เหิมเกริม! เจ้าหน้าที่คฝ. ถูกยิงหัวทะลุหมวกอาการสาหัส

เจ้าหน้าที่คฝ.ถูกยิงเข้าที่ศีรษะทะลุหมวกกันน็อคอาการสาหัส หลังเจ้าหน้าที่เข้ากระชับพื้นที่แฟลตดินแดง และตรวจค้นอาคาร

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 64 โดยเวลา 22.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ได้เข้ามากระชับพื้นที่แฟลตดินแดง 1 และ 2 พร้อมขึ้นไปตรวจตราภายในอาคาร โดยมีการยิงกระสุนยางเป็นระยะ พร้อมขอให้สื่อมวลชน ไปรวมตัวที่ใต้ทางด่วนดินแดง และอยู่ในเส้นที่กำหนด เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย พร้อมขอตรวจเอกสารและคัดกรองผู้สื่อข่าว เนื่องจากเลยเวลาเคอร์ฟิว

ต่อมาเมื่อเวลา 22.43 น. มีผู้ถูกจับกุมแล้ว 16 ราย ซึ่ง 1 ในนั้น พบว่าเป็นชายสวมชุดวินจักรยานยนต์ 1 ราย พร้อมยึดรถจักรยานยนต์ได้ 1 คัน หลังจากก่อนหน้านี้กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ ที่วางกำลังอยู่ที่แยกมิตรไมตรี ทำให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจเข้ามากระชับพื้นที่ จนมีการปะทะกันเกิดขึ้นบริเวณซอยต้นโพธิ์ข้างแฟลตดินแดง และสามารถเข้าจับกุมได้ดังกล่าว

หลังจากนั้นอีกประมาณเกือบชั่วโมง ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบชนิดยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ ทะลุหมวกกันน็อค บริเวณ ซ.ต้นโพธิ์ เขตดินแดง อาการสาหัส ทราบชื่อ ส.ต.ต.เดชวิทย์ เล็ทเทนสัน ผบ.หมู่ กองกำกับการ อารักขา 1 อยู่ระหว่างทำการรักษาในห้องฉุกเฉิน

 

 

 

ต่อมา พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวชี้แจงกรณีการเข้าปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ที่บริเวณแยกดินแดง ว่า เมื่อวันที่ 6 ต.ค.64 ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวกันตั้งแต่ช่วงเย็น ที่บริเวณซอยมิตรไมตรี 2 และบริเวณแยกดินแดง จากนั้นได้มีการเผาทำลายทรัพย์สินหลายรายการ ที่บริเวณใต้ทางด่วนแยกดินแดง รวมถึงมีการขว้างปาระเบิดและประทัดต่างๆ จนกระทั่งเวลา 22.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ได้เข้าปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายในการรักษาความสงบเรียบร้อย และจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 16 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุจำนวนมาก เช่น พลุ ระเบิดปิงปอง ระเบิดแสวงเครื่อง หนังสติ๊ก และลูกแก้ว เป็นต้น

 

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่อว่า ต่อมาช่วงเวลาประมาณ 22.43 น. ที่บริเวณใต้แฟลตดินแดง มีเจ้าหน้าที่ คฝ.ถูกยิงเข้าที่ศีรษะได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งในขณะนี้เวลาประมาณ 00.45 น. วันที่ 7 ต.ค.64 เจ้าหน้าที่ คฝ.ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสรายดังกล่าว ทราบชื่อคือ ส.ต.ต.เดชวิทย์ เล็ทเทนสัน ผบ.หมู่ กก.อารักขา 1 ยังคงได้รับการรักษาจากทีมแพทย์ รพ.ตำรวจ อยู่ในห้องฉุกเฉิน เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และขอให้ประชาชนที่ไม่มีความจำเป็นอย่าออกมานอกเคหสถาน เนื่องจากเป็นช่วงเวลาห้ามออกนอกเคหสถานตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และเพื่อความปลอดภัย หากมีความคืบหน้าอย่างไรจะรายงานให้ทราบต่อไป

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น