“โฆษก ทบ.” โต้ กมธ.ทหาร ยันมีอำนาจแจ้งจับ “พอล แชมเบอร์ส” คดี ม.112 ลั่นชาวต่างชาติ ต้องอยู่ใต้กม.ไทย

ทบ. โต้ กมธ.ทหาร ยัน กอ.รมน.ภาค3 แจ้งจับ พอล แชมเบอร์ส คดี ม.112 ได้ ลั่น แม้เป็นต่างชาติ ต้องอยู่ใต้กฎหมายไทย ขอสังคมพิจารณาองค์กรถูกด้อยค่า ประณาม

“โฆษก ทบ.” โต้ กมธ.ทหาร ยันมีอำนาจแจ้งจับ “พอล แชมเบอร์ส” คดี ม.112 ลั่นชาวต่างชาติ ต้องอยู่ใต้กม.ไทย – Top News รายงาน

โฆษก ทบ.

เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษก ทบ. กล่าวถึง กรณีการประชุมคณะกรรมาธิการการทหาร เมื่อ 24 เมษายน 68 วาระพิจารณาศึกษา เรื่อง กอ.รมน.ภาค 3 แจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี Dr. Paul Chambers ลูกจ้างมหาวิทยาลัยนเรศวร ในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ สภ.เมือง พิษณุโลก เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2568 โดยจากที่ได้ติดตามผลของการประชุมพบว่า อาจมีรายละเอียดบางอย่างที่ผู้แทนหน่วยที่เข้าร่วมประชุมอาจนำเสนอไม่ครบ จึงขอเรียนเพิ่มเติมให้ดังนี้

 

1. เรื่องข้อสงสัยว่า กอ.รมน.ภาค 3 ใช้อำนาจอะไรไปแจ้งความ เรียนว่าการไปแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เมื่อพบเห็นว่าอาจมีการกระทำเข้าข่ายผิดกฎหมายบ้านเมืองเป็นเรื่องปกติ ที่ทุกคนทั่วไปสามารถทำได้ ต่างจากการไปขอจับกุมผู้กระทำความผิดที่จำเป็นต้องอ้างใช้อำนาจตามกฎหมายในกรณีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็นความผิดต่อแผ่นดิน ใครที่พบเห็นข้อความที่มีลักษณะเข้าข่ายทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดในลักษณะดูหมิ่นสถาบันฯ ก็สามารถแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้นำเข้าสู่กระบวนการทางศาลเพื่อพิจารณาได้ โดยผู้ถูกกล่าวหาจะสามารถพิสูจน์ตัวเอง แก้ต่างข้อกล่าวหาได้ตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม

 

ข่าวที่น่าสนใจ

2. การดำเนินการต่อกรณีนี้ เริ่มจากได้รับแจ้งจาก ประชาชน กอ.รมน.ภาค 3 จึงได้มีการติดตามตรวจสอบ และนำเข้ากระบวนการพิจารณาของหน่วย พบว่ามีพฤติกรรมใช้ความรู้สึกส่วนตัวตีความและกระจายไปยังบุคคลภายนอก อันมีผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงได้ทำหนังสือร้องทุกข์ดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยต่อไป ซึ่งปัจจุบันอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน

3. สำหรับข้อกังวลเนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นชาวต่างประเทศนั้น กฎหมายของประเทศนั้นย่อมสามารถใช้บังคับได้กับทุกคนที่อยู่ในประเทศนั้นตามหลักสากล ไม่มีประเทศไหนในโลกจะมีข้อยกเว้นการบังคับใช้กฎหมายให้กับคนสัญชาติอื่นที่ไม่ใช่สัญชาติตัวเอง ซึ่งหากผู้ถูกแจ้งความคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็สามารถใช้ช่องทางของกฎหมายมาดำเนินการผู้แจ้งความได้

4. ในที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ วันดังกล่าวพบว่า มีภาพบรรยากาศที่อาจดูน่ากังวลเนื่องด้วยมีบางคนมีการใช้คำพูดในลักษณะดูหมิ่น เสียดสี ผู้เข้าร่วมประชุม เช่น “โง่แต่ขยัน ลุแก่อำนาจ ไร้สติปัญญา และขาดทักษะ ภาษา อังกฤษ”

จึงขอเรียนว่าเนื่องจากรายละเอียดประกอบข้อมูลการฟ้องอยู่ในระบบของกระบวนการยุติธรรมไปแล้ว ซึ่งการจะเปิดเผยคงทำได้แบบจำกัด ส่วนการโต้แย้งผ่านการประชุมในวันดังกล่าว ไม่น่าส่งผลต่อรูปคดีจริง เนื้อหาที่นำมายกตัวอย่างมาพูดโต้แย้งกันในที่ประชุม ก็อาจไม่อยู่ในประเด็นหลักการฟ้องในครั้งนี้ แต่กลับพบว่าถูกนำมาเป็นประเด็นเพื่อใช้เหยียดหยาม ประจานด้อยค่าบุคคลและองค์กร อยู่หลายคำหลายประโยค เช่น โง่แต่ขยัน ลุแก่อำนาจ ไร้สติปัญญา หรือเป็นหน่วยงานดักดาน ทั้งหมดเหล่านี้ขอให้ทางองค์กรที่รับผิดชอบ หรือสังคมเป็นผู้พิจารณา

5. มีหลายความเห็นกล่าวถึงการใช้เวทีกลไกสภาฯ  เพื่อพยายามปกป้องช่วยเหลือผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดหรือไม่ เช่น ชี้แจงว่าข้อความที่เป็นประเด็นนั้น ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้เขียนเอง พร้อมได้ยกตัวอย่างว่า เพราะเขาใช้คำสรรพนามภาษาอังกฤษว่า he ไม่ได้ใช้คำว่า I ซึ่งกรณีนี้ คณะ กมธ.ทหาร อาจเข้าใจว่าประเด็นปัญหาที่ถูกนำไปแจ้งความคือตรงนี้ จึงมุ่งมาช่วยเหลือพยายามแก้ต่างให้ผ่านเวทีประชุมฯ  ซึ่งอาจจะไม่ใช่ เพราะข้อมูลที่เป็นประเด็นปัญหานำไปสู่การฟ้องร้องทางคดีนั้นอยู่ในขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมไปแล้ว ทำให้ประเด็นที่นำเอาไปถกเถียงในวันนั้น อาจไม่ใช่ประเด็นหลักที่ใช้ประกอบการฟ้องร้องครั้งนี้ก็ได้ ซึ่งจากการที่ประธานฯ ได้ไปพูดฟันธงต่อสาธารณะในทำนองประจานให้มีผลต่อภาพลักษณ์บุคคลและหน่วยงานนั้น เป็นเรื่องที่สังคมต้องเป็นผู้พิจารณา ซึ่งอาจต้องไปดูในระเบียบ และมารยาทวิธีการปฏิบัติในการประชุมฯ

6. กรณีมาตรา 7 พ.ร.บ. ความมั่นคงฯขอเรียนว่าปกติกลไกนี้มีไว้สำหรับการเสนอจัดทำแผนงานเพื่อใช้บริหารจัดการแก้ไขปัญหาความมั่นคง โดยเฉพาะปัญหาฯ มีความยุ่งยากและซับซ้อน และอาจต้องอาศัยหลายหน่วยงานมาร่วมแก้ จึงมีขั้นตอนต่างๆ ไปให้ฝ่ายบริหารอนุมัติ เพื่อนำไปประกอบกับกลไกของกฎหมายตาม ม.15 เพื่อใช้แก้ไขปัญหาความมั่นคงนั้นๆ ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่นปัญหา จชต. ซึ่งกรณีคดีของนาย Paul Chambers เป็นคดีอาญาปกติ ไม่ใช่การเสนอแผนฯ เพื่อจะขออนุมัตินำไปใช้แก้ปัญหาความมั่นคง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

วธ.ชวนเที่ยวสงกรานต์เมืองพระประแดง สัมผัสมนต์เสน่ห์วัฒนธรรมมอญ ที่หาชมได้ยาก กินกาละแม เล่นสะบ้ารามัญ การละเล่นพื้นบ้านอันทรงคุณค่า
"นายกฯ" สักการะพญาศรีสัตตนาคราช-จุดเรือไฟบก ดันประเพณีไหลเรือไฟโลก อัปเดตอาการป่วยบอกดีขึ้นแล้ว
กลิ่นเหม็นเน่า "จีนเทา" เช่าโกดังเก็บไส้หมูเถื่อน ส่งขายทั่วไทย จนท.ยึดของกลางมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
รัสเซียประกาศหยุดยิง 3 วัน
"นิพนธ์" ชี้บทเรียนใหญ่ ปชป.พ่ายยับเลือกตั้งนครศรีฯ แนะกก.บห.ต้องเร่งทบทวนฟื้นพรรคเป็นที่พึ่งปชช.จริงๆ
"อดีตผกก.โคกเคียน" ร้องนายกฯ สั่งย้าย "ผบช.ภ.9-ผู้การนราธิวาส" เดือดปมบุกรุกพังประตูบ้าน
ชมสีสันงานแข่งวิ่งเทรลบน 'กำแพงเมืองจีน' ในเหอเป่ย
“ภูมิธรรม” ย้ำชัดไม่มีโพลเอาใจนาย ชี้นำกม.เอนเตอร์เทนเมนต์ฯ ลั่นทุกอย่างมีไทม์ไลน์ ทำอย่างรอบคอบ
เกาหลีใต้สั่งอพยพประชาชนหนีตายไฟป่า
สหรัฐถล่มศูนย์กักกันชาวแอฟริกาที่เยเมนดับเกือบ 70 ราย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น