กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ หรือ กอนช.สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 7 ตุลาคม ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ และมีฝนตกหนักมากบางแห่งในภาคใต้ฝั่งตะวันตก แม่น้ำสายหลักทั่วประเทศ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ยกเว้นภาคเหนือมีแนวโน้มลดลง
ส่วนปริมาณน้ำทั้งประเทศ 55,957 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 68% แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 49,268 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 69% เฝ้าระวังน้ำน้อยในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 5 แห่ง เฝ้าระวังน้ำมาก จำนวน 16 แห่ง และประกาศเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำมูล โดย ประเมินมวลน้ำหลากสูงสุดจากลำตะคอง ลำจักราช จังหวัดนครราชสีมา และลำน้ำสาขาลุ่มน้ำมูลตอนบน คาดการณ์มวลน้ำสูงสุดจะไหลผ่าน จังหวัดอุบลราชธานี ในช่วงวันที่ 8 – 11 ตุลาคม 2564 ส่งผลให้มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 0.5-1.00 เมตร โดยมีพื้นที่เสี่ยงระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่งบริเวณพื้นที่ริมแม่น้ำมูล อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ,อำเภอชุมพลบุรี อำเภอท่าตูม อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ,อำเภอโพนทราย อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด และ 8 อำเภอของจังหวัดศรีสะเกษ อาทิ อำเภอเมือง อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ อำเภอราษีไศล รวมทั้งมวลน้ำหลากจากแม่น้ำชี จะไหลมารวมกับแม่น้ำมูล คาดการณ์มวลน้ำสูงสุดจะไหลผ่าน จังหวัดอุบลราชธานี ในช่วงวันที่ 16 – 20 ตุลาคม โดยกอนช.เร่งระบายน้ำที่ไม่สามารถเก็บกักได้ลงแม่น้ำโขง
ทั้งนี้ที่ประชุม กอนช. ยังได้ติดตามสถานการณ์และการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์พายุที่อาจจะเข้าสู่พื้นที่ภาคใต้ตอนบนและภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งคาดว่าตุลาคมนี้มีโอกาสฝนตกเพิ่มขึ้น