ทนายความแจ้งเอาผิด “อดีตผู้ว่าสุราษฎร์ธานี-พร้อมพวก” หลังร่วมกันยักยอกทรัพย์กว่า 19 ล้านบาท

ทนายความแจ้งเอาผิด อดีตผู้ว่าสุราษฎร์ธานี พร้อมพวก หลังร่วมกันยักยอกทรัพย์กว่า 19 ล้านบาท

วันนี้ (7 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ สน.บางซื่อ นาย สมเดช อยู่พรหม ทนายความ อายุ 64 ปี ในฐานะผู้เสียหาย ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับอดีตผู้ว่าราช การจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในข้อหายักยอกทรัพย์ 19 ล้านบาท

โดย นายสมเดช กล่าวว่า ในวันนี้ตนได้นำหลักฐานเอกสารในการว่าจ้างให้ดำเนินการออกโฮนดที่ดิน จำนวน 7 แปลง ซึ่งจ่ายเป็นแคชเช็ค รวม 2 ฉบับ โดยจ่ายในนาม นาย ฉัตรป้อง ฉัตรภูติ เพื่อแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดีกับ นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ หรือ “ฉัตรภูลิ” อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมพวก รวม 3 คน ในฐานความผิดยักยอกทรัพย์ เป็นเงินจำนวน 19 ล้านบาท

“สำหรับตนมีอาชีพเป็นทนายความรับจ้างว่าความทั่วราชอาณาจักร เมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา ได้รับการว่าจ้าง จากลูกความรายหนึ่ง ให้ดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอออกโฉนดที่ดินของลูกความเอง จำนวน 7 แปลง หรือประมาณ 750 ไร่ ในตำบลหนองใหญ่ อำเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี โดยก่อนหน้านี้ ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดิน ส.ค.1 ซึ่งยังไม่มีโฉนด และเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ ตนเองและทีมงานได้ติดต่อขอรับค่าจ้างที่ตกลงกันไว้ เป็นที่ดิน 80 ไร่ ลูกความจึงขอชำระค่าจ้างโดยแบ่งที่ดินดังกล่าวให้ส่วนหนึ่งแทนเงินสด และในวันนัดโอนที่ดินระหว่างตนเองและลูกความนั้น ตนเองก็ได้ประกาศขายที่ดินในส่วนที่ได้รับโอนในราคาประมาณ 19 ล้านบาท ซึ่งลูกความเห็นว่าตนเองประกาศขายในราคาถูก จึงขอซื้อคืน โดยจ่ายเงินเป็นแคชเชียร์เช็ค 2 ฉบับ บัญชีธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาบึงกุ่ม ลงวันที่ 5 ตุลาคม 64 ซึ่งฉบับที่ 1 เลขที่ 00574470 สั่งจ่ายเป็นเงิน 10 ล้านบาท ฉบับที่ 2 เลขที่ 00574469 สั่งจ่ายเป็นเงิน 9 ล้านบาท” นายสมเดช กล่าว

นายสมเดช กล่าวต่อว่า เมื่อถึงวันส่งม็อบเช็ค ปรากฏว่าเช็คดังกล่าวไม่ใช่ชื่อของตนเอง แต่เป็นชื่อบัญชีคนกลางคือนายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ หรือฉัตรภูลิ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยลูกความให้เหตุผลว่า ต้องการให้เงินผ่านบัญชีคนกลางเพื่อป้องกันการฉ้อโกงเกิดขึ้น ซึ่งอดีตผู้ว่าฯ คนดังกล่าวเป็นผู้กว้างขวางชาวบ้านเคารพ นับหน้าถือตา ตนเองและลูกความต่างรู้จักทั้งสองฝ่ายจึงตกลง และมีการทำบันทึกข้อความ ภาพถ่าย และมีสักขีพยานรับทราบ โดยเมื่อวานนี้ (6 ต.ค.) ตนได้เดินทางไปบ้านนายฉัตรป้อง อดีตผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานี เพื่อนัดแบ่งเงินจำนวน 19 ล้านบาทของตนเอง ปรากฏว่านายฉัตรป้อง ได้ใส่นำเงินสดใส่ถุงให้ตนเอง 6 แสนบาทเท่านั้น ซึ่งตนเองทวงถาม ก็ไม่ให้ซึ่งเงินดังกล่าวเป็นเงินที่ตนเองหามาได้โดยการทำงานแบบสุจริต ทั้งนี้จากการตรวจสอบยังพบว่าทีมงานของตนเอง ได้ร่วมมือกับนายฉัตรป้อง ในการยักยอกทรัพย์ตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดีวันนี้ โดยยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น