มทภ. 4 ประชุมหน่วยขึ้นตรง สั่งปรับแผนรับมือโจรใต้ก่อเหตุรุนแรง ยกระดับมาตรการความปลอดภัย

แม่ทัพ 4 ประชุมหน่วยขึ้นตรง ยกระดับมาตรการความปลอดภัย ปรับแผนรับมือเหตุรุนแรง หลังโจรใต้ก่อเหตุถี่ โจมตีกลลุ่มเปราะบาง

มทภ. 4 ประชุมหน่วยขึ้นตรง สั่งปรับแผนรับมือโจรใต้ก่อเหตุรุนแรง ยกระดับมาตรการความปลอดภัย – Top News รายงาน

เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 เวลา 09.30 น. ที่ สโมสรนายทหารสัญญาบัตร กองพลทหารราบที่ 15 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พลโทไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานการประชุมหน่วยขึ้นตรง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า วาระพิเศษ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจ และร่วมปรับแผนยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ โดยมีนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาร่วมประชุมพร้อมส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมบูรณาการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ครอบคลุมในทุกมิติ

หลังเสร็จสิ้นการประชุม พลโทไพศาลแถลงว่า สถานการณ์ในพื้นที่ยังคงมีความพยายามสร้างเหตุความรุนแรงจากกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง แต่ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่ด้วยความใกล้ชิด ห่วงใยประชาชน และดำเนินการตามกรอบของกฎหมายอย่างเคร่งครัด ส่วนเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นอาจเป็นผลจากการบิดเบือนข้อมูลของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งใช้เป็นเงื่อนไขในการกระทำความรุนแรง โดยในนามของฝ่ายความมั่นคงขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมยืนยันว่าจะเร่งติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว พร้อมกันนี้ขอประณามการกระทำรุนแรงที่มุ่งเป้าทำร้ายพี่น้องชาวไทยพุทธ ชาวไทยมุสลิม และพระสงฆ์ เป็นอาชญากรรมที่ต้องถูกลงโทษ ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และเบาะแสจากประชาชนในพื้นที่ที่ไม่เห็นด้วยกับความรุนแรง เพื่อเร่งนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

แม่ทัพภาคที่ 4 ยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย โดยเฉพาะทหาร ตำรวจ และพลเรือน ฝ่ายปกครอง ทบทวนปรับแผนยกระดับรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางเป้าหมายอ่อนแอ ให้ปรับแผนการปฎิบัติงานเชิงรุก ซึ่งที่ผ่านมาทุกหน่วยงานในพื้นที่ได้ร่วมมือกันบูรณาการปฏิบัติหน้าที่ตามแผนงานนโยบายของรัฐบาลอย่างเต็มที่ เพื่อบรรลุเป้าหมายสำคัญคือการสร้างสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างยั่งยืน

ด้านพลตำรวจตรี วรา เวชชาภินันท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กล่าวว่า คดีที่เกิดขึ้นมีการรวบรวมพยานหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ซึ่งในหลายคดีที่เกิดขึ้นมีข้อมูล ทั้ง ดีเอ็นเอ มีหลักฐานพอสมควร รวมไปถึงยังได้รวบรวมหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ควบคู่กับการปฏิบัติการเชิงรุก โดยเฉพาะบุคคลที่มีหมายจับ ได้เข้าไปดำเนินการเข้าไปบังคับใช้กฎหมายเพื่อดำเนินการเข้าสู่กระบวนการตามกฏหมาย และในช่วงที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ได้ปรับแผนการปฎิบัติงาน โดยเฉพาะการรักษาความปลอดภัยประชาชนกลุ่มเป้าหมายเปราะบาง และในพื้นที่เขตเมืองเศรษฐกิจ ทางหน่วยได้รักษาความปลอดภัยตั้งด่านตรวจตลอด 24 ชั่วโมง มีจุดตรวจ Pop-Up ด่านลอยต่างๆไม่เป็นเวลาประจำ เพื่อสุ่มตรวจบุคคลรถยนต์ รวมไปถึงยังมีมาตรการในพื้นที่เซฟตี้โซน ที่ปรับเปลี่ยนมาตรการต่างๆเพื่อให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้นในการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่

ขณะที่พันตำรวจโทวรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. เปิดเผยถึงการดูแลการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ และบทบาทในการส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรมท่ามกลางความพยายามสร้างความแตกแยกทางศาสนาว่า แนวทางของ ศอ.บต. มุ่งเน้นเรื่องความรวดเร็ว ต่อเนื่อง และยั่งยืน ตลอดจนการสร้างความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างไทยพุทธและมุสลิม บนพื้นฐานของความเท่าเทียมและการยอมรับความหลากหลาย ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่นั้น การเยียวยาในเชิงจิตใจและสังคมเป็นสิ่งสำคัญมาก ศอ.บต. ให้ความสำคัญกับการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบ ไม่เพียงในด้านกายภาพหรือเศรษฐกิจเท่านั้น แต่รวมถึงด้านจิตใจ โดยการจัดกิจกรรมเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ เช่น การพูดคุยการจัดเวทีชุมชน และการเยี่ยมเยียนครอบครัวผู้สูญเสียทั้งไทยพุทธ และมุสลิมได้ดูแลอย่างเท่าเทียม

เช่นเดียวกับ นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า ฝ่ายปกครองยังคงมุ่งเน้นให้ความปลอดภัยแก่ชุมชนและประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยได้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์และป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น พร้อมทั้งเสริมสร้างขีดความสามารถของกำลังพล ควบคู่กับการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแส เพื่อสร้างความมั่นคงและความเชื่อมั่นในชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน

มทภ. 4      

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“กรมอุตุฯ” เตือนรับมือ "พายุฤดูร้อน" ฉบับ 2 ถล่มไทยตอนบน 26 เม.ย.- 1 พ.ค.นี้
“ดร.เฉลิมชัย” ลงพื้นที่ติดตามโครงการศึกษา สำรวจและพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลในพื้นที่เสี่ยงกร่อยเค็ม ตำบลอุ่มเม้า อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด แก้ปัญหาให้ประชาชน 15 หมู่บ้าน กว่า 7,200 คน มีน้ำกินน้ำใช้ตลอดปี
"ผอ.สปภ." เผย ตึกสตง.ถล่ม ลดซากเหลือ 7 เมตร จนท.ตัดเหล็กขนย้ายได้เร็วขึ้น คาดเสร็จสิ้นเดือนเม.ย.นี้
แฉกลโกงออนไลน์! ใช้ชื่อ ‘ธนินท์’ ลวงซ้ำ – ซีพีเอาผิดไม่เว้น
DITP โชว์ผลงานจัดกิจกรรมส่งออก 7 เดือน สร้างรายได้เข้าประเทศ 36,921 ล้าน ผู้ประกอบการได้ประโยชน์ 42,409 ราย
"กระทรวงยุติธรรม" เปิดตัวโครงการ "รวมพลังอาสาสมัครราชทัณฑ์ คืนคนดีสู่สังคม"
“เอกนัฏ” เอาจริง “ส่งทีมสุดซอย” ตรวจโรงงานปราจีนฯ ยึดเหล็กไม่ได้มาตรฐาน 7 พันตัน มูลค่า 148 ล้าน คาดเอี่ยวคดีตึก สตง.
"อ.ปรเมศวร์" ชี้ทางดีเอสไอ ลุยเอาผิดประมาท ตึกสตง.ถล่ม อึ้งข้อมูลใช้งบฯส่อทุจริต
จีนปล่อยยานเสินโจว 20 มุ่งสู่สถานีอวกาศเทียนกง
"องค์กรต้านโกง" เปิดวงจรคอร์รัปชัน เกาะกินก่อสร้างภาครัฐ แนะรื้อระบบ-กติกา จูงใจเอกชนแข่งเสรี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น