ไทเทิลลิสต์ขอแนะนำพัตเตอร์ Scotty Cameron Studio Style รุ่นใหม่
ซีรี่ส์ที่โดดเด่นด้วยรูปทรงใหม่, หน้าอินเสิร์ท Studio Carbon Steel และเทคโนโลยีการกลึงหน้าพัตเตอร์ Chain-Link
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (มกราคม 21, 2025) – Scotty Cameron ขอนำเสนอการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ครั้งที่สำคัญที่สุด ในพัตเตอร์ทรงเบลดช่วงหลัง กับตระกูล Studio Style 2025 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เป็นตัวแทนอันชัดเจนถึงอนาคต แต่ให้ความรู้สึกของอดีตไปพร้อมกัน ด้วยการผสมผสานระหว่างสายตาระดับตำนานของ Scotty ในการออกแบบ และสร้างสรรค์ เข้ากับนวัตกรรมใหม่ทางด้านวัสดุ, การกลึง, ประสิทธิภาพ และเทคโนโลยี โดย 12 โมเดลใหม่ล่าสุดคือ การนำเสนองานเปลี่ยนแปลงทางดีไซน์ แบบใหม่หมดจด จากโมเดลก่อนหน้า แต่ยังให้ความคลาสสิคเหนือกาลเวลา และการพัฒนาที่ชัดเจนตามความต้องการของผู้เล่นสมัยใหม่ รวมถึงนำสัมผัสเสียง, ความรู้สึก และประสิทธิภาพ ไปสู่จุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง
SCOTTY CAMERON, FOUNDER AND MASTER CRAFTSMAN กล่าวว่า “พัตเตอร์ Studio Style รุ่นใหม่คือ การเปลี่ยนแปลงทางดีไซน์ที่มีความสำคัญมากที่สุดในพัตเตอร์ทรงเบลดของเราในช่วงหลัง ในขณะที่เรานำชื่อในอดีตกลับมาใช้อีกครั้ง แต่เทคโนโลยี, การดีไซน์ และขั้นตอนการสร้าง ล้วนแต่เป็นสมัยใหม่ และเป็นแบบใหม่ทั้งหมด โดยทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความรู้สึกอันน่าทึ่ง และประสิทธิภาพที่สม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นหน้าอินเสิร์ท Studio Carbon Steel แบบใหม่ ที่ให้เสียงที่นุ่มนวล และการโรลลูกได้อย่างมั่นใจในทุกพัตต์, การมิลล์หน้าพัตเตอร์แบบ chain-link ที่สามารถให้ความรู้สึกในอีกระดับ พร้อมประสิทธิภาพการโรล ที่จะช่วยให้นักกอล์ฟมั่นใจมากขึ้นกับทุกการพัตต์ นอกจากนี้เรายังได้ดีไซน์พัตเตอร์รูปทรงมัลเล็ทขนาดปานกลางมาเป็นแบบใหม่หมดจด ด้วยแนวเล็งที่มีความโดดเด่น และความมั่นคง เพื่อช่วยให้นักกอล์ฟที่ใช้พัตเตอร์ทรงเบลด หรือมัลเล็ทขนาดปานกลาง ได้สัมผัสตัวเลือกประสิทธิภาพสูงใหม่ล่าสุด เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่งที่นักกอล์ฟจะได้สัมผัสกับความรู้สึกของพัตเตอร์ Studio Style ใหม่นี้”
AUSTIE ROLLINSON, SENIOR DIRECTOR OF PUTTER R&D กล่าวว่า: “สำหรับพัตเตอร์ Studio Style รุ่นใหม่, ทีมงานของเราได้ทำอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ด้วยข้อมูลที่ได้จากทัวร์ นำถูกนำมาพัฒนาจนกลายมาเป็นรูปแบบของปรับแต่งเสียง และความรู้สึกที่เป็นเฉพาะตัว ในการพัฒนาหน้าอินเสิร์ท Studio Carbon Steel ซึ่งให้คุณสมบัติในการซับแรงสั่นสะเทือนที่ดีกว่าทั้งเทอร์ริลเลียม, สเตนเลสสตีล และอลูมินัม นอกจากนี้ด้วยการกลึงหน้าพัตเตอร์แบบใหม่ – ที่เรียกว่าการกลึงแบบ chain-link – ยิ่งช่วยทำให้ได้เสียงที่นุ่มยิ่งขึ้นเมื่อกระทบลูก, เราขอแนะนำเจเนเรชั่นล่าสุดของพัตเตอร์ทรงเบลด และมัลเล็ทขนาดปานกลาง ที่มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด และแนวเล็งแบบใหม่ โดยทั้งหมดถูกออกแบบเพื่อให้ความรู้สึกที่ดีที่สุด และประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น”
สิบสองโมเดลใหม่ล่าสุดที่พร้อมวางตลาดในวันที่ 14 มีนาคม 2025 นี้: พัตเตอร์ Studio Style Newport, Newport Plus, Newport 2, Newport 2 Plus, Newport 2.5 Plus, Squareback, Squareback 2, Squareback 2 Long Design, Fastback, Fastback Long Design, Fastback 1.5 และ Catalina มีกำหนดวางตลาดพร้อมกันทั่วโลกที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Titleist เริ่มต้นในวันที่ 14 มีนาคม 2025 นี้ โดยรุ่น Newport 2, Newport 2.5 Plus, Fastback 1.5 และ Catalina จะมาพร้อมตัวเลือกสำหรับมือซ้ายด้วยเช่นกัน
หน้าอินเสิร์ท STUDIO CARBON STEEL (SCS) แบบใหม่: ในส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปีของซีรีส์ Studio Style รุ่นดั้งเดิมที่มีการใช้หน้าอินเสิร์ท GSS, ใน Studio Style รุ่นใหม่ปี 2025 นี้ ได้กลับมาพร้อมกับหน้าอินเสิร์ท Studio Carbon Steel (SCS) ที่ให้ความรู้สึกนุ่มยิ่งกว่า พร้อมเทคโนโลยีการกลึงหน้าพัตเตอร์ chain-link ในทุกโมเดลย่อย จากการคัดเลือกวัสดุโลหะจำนวนมาก ที่ถูกทดสอบทั้งด้านเสียง, สัมผัส และการใช้โดยผู้เล่นมาอย่างยาวนาน วัสดุ Carbon Steel นั้นได้รับการยกย่องผู้ที่ชื่นชอบในแบรนด์ Scottty Cameron และผู้เล่นระดับทัวร์เช่น Jordan Spieth มาอย่างยาวนาน สำหรับความรู้สึกทั้งเสียง และสัมผัสที่ไม่เคยผิดพลาด โดยกระบวนการชุบนิกเกิลอิเล็กโทรเลสแบบใหม่ ได้ถูกนำมาใช้ในไลน์ Studio Style เพื่อช่วยเพิ่มความทนทาน และป้องกันการเกิดการกัดกร่อน ที่เคยเกิดขึ้นกับพัตเตอร์ Carbon Steel กระบวนการนี้ยังช่วยรักษาความรู้สึกที่นุ่มนวล ซึ่งเป็นนำคุณประโยชน์ของวัสดุนี้กลับมาในรูปแบบที่มีความทนทานมากขึ้น และได้รับการออกแบบใหม่เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของนักกอล์ฟในยุคปัจจุบัน โดยหัวพัตเตอร์ทุกชิ้นถูกกลึงอย่างแม่นยำในประเทศสหรัฐอเมริกา เริ่มต้นด้วยการกลึงให้มีความนุ่ม ก่อนการอินเสิร์ทเข้าไปกับประกอบหัวพัตเตอร์ ด้วยทั้งสกรู และเทคโนโลยีซับแรงสั่นสะเทือนที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอุตสาหกรรมการบิน ขณะที่ขอบด้านนอกของหน้าอินเสิร์ทยังมีส่วนประกอบสำหรับลดการสั่นสะเทือนอีกหนึ่งชนิด เพื่อการให้สัมผัสที่หนักแน่นอย่างไร้ที่ติ
เทคโนโลยีการกลึงหน้าพัตเตอร์ CHAIN-LINK แบบใหม่ จุดเชื่อมต่อระหว่างเสียงและความรู้สึก: การกลึงหน้าพัตเตอร์ chain-link เป็นผลมาจากการทดสอบนานนับหลายเดือน ที่ Scotty Cameron Putter Studio รวมถึงในทัวร์ เพื่อค้นหารูปแบบการกลึงหน้าพัตเตอร์แบบใหม่ ที่ช่วยสร้างส่วนผสมในอุดมคติระหว่างเสียงที่นุ่มนวล, แคเรกเตอร์การโรลลูกอย่างที่ต้องการ และการควบคุมความเร็วจากหน้าพัตเตอร์ ผลลัพธ์ที่ได้คือ หน้าพัตเตอร์แบบใหม่ ที่ไม่ใช่แค่ให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าของ Scotty Cameron เท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยให้ผู้เล่นมีความมั่นใจมากขึ้น และสามารถพัตต์ในระยะสั้น ถึงระยะกลางได้มีความแน่นอนมากขึ้น จากการเป็นระยะพัตต์ที่ความเร็วเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เช่น เมื่อพยายามที่จะพัตต์ให้ลูกหยุดอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ
ดีไซน์พัตเตอร์ทรงมัลเล็ทขนาดปานกลางแบบใหม่: ในรุ่นใหม่ปี 2025 ยังมีการนำเสนอรูปทรงมัลเล็ทขนาดปานกลาง ในรุ่น Fastback และ Squareback โดยทั้งสองรุ่นได้ถูกออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด และมีจุดเด่นที่การจัดวางน้ำหนักแบบ “ring-weighted” ที่เป็นการกระจายน้ำหนักออกโดยรอบ เพื่อการให้การชดเชยความผิดพลาด และความมั่นคงที่สูงมากขึ้น ในรูปทรงขนาดกะทัดรัด สร้างขึ้นจากวัสดุสเตนเลส 303 และอลูมินัม 6061 เกรดอากาศยาน เช่นเดียวกับหน้าอินเสิร์ทที่เป็นจุดเด่นของซีรี่ส์อย่างหน้าอินเสิร์ท Studio Carbon Steel (SCS) แบบใหม่ นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยแนวเล็งแบบ high-contrast จากโครงสร้างแบบหลากหลายวัสดุแบบใหม่ เพื่อช่วยให้ผู้เล่นสามารถรักษาหน้าพัตเตอร์ให้สแควร์ได้กว้างขึ้น จนถึงจังหวะกระทบกับลูก
รุ่น LONG DESIGN: เพื่อการให้ความมั่นคงสูงสุด ได้มีการนำเสนอโมเดล Long Design ที่เป็นพัตเตอร์แบบ counterbalanced ในรุ่น Fastback และ Squareback แบบเดียวกันกับรุ่น Long Design ของ Scotty Cameron ในปี 2024 โดยแต่ละโมเดลถูกปรับแต่งมาด้วยก้านที่มีความแข็งขึ้น, ทังสเตนที่หัวพัตเตอร์ที่มีน้ำหนักมากกว่า และกริพขนาด 17 นิ้วที่ไม่ได้ไล่ระดับ เพื่อการออกแบบที่ใช้งานง่าย สามารถให้ความมั่นคงสูงสุด สำหรับเทคนิคการพัตต์แบบดั้งเดิม
รุ่นสำหรับมือซ้าย: ผู้เล่นมือซ้ายสามารถเพลิดเพลินไปกับตัวเลือกพัตเตอร์ทรงเบลด และทรงมัลเล็ทขนาดปานกลางของ Scotty Cameron ที่มีให้เลือกมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยตัวเลือกสี่รุ่นย่อยสำหรับมือซ้ายที่แตกต่างกัน ประกอบด้วย Newport 2, Newport 2.5 Plus, Fastback 1.5 และ Catalina
โมเดลย่อยของ STUDIO STYLE 2025: โมเดลย่อยของ Studio Style รุ่นใหม่ มีตัวเลือกให้สามารถเลือกได้ทั้งความยาวก้าน 33, 34 และ 35 นิ้ว แต่ละโมเดลมาพร้อมการปรับแต่งที่คอและก้านที่เฉพาะตัว (เช่น plumbing neck, jet neck หรือ mid-bend shaft) พร้อมการออกแบบน้ำหนักที่ฐานด้านล่างอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผู้เล่นมีความยืดหยุ่นสูงสุด สำหรับทั้งขนาด, ความชื่นชอบ, ความรู้สึกที่สม่ำเสมอ และความสมดุล ในทุกความยาวก้าน
ทั้งสิบสองโมเดลมีกำหนดวางตลาด ในวันที่ 14 มีนาคม 2025 นี้
- Studio Style Newport: ถูกออกแบบ, กลึงอย่างแม่นยำ และประกอบขึ้นในสหรัฐฯ จากวัสดุสเตนเลส 303, โดยทรงเบลดสุดคลาสสิคนี้ มาพร้อมส่วนโค้งมนอย่างที่คุ้นเคย พร้อมด้วยหน้าอินเสิร์ท Studio Carbon Steel (SCS), คอ I-beam plumbing neck, การทำสีแบบโลหะขัดด้าน และหมุดน้ำหนักทังสเตนที่ฐานด้านล่างที่สามารถปรับแต่งได้
- Studio Style Newport Plus: มีขนาดโครงสร้างที่กว้างกว่าเล็กน้อย พร้อมแนวเล็งแบบเส้น โดยพัตเตอร์ที่ถูกกลึงอย่างแม่นยำจากวัสดุสเตนเลสนี้ มาพร้อมกับคอ plumbing neck, หน้าอินเสิร์ท SCS และเทคโนโลยีการกลึงหน้าพัตเตอร์ chain-link แบบใหม่ พร้อมหมุดน้ำหนักสเตนเลส และแผ่นน้ำหนักอลูมินัม 6061 เกรดอากาศยาน ที่ฐานด้านล่าง เพื่อเพิ่ม MOI
- Studio Style Newport 2: รูปทรงระดับไอคอนที่ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ด้วยรูปทรงที่ถูกปรับแต่งใหม่, ขอบมุมที่มีความคมชัด, หน้าอินเสิร์ท SCS แบบใหม่, เทคโนโลยีการกลึงหน้าพัตเตอร์ chain-link และขอบด้านบนที่หนาขึ้นเล็กน้อย รวมถึงยังมีจุดเด่นที่หมุดน้ำหนักทังสเตนที่ฐานด้านล่างที่สามารถปรับแต่งได้, ฐานแบบ tri-sole ที่ถูกปรับแต่งใหม่ และคอ I-beam plumbing neck พร้อมตัวเลือกสำหรับนักกอล์ฟมือซ้าย
- Studio Style Newport 2 Plus: มีขนาดที่กว้างขึ้นเล็กน้อยจาก Newport 2 แต่แคบกว่า Squareback 2 โดย Newport 2 Plus ถูกกลึงขึ้นจากวัสดุสเตนเลส 303 พร้อมหน้าอินเสิร์ท SCS ที่ให้ความรู้สึกนุ่ม รวมถึงการผสานเข้ากับแผ่นน้ำหนักอลูมินัม 6061 เกรดอากาศยานที่ฐานด้านล่าง เพื่อให้ MOI ที่สูงขึ้น และเพิ่มความเสถียร ควบคู่ไปกับหมุดน้ำหนักสเตนเลสที่ฐานด้านล่างที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ สำหรับความสมดุล และการให้ความรู้สึก
- Studio Style Newport 2.5 Plus: ถูกสร้างขึ้นแบบเดียวกันกับ Newport 2 Plus แต่ด้วยคอแบบ I-beam-style jet neck เพื่อเพิ่มการหมุนปลายพัตเตอร์ และมาพร้อมหน้าอินเสิร์ท SCS, ระบบซับแรงสั่นสะเทือนที่ถูกพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น และเทคโนโลยีการกลึงหน้าพัตเตอร์แบบ chain-link เช่นเดียวกันกับการประกอบเข้ากับแผ่นน้ำหนักอลูมินั่ม 6061 เกรดอากาศยาน เพื่อให้การกระจายน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น, เพิ่ม MOI และให้ความสมดุลที่ดียิ่งขึ้น มาพร้อมตัวเลือกสำหรับมือซ้ายด้วยเช่นกัน
- Studio Style Squareback: ถูกออกแบบขึ้นใหม่โดยสมบูรณ์แบบ ด้วยมุมมองของฐานด้านล่างที่ถูกปรับแต่งใหม่ ช่วยให้การเล็งที่สแควร์มากขึ้น โดยโมเดลที่ใกล้เคียงกับ face balanced และมาพร้อมคอ mid-bend shaft นี้ ยังถูกปรับแต่งให้มีเสียง และความรู้สึกที่นุ่มนวล จากหน้าอินเสิร์ท SCS และเทคโนโลยีการกลึงหน้าพัตเตอร์ chain-link แบบใหม่
- Studio Style Squareback 2: โมเดลที่ประกอบขึ้นจากหลากหลายวัสดุนี้ ยังคงถูกวิวัฒนาการในฐานะพัตเตอร์ทรงมัลเล็ทขนาดปานกลาง ที่มาพร้อมกับคอ I-beam plumbing neck ที่คุ้นเคย พร้อมแนวเล็งที่เหนือกว่า จากเหลี่ยมมุม และการประกอบวัสดุเสริมที่ฝั่งโคน และปลาย และการพัฒนาของรูปร่างโครงสร้างที่ฐาน ซึ่งช่วยให้สามารถจรดลูกให้สแควร์ได้ดียิ่งขึ้น พร้อมความรู้สึกนุ่มจากหน้าอินเสิร์ท SCS โดยโครงสร้างจากวัสดุสเตนเลส 303 ที่ประกอบเข้ากับแผ่นน้ำหนักอลูมินัม 6061 เกรดอากาศยาน เพื่อให้การกระจายน้ำหนักที่สมดุล
- Studio Style Squareback 2 Long Design: สร้างให้ยาวขึ้นที่ขนาด 38 นิ้ว พร้อมหมุดทังสเตนที่ฐานด้านล่างที่หนักขึ้นขนาด 25 กรัม และกริพขนาด 17 นิ้ว น้ำหนัก 135 กรัม แบบ pistol-style เช่นเดียวกับก้านที่ยาวขึ้น, แข็งขึ้น โดยรุ่นนี้ถูกออกแบบเพื่อช่วยให้มือของผู้เล่น สามารถทำงานประสานกับไหล่ได้ดียิ่งขึ้น
- Studio Style Fastback: การพัฒนาใหม่ของรูปทรงมัลเล็ทขนาดปานกลาง ที่มีความโค้งมนนี้ มาพร้อมคอ mid-bend shaft สำหรับการให้ประสิทธิภาพใกล้เคียง face balanced พร้อมการใส่วัสดุเสริมที่โคน-ปลาย เพื่อการให้แนวเล็งแบบสองโทนสี และเพิ่ม MOI ด้วยแผ่นน้ำหนักอลูมินัม 6061 ที่ฐานด้านล่าง เสริมด้วยเสียง และความรู้สึกที่นุ่มนวลจากการอินเสิร์ทหน้าพัตเตอร์ SCS และเทคโนโลยีการกลึงหน้าพัตเตอร์ chain-link แบบใหม่
- Studio Style Fastback Long Design: สร้างขึ้นสำหรับผู้เล่นที่มองหาความเสถียรในการสโตรกพัตต์ โดยรุ่นนี้ถูกออกแบบอย่างตั้งใจให้มีขนาดยาว 38 นิ้ว และให้มีน้ำหนักที่หนักขึ้น จากหมุดน้ำหนักทังสเตนขนาด 25 กรัม พร้อมกริพยาว 17 นิ้ว น้ำหนัก 135 กรัมแบบ pistol-style รวมถึงก้านที่ยาวขึ้น, แข็งขึ้น และคอ mid-bend shaft เพื่อช่วยให้มือของผู้เล่นสามารถเชื่อมต่อกับไหล่ได้ดียิ่งขึ้น
- Studio Style Fastback 1.5: แตกต่างด้วยการให้อัตราการหมุนที่ปลายพัตเตอร์ที่มากกว่า จากคอ I-beam jet neck ที่ให้ออฟเซ็ตขนาด ¾ ของก้าน โดยพัตเตอร์รูปทรงมัลเล็ทขนาดปานกลางรุ่นนี้ เป็นการกลับมาพร้อมการออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด สำหรับผู้เล่นที่มองหาความรู้สึกของพัตเตอร์ทรงเบลด แต่ด้วยประสิทธิภาพของพัตเตอร์ทรงมัลเล็ทขนาดกะทัดรัด และขับเคลื่อนด้วยหน้าอินเสิร์ท SCS และแนวเล็งตั้งฉากแบบสองโทนที; มาพร้อมตัวเลือกสำหรับมือซ้ายด้วยเช่นกัน
- Studio Style Catalina: ด้วยขนาดที่กว้างกว่ามาตรฐาน และเป็นพัตเตอร์ทรงเบลดที่มี MOI สูง พร้อมคอ single bend shaft ที่เสียบตรงบริเวณด้านโคน ในโมเดลใหม่นี้เป็นการนำชื่อในอดีตกลับมาอีกครั้ง โดยให้เสียงที่นุ่ม และความรู้สึกที่เหนือกว่า พร้อมประสิทธิภาพที่ไม่มีใครเทียบได้ของหน้าอินเสิร์ท SCS; วางตลาดพร้อมตัวเลือกสำหรับมือซ้ายด้วยเช่นกัน
หมุดน้ำหนัก และก้านของ STUDIO STYLE: ในแต่ละโมเดลของพัตเตอร์ Studio Style โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพการจัดวางน้ำหนัก จากหมุดน้ำหนักสองตำแหน่งที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ บริเวณด้านโคน-ปลาย (ทังสเตน หรือสเตนสตีล ขึ้นอยู่กับแต่ละโมเดล) และก้านเหล็กแบบไร้ปล้อง
กริพ FULL CONTACT SLIM แบบใหม่: ด้วยความรู้สึกสบายจากผิวสัมผัส chain-link เพื่อให้เข้ากับรูปแบบการกลึงหน้าพัตเตอร์แบบใหม่ กริพ Full Contact Slim ที่มีรูปทรงแบบ paddle-style ได้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสโตรกของทั้งพัตเตอร์ทรงเบลด และมัลเล็ทขนาดปานกลาง รูปทรงที่มีความเฉพาะตัว และมีความแบนที่ด้านปลาย จะช่วยให้ความรู้สึกในการจับที่สบาย และเพิ่มการเชื่อมต่อระหว่างมือกับพัตเตอร์ พร้อมช่วยให้สามารถเล็งร่างกายได้ดียิ่งขึ้นไปพร้อมกัน
การทำสี และการตกแต่งกราฟิก: หัวพัตเตอร์สเตนเลสของ Studio Style รุ่นใหม่ปี 2025 ทุกชิ้นจะต้องผ่านกระบวนการขัดสีซาติน เพื่อให้ได้ลักษณะพื้นผิวที่มีความสว่างทนต่อแสงสะท้อน และเงางามอย่างแทบจะถาวร ส่วนประกอบอะลูมิเนียมเกรดอากาศยาน 6061 จะถูกขัดสี และผ่านกระบวนการอโนไดซ์ เพื่อให้สีของอลูมินัมที่ชัดใส ขณะที่การทำจุด cherry อันเป็นเอกลักษณ์ของ Scotty ด้วยสีแดงโปร่งแสงที่ด้านหลัง โดยถูกกลึงลงบนสเตนเลสสตีล รวมถึงการสลักตราสัญลักษณ์ 7 Point Crown บนหน้าพัตเตอร์ เช่นเดียวกับการแกะสลักในจุดอื่นๆ และบริเวณเส้นหลัง จะถูกทำด้วยสีดำ jet black, ทอง และสีแดงเชอรี่โปร่งแสง
กำหนดวางตลาด และราคา: พัตเตอร์ Scotty Cameron Studio Style รุ่นใหม่ มีกำหนดวางตลาดพร้อมกันทั่วโลก เริ่มต้นวันที่ 14 มีนาคม 2025 นี้ ผ่านร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Titleist