สำนักข่าวยอนฮัพและรอยเตอร์สรายงานโดยอ้างแถลงการณ์ของกระทรวงพาณิชย์เกาหลีใต้ที่ประกาศในวันนี้ (อาทิตย์ที่ 20 เมย.) เปิดเผยว่าคณะผู้แทนของเกาหลีใต้ นำโดยนายชอย ซาง-ม็อก รัฐมนตรีคลังและนายอัน ดุ๊ก-กึม รัฐมนตรีพาณิชย์จะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันดีซีภายในสัปดาห์นี้ เพื่อพบปะเจรจากับเจมีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐและสก็อต เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ โดยทั้ง 4 คนมีกำหนดจะพบกันนอกรอบ ระหว่างการประชุมกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และการประชุมธนาคารโลก
แถลงการณ์เผยว่านายอันจะออกเดินทางจากกรุงโซลในวันพุธนี้ แต่ไม่ระบุรายละเอียดของประเด็นการหารือ
ทั้งนี้นายฮัน ด็อก-ซู รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับไฟแนนเชียลไทม์สเมื่อวานนี้ (เสาร์ที่ 19 เมย.) ว่าเกาหลีใต้จะไม่ใช้มาตรการตอบโต้สหรัฐ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะสั่งเก็บภาษีเกาหลีใต้ถึง 25% ก็ตาม เนื่องจากระหว่างสงครามเกาหลีในปี 2493-2496 สหรัฐได้ให้ความช่วยเหลือเกาหลีใต้ทั้งด้านเทคโนโลยี, การลงทุนและความมั่นคง และว่าภาคอุตสาหกรรมและการเงินหรือแม้แต่ด้านวัฒนธรรมของเกาหลีใต้พัฒนาขึ้นมาได้จนเติบโตมั่งคั่งแบบนี้ ล้วนมาจากความช่วยเหลือของสหรัฐ เกาหลีใต้จึงต้องการเจรจาเพื่อหาทางร่วมกันเพื่อจะได้วินวินทั้งสองฝ่าย
ยอนฮัพเผยว่าการเจรจาต่อรองครั้งนี้ ทรัมป์มุ่งเป้าไปที่เกาหลีใต้, อังกฤษ, ออสเตรเลีย, อินเดียและญี่ปุ่น เป็นอันดับต้นๆ โดยหวังจะทำข้อตกลงทางการค้ารอบใหม่ ซึ่งอาจรวมไปถึงความร่วมมือด้านพลังงานและด้านการต่อเรือ