จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊ซรายหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์ข้อความว่า “เสียใจนะคะมาด่ากันแบบนี้ ถึงพวกคุณจะลบเมนเต์เราก็ยังเจ็บในใจจากโพสต์นี้ ก่อนจะตัดสินคนอื่น ขอให้เอาสมองไตร่ตรองซักนิดนะคะ ว่าเขาโกงไหม ไม่ใช่พูดเลยเม้นเลย ใครที่รู้จักเรา บางคนเราแจกฟรีด้วยซ้ำ เพราะนมที่ได้ฟรี แต่ที่ขายคือ เราซื้อมา อย่าให้สมองคุณไม่พัฒนา เรามีการศึกษาพอ อันได้ถูกอันไหนผิด คงไม่ไปลักของโรงเรียนมาขายคะ ใครสนใจซื้อเลยจร้าร้านนี้มีเก็บเงินปลายทาง” พร้อมรูปภาพนมโรงเรียน และรูปเพจที่ตนซื้อนมโรงเรียน ลงในกลุ่มคนบึงสามพัน-สมอทอด จ.เพชรบูรณ์
ซึ่งต่อมา นางสาวธุวดารา สุขมา อายุ 31 ปี เจ้าของโพสต์ เปิดเผยว่านมที่โพสต์ขายซื้อมาจากเพจที่ขายนมโรงเรียน ซึ่งตนก็ได้ซื้อมาหลายครั้งแล้วเพราะลูกไม่กินนมยี่ห้ออื่น ที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยโพสต์ขาย แต่วันเกิดเรื่องลูกได้รับทุนจากโรงเรียน และได้นมโรงเรียนมาอีก 1 ลัง ตนคิดว่าลูกคงกินไม่ทันแน่ๆ จึงได้ตัดสินใจโพสต์ขายเพื่อจะได้มีเงินไปซื้อขนมให้ลูกก็เท่านั้น ไม่คิดว่าจะผิดกฎหมายหรือมีคนเข้ามาต่อว่าตนถึงขั้นทุจริตอะไรขนาดนี้
ล่าสุดวันนี้ (7 ตุลาคม 2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางมณีรัฏ เทียมครู รองศึกษาธิการจังหวัดเพชรบูรณ์ รักษาราชการในตำแหน่งศึกษาธิการจังหวัดเพชรบูรณ์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ว่า นมโรงเรียนที่ทางผู้ปกครองได้รับแจกจากโรงเรียน คือ ไม่ให้นำไปประกาศขาย ตามนโยบายมีไว้ให้ลูกดื่ม แต่สำหรับกรณีที่ผู้ปกครองซื้อมาจากที่อื่น หรืออาจเป็นแหล่งผลิตเดียวกัน เป็นเรื่องที่ไม่สมควรนำไปโพสต์ขาย แนะนำไม่ควรนำไปจำหน่าย แต่ก็ไม่มีกฏหมายว่าห้ามนำไปดัดแปลง หรืออย่างไร แต่ก็คงต้องขอศึกษากฏหมายอีกครั้ง ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีประเด็นว่าผู้ปกครองที่รับนมไปจะเหลือไปจำหน่ายได้
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 4 ลักษณะ 2 หมวดที่ 2 ว่าด้วยแดนแห่งกรรมสิทธิ์ และการใช้กรรมสิทธิ์ มาตรา 1336 คำว่าแจกฟรี ห้ามจำหน่ายเป็นการห้ามตัวแทนจำหน่าย ส่วนผผู้ที่ได้รับ ถือว่าเป็นผู้ทรงกรรมสิทธิ์ เมื่อได้สถานะนี้แล้ว ผู้นั่นจึงมีสิทธิใช้สอย จำหน่าย ขายทรัพย์สินนั้นได้ตามแต่สะดวก