“รองฯแต้ม” ย้ำคดี “พีช” ติดคุกแน่ แจงถึงข้อหาพยายามฆ่าหรือไม่ ลั่นสนิท “บิ๊กต่าย” ไม่ช่วยรอดผิด

"รองฯแต้ม" ย้ำคดี "พีช" ติดคุกแน่ แจงถึงข้อหาพยายามฆ่าหรือไม่ ลั่นสนิท "บิ๊กต่าย" ไม่ช่วยรอดผิด

“รองฯแต้ม” ย้ำคดี “พีช” ติดคุกแน่ แจงถึงข้อหาพยายามฆ่าหรือไม่ ลั่นสนิท “บิ๊กต่าย” ไม่ช่วยรอดผิด

ข่าวที่น่าสนใจ

สืบเนื่องจากกรณี ที่นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ พีช อายุ 28 ปี ผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลตำบลธัญบุรี ทีมธัญญก้าวหน้า เบอร์ 1 ซึ่งเป็นลูกชายของ นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ นายกเบี้ยว นักการเมืองดังปทุมธานี ขับรถยนต์หรู BMW ป้ายแดง ปาดหน้าชนรถกระบะของลุงและป้าจนเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งอยู่ระหว่างเข้ารับการรักษาตัวนั้น

 

ขณะที่สังคมได้จับตามองเรื่องของ “พีช” ที่เคยโอ้อวดเรียก “อาต่าย” บอกว่าตนเองนั้นสนิทกับผบ.ตร. ซึ่งเมื่อวันที่ 18 เม.ย. 68 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เปิดเผยถึงเรื่องนี้ด้วยว่า การอ้างถึงความสัมพันธ์ผบ.ตร.ว่า “อาต่าย” พร้อมโชว์หลักฐานเป็นรูปภาพที่ถ่ายร่วมกับ ผบ.ตร. ว่า ได้ดูคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจและไม่เหมาะสมที่เกิดขึ้นในสังคม ขณะนี้ได้เน้นย้ำไปยังตำรวจทางหลวง และตำรวจพื้นที่ สภ.ลำลูกกา ให้ดำเนินการอย่างรอบคอบและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ผบ.ตร. ยอมรับว่า ส่วนตัวรู้จักกับ นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ “นายกเบี้ยว” อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี บิดาของ นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ “พีช” ผู้ขับรถ BMW ด้วยความที่ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ทำให้มีคนอยากทำความรู้จัก และถ่ายรูปด้วยเป็นจำนวนมาก ซึ่งรูปที่ปรากฏในข่าวยอมรับว่าได้ถ่ายไว้ตั้งแต่ครั้งดำรงตำแหน่ง ผบช.ภ.8 ยศ พล.ต.ท. รวมถึงที่ผ่านมาเมื่อพบใครมักถูกเรียกนับญาติว่าอาต่ายเป็นปกติตามประสาคนรู้จักกัน ด้วยนโยบายของตนที่สั่งให้ตำรวจทั่วประเทศวางตัวเป็นมิตรกับประชาชนดุจญาติ การเรียกว่าเป็นน้า เป็นอา เป็นเรื่องที่ตนเองพึงพอใจ ดีกว่าใช้สรรพนามเรียกว่าท่าน ขอให้สังคมแยกแยะเรื่องของการรู้จักกัน กับเรื่องการที่ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย

ผบ.ตร.กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นกรณีของบุคคลคนหนึ่งที่ขาดจิตสำนึกและวุฒิภาวะ ขาดความเอื้ออาทร และขาดความรับผิดชอบต่อผู้อื่น พร้อมตั้งคำถามว่าหากรถคันนั้นมีเด็กอยู่ด้วยจะเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นจะต้องมีสติ รวมถึงเมื่อเกิดเหตุขึ้น ก็ไปอ้างไปโอ้อวดกับเจ้าหน้าที่ นั่นคือนิสัยที่พยายามสร้างให้ตัวเองดูดี โอ้อวดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐว่ารู้จักผู้มีตำแหน่ง พร้อมกล่าวว่ายิ่งโอ้อวดยิ่งจะโดนโทษหนักมากขึ้น

 

 

 

 

ล่าสุดวันนี้ (21 เม.ย.) รายการจับตาประเทศไทย ทางช่อง Top News ดำเนินรายการโดย คุณสำราญ รอดเพชร และคุณอุบลรัตน์ เถาว์น้อย ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.20-12.05 น. ได้สัมภาษณ์ พลตำรวจตรี วิชัย สังข์ประไพ หรือ “รองฯแต้ม” ถึงเรื่องราวดังกล่าว ถึงแง่มุมความสนิทสนมที่ผบ.ตร. รู้จักกับ “นายกเบี้ยว” พ่อของพีช ว่าจะทำให้ “พีช” รอดพ้นผิดจากคดีไปได้หรือไม่

 

โดยทางด้านพลตำรวจตรี วิชัย สังข์ประไพ หรือ “รองฯแต้ม” ได้กล่าวว่า คดีของพีช หรือลูกพีชนั้น ไม่น่ามีกลับลำ คดีพลิกได้ เพราะพยานหลักฐานมันชัดเจน ต่อให้ผบ.ตร. จะรู้จักกับ “นายกเบี้ยว” พ่อของพีชก็ตาม ทั้งพยานบุคคล พยานนิติวิทยาศาสตร์ กล้องวงจรปิดอีกด้วย ไม่มีใครกล้าเสี่ยงลบคลิปวีดีโอที่บันทึกไว้หรอก ไม่คุ้มกัน ส่วนจะติดคุก ส่วนตัวมองว่ามีโอกาส แต่จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับคำตัดสินของศาล

 

เมื่อถามว่า สังคมกังวลใจ เมื่อผบ.ตร.บอกว่า รู้จักกันกับ กับ”นายกเบี้ยว” พ่อของพีช จะเป็นเหตุให้คดีมันอ่อนลง บทลงโทษลดลง เป็นไปได้หรือไม่ “ผู้การแต้ม” ได้ระบุว่า ส่วนตัวมองว่าไม่แน่นอน ต้องมองตามความเป็นจริงด้วย สังคมหรือโซเชียลมีสิทธิ์ตั้งคำถามได้ แต่ไม่มีใครกล้าแลกแน่นอน พยาน หลักฐานชัดเจนขนาดนั้น ต่อให้ทางพีชบอก รู้จักท่านนายกฯ ทักษิณ ใครก็ช่วยไม่ได้ การที่ผบ.ตร.บอกว่า รู้จักพีชมาตั้งแต่เด็ก ก็ไม่มีนัยยะอะไร แค่รู้จัก ถ้ามีการเปลี่ยนข้อหา เปลี่ยนรูปคดี สังคมค่อยว่ากัน ตอนนี้ตำรวจก็ดำเนินคดีไปตามขั้นตอน

เมื่อถามว่า เหตุใดเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงไม่มีการแจ้งข้อหา “พยายามฆ่า” กับพีช “รองฯแต้ม” กล่าวว่า เพราะในที่เกิดเหตุ ถ้าสมมุติรถพลิกคว่ำ ไฟคลอก มีรถอื่นมาชนตามหลัง มีความเสียหายหนักกว่านี้ แบบนี้จะเข้าข่ายพยายามฆ่าได้ แต่นี่กรณีนี้เหมือนเขาพยายามจะเอารถของตนเอง ไปทำให้รถผู้อื่นเสียหาย ดูความเสียหายรถแล้ว ความเจ็บของลุง-ป้าแล้ว มันยังไม่ถึงพยายามฆ่า

รับชมรายการจับตาประเทศไทย ทางช่อง Top News (คลิกที่นี่)

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เตือนรัฐต้องสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชน อย่าปล่อยหวยออนไลน์ ตู้ขายสลากผิดกม.เกลื่อนเมือง มีกฎหมายแต่จัดการไม่ได้ ประชาชนจะมั่นใจ?
สมาคมผู้เลี้ยงสุกรฯ แจงราคาหมูปรับขึ้นเป็นวัฏจักรปกติช่วงหน้าร้อน ยันไม่ใช่การเอาเปรียบผู้บริโภค
“โฆษกกองทัพบก” เผย “ผบ.ทบ.” สั่งดูแลเป้าหมายอ่อนแอ เข้มใช้กฎหมาย-รักษาความปลอดภัย เหตุป่วนใต้
"รองนายกฯ ประเสริฐ" ผนึกกำลัง 16 พันธมิตรร่วม MOU แพลตฟอร์ม ‘DE fence’ ป้องกันโทร - SMS หลอกลวง สกัด “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” พร้อมเปิดใช้ 1 พ.ค. 68 นี้
"พล ร.9" ฝึกประจำปี 68 เป็นหน่วยกรมทหารราบผสม ปฏิบัติตามแผนการใช้กำลังทบ. เพิ่มขีดความสามารถให้กำลังพล พร้อมปกป้องผืนแผ่นดินไทยและพี่น้องปชช.
“ภุชงค์” ลุยตรวจสร้างทางพิเศษพระราม 3 เข้ม 5 กฎเหล็กความปลอดภัยโครงการก่อสร้างใหญ่ ป้องกันเหตุซ้ำรอย
"พิชัย" นำเปิดเวทีระดมสมอง รับมือมาตรการกำแพงภาษีสหรัฐฯ ชี้โอกาสสินค้าไทยสอดแทรกแทนจีน เร่งเจรจา FTA ยุโรป
สุดยื้อ "ร.ต.อ.จตุรงค์" นักบิน เสียชีวิตเป็นรายที่ 6 เหตุเครื่องบินเล็กตก ทะเลหัวหิน
"ตำรวจ" จับหนุ่มขนยาบ้าข้ามริมโขงกว่า 5 ล้านเม็ด เตรียมส่งให้พ่อค้าพื้นที่ภาคกลาง
“กรมโยธาฯ” สรุปผลตรวจอาคารเหตุแผ่นดินไหว พบสีแดง 75 แห่ง โครงสร้างเสียหายหนัก

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น