เปิดข้อมูลช็อก! ธรณีพิโรธ ภูเขาไฟปะทุ 3 ลูกติด พ่นลาวาเดือดๆ สูง 200 ม.

เกิดอะไรขึ้น? USGS เปิดข้อมูลน่าตกใจ “ภูเขาไฟ” 3 ลูก ใน 3 ประเทศ เกิดการปะทุในเวลาไล่เลี่ยกัน พ่นลาวาขึ้นท้องฟ้าสูงถึง 200 เมตร

สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ หรือ USGS รายงานการปะทุของภูเขาไฟ “คิลาเว” ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐฮาวาย ปะทุขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยปล่องภูเขาไฟขนาดเล็ก บริเวณปล่องเหนือและปล่องใต้ พ่นลาวาขึ้นสู่ท้องฟ้าสูง 200 เมตร ซึ่งนับเป็นการระเบิดเป็นครั้งที่ 18 ในรอบ 4 เดือน ตั้งแต่ภูเขาไฟลูกนี้เริ่มปะทุขึ้นครั้งแรก เมื่อเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว

ส่วนในวันเดียวกัน ที่เมืองคาตาเนีย บนเกาะซิซิลี ของประเทศอิตาลี มีรายงานการปะทุของภูเขาไฟ “เอตนา” พ่นลาวาสีแดง คล้ายกับน้ำพุ ที่บริเวณปากปล่องภูเขาไฟ รวมถึงเถ้าถ่านจำนวนมาก ถูกพ่นขึ้นสู่ท้องฟ้า ภูเขาไฟดังกล่าวในอิตาลี เป็นภูเขาไฟที่มีพลังมากที่สุดในยุโรป มักเกิดระเบิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่ไม่ค่อยเป็นอันตราย การปะทุของภูเขาไฟคิลาเว และภูเขาไฟเอตนา มีชื่อเรียกลักษณะของการปะทุเป็นแบบ “ตรอมโบเลียน”

นอกจากนี้ ยังมีรายงานการปะทุของภูเขาไฟ โปอาส ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงซานโฮเซ เมืองหลวงคอสตาริกา 50 กิโลเมตร เมื่อวันจันทร์ที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยสำนักภูเขาไฟฯ ของคอสตาริกา พบเถ้าถ่าน และกลุ่มควันจำนวนมาก ถูกพ่นออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟขึ้นสู่ท้องฟ้า ความสูงกว่า 3 กิโลเมตร นานถึง 6 นาที ก่อนหน้านี้มีการประกาศเตือนภัยภูเขาไฟในระดับสีส้ม หรือระดับ 3 จากทั้งหมด 4 ระดับ แต่จากการปะทุครั้งล่าสุด ยังไม่ได้ยกระดับคำเตือนภูเขาไฟเพิ่มขึ้น

ภูเขาไฟโปอาสมีความเคลื่อนไหวมาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้ทางการต้องออกคำเตือนนักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้กับภูเขาไฟเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ก็ไม่ได้มีคำสั่งห้ามเข้าพื้นที่ใกล้เคียง

กลับมากันที่บ้านเรา ก่อนหน้านี้มีการทำนายทายทักของหมอดูชื่อดัง บอกเอาไว้ว่า ภูเขาไฟที่สงบไปแล้ว ในภาคอีสาน กำลังจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง โดยประเด็นนี้ ศาสตราจารย์ ดร.สันติ ภัยหลบลี้ นักธรณีวิทยา จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาเคลื่อนไหวทันที พร้อมกางข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ระบุว่า “โอกาสภูเขาไฟปะทุ ที่เมืองไทย” สืบเนื่องจากการเกิดแผ่นดินไหวที่ผิดที่ผิดทาง ที่ อ. ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ปี 67 ที่ผ่านมา ประกอบกับคีย์เวิร์ดซอพพาวเวอร์ “ทุเรียนภูเขาไฟ” หรือวาทะกรรมประจำจังหวัด ที่เราคุ้นชิน “บุรีรัมย์ ดินแดนปราสาทหิน ถิ่นภูเขาไฟ” ทำให้ชาวนาชาวไร่ในพื้นที่ อ.ลำปลายมาศ ออกอาการกังวล ถึงสาเหตุ และผลกระทบที่จะตามมา เพราะไม่ว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้จะเกิดจาก 1) รอยเลื่อนตัวใหม่ ? หรือ 2) แมกมาใต้ภูเขาไฟ ที่กำลังขยับเขยื้อน ทั้งสองฉาก ล้วนไม่เป็นผลดีกับคนในพื้นที่อย่างแน่นอน เรื่องรอยเลื่อนเดี๋ยวค่อยว่ากัน บทความนี้อยากจะขอเคลียร์เรื่องภูเขาไฟ ว่าที่บุรีรัมย์ รวมทั้งที่เราไล่เคลมๆ กันว่าเป็นภูเขาไฟในจังหวัดอื่นๆ มีโอกาสจะปะทุบ้างไหม ในปัจจุบัน

22-25 กรกฎาคม ปี 67 เกิดแผ่นดินไหวเล็กๆ 5 เหตุการณ์ มีจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่ ต.โคก-ล่าม และ ต.หินโคน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ขนาด 2.9 / 1.8 / 3.0 / 1.9 และปิดท้าย 1.7 ความลึกถัวๆ 1 กิโลเมตร

ภูเขาไฟ คือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่โลกพยายามคลายความร้อนภายในโลก ออกสู่ภายนอก ในรูปแบบการปะทุของ หินหนืด ซึ่งเหตุที่ทำให้แผ่นดินไหว มักจะเกิดช่วงที่ภูเขาไฟกำลังจะปะทุ ก็เพราะความพยายามแทรกดันของแมกมา ขึ้นมาตามรอยแตกของหิน ทำให้หินแตก และเกิดแผ่นดินไหวใกล้กับตำแหน่งของภูเขาไฟ และมักเกิดกระจุกๆ เป็นร้อยๆ พันๆ ครั้ง

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

แน่นอนว่าจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีร่องรอย ของภูเขาไฟอยู่หนาแน่น ไม่ว่าจะเป็น เขาพนมรุ้ง ภูพระอังคาร เขากระโดง หรือจังหวัดใกล้เคียง เช่น เขาพนมสวาย จ. สุรินทร์ ภูฝ้าย จ. ศรีสะเกษ เขาพลอยแหวน จ.จันทบุรี รวมไปถึง ภูเขาไฟดอยผาคอกหินฟู และภูเขาไฟจำป่าแดด จ. ลำปาง

ซึ่งนับตั้งแต่โลกเกิดขึ้นมากว่า 4,600 ล้านปี มีหินหนืดไหลขึ้นมาบนพื้นโลก ผ่านกระบวนการปะทุของภูเขาไฟ อย่างนับไม่ถ้วน โดยในบรรดาภูเขาไฟ ที่ยังมีให้เห็นอยู่บนโลก หลายลูกก็ดับสนิทไปแล้ว ในขณะที่บางลูกก็ฮึ่มๆ พร้อมปะทุได้ทุกเวลา ซึ่งในทางธรณีวิทยา นิสัยคร่าวๆ ที่นักธรณีวิทยาใช้แยกความดุ หรือความมีภัยพิบัติของภูเขาไฟคือความถี่ของการปะทุ และเวลาการปะทุครั้งล่าสุด ของภูเขาไฟในแต่ละลูก ซึ่งก็แบ่งภูเขาไฟที่มีอยู่บนโลกออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
1) ภูเขาไฟดับสนิท คือ ภูเขาไฟที่ไม่มีประวัติการปะทุ และไม่มีสัญญาณทางวิทยาศาสตร์ ว่ามีกิจกรรมทางภูเขาไฟอยู่ใต้พื้นที่นั้น เช่น ภูเขาไฟคีรีมันจาโร ในแอฟริกา ภูเขาไฟอีเกอร์มอนท์ ในนิวซีแลนด์ เป็นต้น
2) ภูเขาไฟสงบ หรือภูเขาไฟที่ยังหลับ คือ ภูเขาไฟที่ไม่ที่มีประวัติการปะทุในช่วง 10,000 ปี แต่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ที่บ่งชี้ว่ายังมีกิจกรรมทางภูเขาไฟอยู่ เช่น เกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็ก หรือการรั่วซึมของก๊าซต่างๆ ในพื้นที่ภูเขาไฟ เช่น ภูเขาไฟฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น ภูเขาไฟเรนเนียร์ ในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น
3) ภูเขาไฟมีพลัง คือ ภูเขาไฟที่มีประวัติการปะทุในช่วง 10,000 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งจากการสำรวจพบว่า ปัจจุบันมีภูเขาไฟที่ยังมีพลังอยู่อย่างน้อย 500 ลูก ทั่วโลก เช่น ภูเขาไฟเมราปี ในประเทศอินโดนีเซีย ภูเขาไฟเซนต์เฮเลนส์ ในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น

 

ซึ่งจากการสำรวจทางธรณีวิทยา ของนักธรณีวิทยาไทยรุ่นใหญ่ในอดีต พบว่า ซีรีย์การปะทุของภูเขาไฟครั้งล่าสุดในบ้านเรา นับถัวๆ ก็ประมาณเมื่อ 9 แสนปีก่อน ซึ่งภูเขาไฟชุดนี้ ได้แก่ เขาพนมรุ้ง ภูพระอังคาร เขากระโดง ของ จ.บุรีรัมย์ เขาพนมสวาย จ.สุรินทร์ ภูฝ้าย จ. ศรีษะเกษ เขาพลอยแหวน จ.จันทบุรี และดอยผาคอกหินฟู ดอยจำป่าแดด ใน จ.ลำปาง

ทีนี้เรามาช่วยกันเคลียร์ทีละประเด็นครับ
1) ภูเขาไฟสัญชาติไทยเหล่านี้ เป็นภูเขาไฟที่ยังมีพลังหรือไม่ คำตอบคือ ไม่มีพลังแล้วครับ เพราะไม่เคยปะทุมาเลย เป็นเวลาเกิน 10,000 ปี ตามนิยามที่ผู้เขียนอธิบายไว้ด้านบน
2) หลับเหรอ แน่นอนว่า ต่อให้ไม่เคยปะทุมาเลยเกิน 10,000 ปี แต่หากข้างใต้โลกยังมีสัญญาณ หรือกิจกรรมอะไรร้อนๆ อยู่ ก็ถือได้ว่า ภูเขาไฟลูกนั้น อาจจะมีโอกาสกลับมาประทุได้อีก ซึ่งจากการสืบค้นภูเขาไฟทั่วโลก ผู้เขียนพบว่า มีรายงานกรณีที่ ภูเขาไฟเกือบจะหลับ แต่กลับมาได้ อยู่บ้าง แต่ที่เห็นนอนยาวที่สุด และยังมึน ตื่นมาปะทุอีกครั้งคือกรณีของ ภูเขาไฟ ฟา-กรา-ดาลส์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งหลับไปนานกว่า 6,000 ปี ก่อนจะกลับมาปะทุอีกครั้ง ในปี ค.ศ.2019

ซึ่งก็อย่างที่บอกไปในตอนต้นว่า ภูเขาไฟสัญชาติไทยของเรา ปะทุครั้งล่าสุดเมื่อ 9 แสนปีที่แล้ว หลับนานขนาดนี้ กรรมการนับ 10 ไปหลายรอบแล้วครับ ผู้เขียนว่า เคสนี้เรียกเปลสนาม หามลงอย่างเดียว เพราะต่อให้ทดเวลาบาดเจ็บ ก็ไม่น่าฟื้น

อีกเหตุผลสนับสนุน ที่จะทำให้มั่นใจว่าภูเขาไฟไทย ไม่น่าจะปะทุขึ้นมาอีกแล้วคือ ภูเขาไฟจะปะทุได้ ข้างใต้ต้องมีแมกมา ซึ่งในทางธรณีวิทยาคือ 1) ใต้เปลือกโลกทั่วไปไม่ได้มีแมกมา และ 2) แมกมาจะเกิดขึ้นได้ ก็ต้องมีสภาพแวดล้อม ทางธรณีแปลสัณฐาน เฉพาะตัว ซึ่งปัจจุบันนี้สภาพแวดล้อมทางธรณีแปลสัณฐาน ที่จะทำให้เกิดแมกมา และภูเขาไฟประทุในประเทศไทย ไม่มีอีกแล้ว ทั้งหมดได้เปลี่ยนไปหมดแล้ว นี่จึงเป็นเครื่องยืนยันในทางธรณีวิทยาว่า ปัจจุบันนี้ ไม่มีแมกมาใต้แผ่นดินไทย และจะไม่มีภูเขาไฟประทุขึ้น และสรุปว่า ซากภูเขาไฟ ที่เราเห็นกันอยู่ในเมืองไทย ตายอย่างสงบ ศพสีชมพูไปแล้ว ครับผม

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จีนกล่าวหาทรัมป์”อ้างมั่ว”เรื่องเจรจาการค้าจีน
จีนชี้สหรัฐมีเป้าหมายยึดครอง 'คลองปานามา'
อดีตผู้นำเกาหลีใต้ถูกสั่งฟ้องข้อหาคอรัปชั่น
"ผู้ตรวจการแผ่นดิน" ขีดเส้น 30 วัน หน่วยงานเกี่ยวข้องแจงปม ชั้น 14​ ยันไม่กดดันยึดหลักข้อเท็จจริง
มทภ. 4 ประชุมหน่วยขึ้นตรง สั่งปรับแผนรับมือโจรใต้ก่อเหตุรุนแรง ยกระดับมาตรการความปลอดภัย
"สว.ไชยยงค์" ชี้ชัดไฟใต้คุโชนหนัก โยงเวทีเจรจา "อันวาร์-ทักษิณ" ผู้นำมาเลย์โพล่งปากไทยฝากกดดัน BRN
"ผบ.ตร." สั่งกองวินัยตรวจสอบ "อดีตบิ๊กตำรวจ" โกงข้อสอบ ลั่นแม้พ้นราชการไปแล้ว ก็ลงโทษได้
"นฤมล" นำทีมเกษตรฯประชุมติดตามแผนบริหารน้ำ ย้ำผลสำเร็จแก้ปัญหาราคายาง
"รวบ 4 ผู้ต้องหา" ขบวนการค้าอาวุธคาด่านตรวจ พื้นที่ จ.เชียงใหม่ ยึดของกลางหลายรายการ
"ปตท."ผ่านการรับรองระบบงานหน่วยตรวจสอบความใช้ได้และทวนสอบก๊าซเรือนกระจกตามมาตรฐาน ISO จากสมอ.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น