงบนไม้กางเขน 3 วัน