“จตุพร” เกาะติด “นายกฯ” บินกัมพูชา จับตาคุย MOU 44 หรือไม่ ย้ำต้องยึดผลประโยชน์ชาติ
ข่าวที่น่าสนใจ
จากกรณีที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได่เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 23 – 24 เม.ย. 2568 ณ กรุงพนมเปญ ตามคำเชิญของสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนด (H.E. Samdech Moha Borvor Thipadei Hun Manet) นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการสำคัญในการเข้าร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ณ สำนักนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา พร้อมหารือเต็มคณะร่วมกับนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีทั้งสองจะเป็นประธานในพิธีเปิดตราสัญลักษณ์ ครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – กัมพูชา และเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามเอกสารสำคัญต่าง ๆ ร่วมกัน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร มีกำหนดการเข้าเยี่ยมคารวะสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและประธานองคมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา สมเด็จมหารัฐสภาธิการธิบดี ควน โซะดารี ประธานรัฐสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
โดยการเยือนในครั้งนี้ ถือเป็นการเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี และเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งจะเป็นโอกาสในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยเฉพาะความร่วมมือด้านความมั่นคง การแก้ปัญหาข้ามแดน เศรษฐกิจ ความร่วมมือเพื่อการพัฒนา และความสัมพันธ์ในระดับประชาชน รวมถึงการส่งเสริมความร่วมมือในระดับภูมิภาค
ท่ามกลางการจับตามองว่า การเยือนกัมพูชาในครั้งนี้ของ นายกรัฐมนตรี จะมีวาระอะไรซ่อนเร้นหรือไม่นั้น ล่าสุดวันนี้ (22 เม.ย.) รายการจับตาประเทศไทย ทางช่อง Top News ดำเนินรายการโดย คุณสำราญ รอดเพชร และคุณอุบลรัตน์ เถาว์น้อย ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.20-12.05 น. ได้สัมภาษณ์นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ถึงประเด็นดังกล่าว ว่ามีมุมมองต่อเรื่องอย่างไร
โดยทางด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ได้ให้สัมภาษณ์ ระบุถึงเรื่องนี้ว่า จุดยืนของกัมพูชาคือสร้างจุดยืน ชาตินิยม ภายในชาติ เพราะฉะนั้นเขาจะไม่ทำอะไรก็ตามที่เสียเปรียบประเทศไทยอย่างแน่นอน
น่าจับตาเรื่อง MOU 44 ว่าจะมีการพูดถึงผลประโยชน์แบบ 50 : 50 หรือไม่ ตอนนี้รัฐบาลไทย เรียกได้ว่ากำลังเผชิญกับมรสุมหลายอย่าง คาดว่าไม่น่าจะทำอะไรที่สุ่มเสี่ยง ให้คนในประเทศต้องลุกฮือมาต่อต้าน เพราะอย่างเรื่องกาสิโน เลื่อนไปคุยในประชุมสภาฯสมัยหน้า ก็พอทำให้สถานการณ์ตอนนี้เบาลงไปบ้างแล้ว
ส่วนเรื่องเจรจาผลประโยชน์ใด ๆ กับกัมพูชา คิดว่าควรคุยเรื่องแบ่งดินแดนให้จบเสียก่อน ยังไม่ต้องรีบร้อนเสนอประโยชน์ เพราะเชื่อว่า รัฐบาลกัมพูชาเขาก็คงไม่ยอม หากมีการเสียผลประโยชน์เกิดขึ้น
อย่างการเยือนกัมพูชาครั้งนี้ของนายกฯแพทองธาร ไม่ได้ระบุภารกิจ หรือเรื่องที่จะหารือไว้อย่างชัดเจนเป็นข้อ ๆ ก็คงคุยเรื่องทั่วไป ความสัมพันธ์ 2 ประเทศ อยากจะแนะนำว่า แม้จะมีความสนิทสนมกับฝ่ายของรัฐบาลกัมพูชาก็ตาม แต่ต้องยึดประโยชน์ของชาติไทยมาก่อนเสมอ
และมองว่า เมื่อได้เยือนกัมพูชาในครั้งนี้แล้ว อะไรที่เป็นปัญหาก็ควรหารือ เจรจาให้จบ อย่างเรื่องปราสาทตาเมือนธม ก็ควรพูดคุยให้เคลียร์เลยว่าจะจัดการอย่างไร ไม่เช่นนั้นจะเป็นปัญหาความมั่นคง ทำให้เรื่องราวบานปลาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น