27 เมษายน 2568 ที่โรงแรม ดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปราศรัยใหญ่หาเสียงช่วย นายอัศนี บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ โดยระบุว่า เมื่อสักครู่นักข่าวถามตนว่าพร้อมหรือไม่ เพราะมีคู่แข่งหลายคน ตนจึงบอกว่าผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยมีผลงาน ลงพื้นที่ต่อเนื่อง วันนี้ตนมาเชียร์เต็มที่ เพราะกลับมาเที่ยวนี้เชียงใหม่ไม่ค่อยงาม บ่ค่อยสะอาด เมื่อก่อนตอนเป็นนายกฯ ง๊ามงาม ตนบอกกับผู้สมัครว่าเรามาช่วยกันทำเชียงใหม่ให้งามดีกว่า เราช่วยกันเต็มที่ ช่วยกันทุกระดับ ระดับประเทศ ระดับ อบจ. ให้เป็นแนวเดียวกัน ไปไหนมาไหนเจริญหูเจริญตา ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มาเล่าให้ตนฟังว่า ฝุ่น pm2.5 ลดลง 61% งานเหล่านี้เป็นงานของเทศบาล ไม่มีครั้งไหนที่เชียงใหม่จะมีความพร้อมเท่าครั้งนี้ ที่ท้องถิ่นและรัฐบาลเป็นปึกแผ่นกัน เพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน

รัฐบาลมีแนวคิดเรื่องบ้านเพื่อคนไทย ทำให้พี่น้องมีบ้านอาศัย 99 ปี ใช้ที่หลวงจะได้ไม่เปลือง ไม่แพง ค่าเช่า 3-4 พันบาท บ้านเพื่อคนไทยก็จะกระจายทั่วประเทศ คนที่อยู่ในเทศบาลสำคัญที่สุด เพราะไม่มีบ้านอยู่ แออัด เราก็จะทำให้คนไทยอยู่อย่างมีความสุข

“พี่น้องครับ คู่แข่งของนายกหน่อย พรรคไหนนะ เขาบอกว่าพรรคประชาชนเป็นคู่แข่ง แต่ผมว่ามันแข่งบ่ได้ สู้ไม่ได้ ตนเห็นคลิปหัวหน้าพรรคประชาชน ชื่อเท้ง เท้งหรือหนุ่มซินตึ๊ง มันบอกว่าถ้าพรรคประชาชนจะร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยต้องออกมาขอโทษประชาชน ที่ทำผิดกับประชาชน เอาอะไรมาพูด วันนี้ เวลานี้ พรรคประชาชนติดหล่มอยู่ที่ตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ ยังเสียดายที่ตั้งไม่ได้ โทษใครไม่ได้ต้องโทษตัวเอง เพราะตัวเองจะเอา 112 อยู่นั่นแหละ ก็เลยหาเพื่อนไม่ได้ ระบบการเมืองไทยเป็นแบบรัฐสภา ใครรวมเสียงได้เกินครึ่ง คนนั้นได้เป็นรัฐบาล ไม่จำเป็นว่าคนได้ที่หนึ่งต้องเป็นรัฐบาล ตอนปี 2562 เพื่อไทยมาที่หนึ่ง พรรคพลังประชารัฐมาที่สอง ก็ตั้งเลย เพื่อไทยก็มาเป็นฝ่ายค้านร่วมกับพรรคอนาคตใหม่ตอนนั้น ก็ไม่เห็นใครว่าอะไรสักคำ เรารู้ว่าเราเป็นที่หนึ่ง แต่รวมเสียงไม่ได้ เราถึงต้องยอม แต่นี่ที่หนึ่ง เพื่อนให้โอกาสไปเดินรวมมาเลย รวมอยู่อย่างไรก็ไม่ได้ สว.ก็ไม่เอา ใครก็ไม่เอา เป็นคนไม่มีเพื่อนแล้วมาโทษคนอื่น ก็ละอ่อนละเนาะ ก็คิดแบบเด็ก ๆ แล้วมาบอกว่า ถ้าจะมารวมกับพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาล ถามหรือยังว่าใครจะมาเอารวม ยังไม่มีใครบอกสักคำว่าจะเอารวม แหม มาบอกว่าต้องไปขอโทษประชาชน มันซินตึ๊งหรือสึ่งตึงก็ไม่รู้”