รอยเตอร์สรายงานว่า เมื่อวานนี้ (จันทร์ที่ 21 เมย.) เจ้าหน้าที่การค้าสหรัฐได้สรุปอัตราภาษีศุลกากรแผงโซลาร์เซลล์ที่เตรียมจะจัดเก็บ 4 ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งไทย, มาเลเซีย, กัมพูชาและเวียดนาม หลังจากที่คณะกรรมการการค้ากลุ่มผู้ผลิตโซลาร์เซลล์อเมริกันยื่นคำร้องกล่าวหาบริษัทผู้ผลิตแผงโซลาเซลล์ยักษ์ใหญ่จีนซึ่งเข้ามาตั้งโรงงานในมาเลเซีย, กัมพูชา, ไทยและเวียดนามได้ส่งออกสินค้าเหล่านี้เข้าไปขายในสหรัฐในราคาที่ต่ำกว่าการผลิต เนื่องจากได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาล ทำให้แผงโซลาเซลล์ในสหรัฐซึ่งราคาสูงกว่าแข่งขันไม่ได้ จนต้องปิดกิจการไปหลายราย
โดยบริษัทจิงโก้ โซลาร์ของมาเลเซียจะถูกเก็บภาษีในอัตรา 41.56 % ขณะที่บริษัททริน่า โซล่าร์ ของไทยถูกเก็บสูงถึง 375.19% บริษัทของกัมพูชาหนักกว่าถูกสั่งเก็บมากกว่า 3 พัน 500% เพราะผู้ประกอบการไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สหรัฐในการสอบสวน ซึ่งอัตราดังกล่าวสูงกว่าที่ประกาศไว้เบื้องต้นเมื่อปลายปีที่แล้ว (2567)
อย่างไรก็ตาม รายงานเผยว่าการนำเข้าแผงโซลาร์เซลล์จาก 4 ประเทศอาเซียนของสหรัฐในปีนี้เป็นแค่เสี้ยวเดียวของการนำเข้าจากอีกหลายประเทศ รวมทั้งลาวและอินโดนีเซีย
การมุ่งโจมตีธุรกิจแผงโซลาร์เซลล์ 4 ชาติอาเซียนทำให้หลายฝ่าย รวมทั้งสมาคมอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ (SEIA) ออกมาเตือนว่ากำแพงภาษีของสหรัฐจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการอเมริกันเอง เพราะบริษัทอาเซียนจะตอบโต้ด้วยการขึ้นราคาชิ้นส่วนเซลล์ที่โรงงานสหรัฐต้องซื้อเข้าไปประกอบเป็นแผงโซลาร์เซลล์
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการการค้าระหว่างประเทศจะต้องลงมติในเดือนมิถุนายนนี้เพื่ออนุมัติเห็นชอบและรับรองอัตราภาษีดังกล่าว