วันที่ 8 ต.ค. –นายชื่นชอบ คงอุดม กรรมการผู้ช่วยประจำกระทรวงการคลัง แกนนำพรรคพลังท้องถิ่นไท (พทท.) เปิดเผยว่า ตนได้ย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จริง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ต.ค.หลังจาก นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง และที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ มาชวนให้ไปช่วยงาน โดยได้ปรึกษากับ นายชัชวาลย์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท ผู้เป็นบิดาแล้วว่าจะมาช่วยงานตรงนี้ ซึ่งท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร เห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้ เพราะเห็นว่าพรรคพลังประชารัฐก็มีแนวทางเดียวกับพรรคพลังท้องถิ่นไท โดยได้ยื่นหนังสือลาออกจากกรรมการบริหารพรรคพลังท้องถิ่นไท และทำตามกติกาที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดทุกประการ จึงไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ลงนามในใบสมัครรับตนเข้าพรรคแล้ว
นายชื่นชอบกล่าวว่า ตนคุ้นเคยกับนายพีระพันธ์ ตั้งแต่เป็น ส.ส.สมัยแรกสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ด้วยกัน นายพีระพันธ์ได้ติวและสอนงาน ถือเป็นคนที่มีศักยภาพ การที่ตัดสินใจย้ายมาอยู่พรรคพลังประชารัฐ ไม่ใช่เป็นการทิ้งพรรคเล็กอย่างพลังท้องถิ่นไท แต่เพราะเห็นว่าพรรคพลังประชารัฐมีศักยภาพพอที่จะเติบโตไปเป็นสถาบันทางการเมือง เป็นเสาที่แข็งแรงในการยืนหยัด ปกป้องสถาบันหลักของชาติ ทั้งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้อยู่อย่างมั่นคงได้ในอนาคต
นายชื่นชอบ กล่าวอีกว่า สำหรับพรรคพลังท้องถิ่นไท ยังคงเดินหน้าต่อไป ตามแนวทางและนโยบายที่ได้ประกาศไว้คือการกระจายอำนาจ และยังคงจับมือกับพรรคพลังประชารัฐเหมือนเดิม ยังไม่มีการควบรวม หรือยุบมารวมกัน โดยตอนนี้บิดายังคงเดินหน้าพรรคต่อไป ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนจะตัดสินใจมาทำงานกับพรรคพลังประชารัฐด้วยหรือไม่ ยังไม่สามารถบอกได้ เพราะเป็นเรื่องของอนาคต
เมื่อถามว่า เป็นการเข้าไปเสริมทัพในฟากของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อคานอำนาจกับขั้วของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายชื่นชอบกล่าวว่า คงไม่เกี่ยวกัน เพราะทั้งนายพีระพันธ์ และตนเองทำงานให้พรรค อย่างที่นายพีระพันธ์ เคยระบุว่า พล.อ.ประวิตร ได้ชวนเข้าพรรคมานานแล้ว แต่ยังติดเงื่อนไขในการทำหน้าที่ประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาปัญหาหลักเกณฑ์ และแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 60 สภาผู้แทนราษฎร และผู้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รวมถึงสถานการณ์โควิด แต่เมื่อถึงเวลา และไม่ติดเงื่อนไขใด ก็เข้าร่วมงานกับพลังประชารัฐในเวลาที่เหมาะสม
นายชื่นชอบกล่าวต่อว่า เบื้องต้นได้รับการประสานให้เข้ามาดูแลงานด้านกฎหมาย และโครงสร้างต่างๆ ภายในพรรคร่วมกันกับสมาชิกคนอื่นๆ ซึ่งมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาใดๆ เพราะส่วนใหญ่เป็นคนที่เคยทำงานมาด้วยกัน
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า สำหรับอดีต ส.ส.และนักการเมือง ที่มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ พร้อมกับนายพีระพันธุ์ นอกเหนือจากนายชื่นชอบแล้ว ยังมีอีก 3 – 4 คน